พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

เพื่อไทรวมพลัง เปลี่ยนชื่อ ปรับโฉม เป็น “ไทรวมพลัง” ด้าน ’กังฟู' ย้ำไม่ใช่พรรคตัวแทนใคร

เพื่อไทรวมพลัง ปรับโฉมใหม่ เปลี่ยนชื่อพรรค – โลโก้ เป็น “ไทรวมพลัง” ด้าน ’กังฟู วสวรรธน์‘ ชู นโยบาย 5 ข้อ เป็นพรรคการเมือง “เสรีก้าวหน้า สายกลาง ไม่ฮาร์ดคอร์” พร้อมเป็นโซ่ข้อกลาง ระหว่างคนรุ่นเก่า – รุ่นใหม่ ทำงานร่วมกับทุกฝ่าย

20 เม.ย. 2567 ที่โรงแรมกิจตรงวิลล์ รีสอร์ท จ.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทรวมพลัง จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 1/2567 นำโดย วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย

สส. 2 คน คือ พิมพกาญจน์ พลสมัคร สส. อุบลราชธานี เขต 3 และสมศักดิ์ บุญประชม สส.อุบลราชธานี เขต 10 และสมาชิกพรรค ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาตามระเบียบวาระ โดยไฮไลท์ในวันนี้อยู่ที่การเปลี่ยนชื่อพรรค และโลโก้ในรูปแบบโฉมใหม่ โดยวสวรรธน์ ได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อเตรียมเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 

ภายหลัง วสวรรธน์ ขึ้นกล่าวเปิดประชุม และกล่าวขอบคุณสมาชิกของพรรค วสวรรธน์ ได้แจ้งต่อสมาชิกพรรคในที่ประชุมถึงการปรับเปลี่ยนชื่อพรรค และโลโก้ของพรรคเพื่อไทรวมพลัง โดยระบุถึงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงว่า เพราะตนเองก็มีวิสัยทัศน์ มีจุดยืน และอุดมการณ์ของตน พร้อมเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ของการร่วมรัฐบาล โดยย้ำว่า เราสนับสนุนแชมป์ คือพรรคก้าวไกลของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แต่ด้วยระบบของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จึงทำให้ไม่ได้ แต่มีอีกพรรคนึง คือพรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทย ของเศรษฐา ทวีสิน และเรามีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราจะปิดกั้นการเข้ามาแทรกแซงของ สว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี 

ส่วนพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น จะเอาพรรคใดมาร่วมรัฐบาลก็เป็นหน้าที่ของเขา ที่เขาต้องไปชี้แจง ซึ่งเราไม่ใช่พรรคแกนนำ ฉะนั้นตนเองจึงได้เดินสายสื่อสารทำความเข้าใจ เพราะคนในพื้นที่รับได้แค่พรรคที่ได้อันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 ซึ่งจะรับไม่ได้หากไหลไปอยู่กับพรรคอันดับที่ 3 หรืออันดับที่ 4 โดยในวันนี้เราได้ร่วมรัฐบาลแล้ว ทำงานผลักดันนโยบายเพื่อพี่น้องประชาชนให้ได้เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ของเรา

ตนเองในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ในการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และอีกหลายคณะ ที่ดูเรื่องกฎหมายต่างๆ ในหลายเรื่อง เราไม่เคยคิดว่าเราเป็นฝั่งไหน ว่าเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นฝ่ายรัฐบาล เราสามารถทำงานร่วมได้หมด ไม่ว่ากฎหมายใดก็ตามหากผ่านเข้าสู่สภา และเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เรายินดีที่จะสนับสนุน และเห็นชอบ

วสวรรธน์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนเองจะต้องลาออกจากตำแหน่งเพื่อที่จะสรรหากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งหลังจากนี้หากว่ามีสิ่งใดที่พร้อมจะทำงานให้กับพี่น้องประชาชน เราก็พร้อมที่จะรับฟัง และนำไปแก้ไขต่อไป โดยพรรคของเรามีจุดยืน และอุดมการที่ชัดเจน เราไม่ได้ลืมว่าเรามาจากท้องถิ่น มาจากเกษตรกร ซึ่งนโยบายเกี่ยวกับเกษตรกร เรื่องของแหล่งน้ำ เงินทุนในการเกษตร และหนี้สินของเกษตรกร เราไม่ได้ลืม แต่เราจะเป็นโซ่ข้อกลางระหว่างคนรุ่นเก่า และคนรุ่นใหม่ และเพื่อที่จะให้พรรคทันสมัยมากยิ่งขึ้น จุดยืนของเราคือ ”เสรีนิยมก้าวหน้าสายกลางไม่ฮาร์ดคอร์“

อย่างไรก็ตาม ก้าวหน้า สายกลาง ไม่ฮาร์ดคอร์ เราจะขอไปอยู่ในตำแหน่งพรรคการเมืองที่ทุกคนรอคอย คือ พรรคไทรวมพลัง ซึ่งไท ที่แปลว่า “คนพวกเดียวกัน” ที่รวมพลังกันเพื่อบ้านเพื่อเมือง และใครที่คิดว่าเราจะสามารถต่อยอดอุดมการในแบบเดียวกับเรา ขอให้เป็นแขนเป็นขาจับมือกันไปเรื่อยๆ โดยเราจะขอสร้างอุดมการณ์นี้ ในประเทศนี้ ใครที่คิดเหมือนกับเรา และพร้อมต่อยอดกับเรา พร้อมย้ำว่า เราจะเป็นสถาบันการเมือง เราไม่ใช่บ้าน เราเป็นพรรค ที่จะค่อยๆ เติบโต

วสวรรธน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอโอกาสเข้าไปเป็นพรรคทางเลือกในหัวใจของคนที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคการเมืองใด และย้ำว่า เราจะแสดงให้เห็นว่า เรามาจากท้องถิ่นแต่เราสามารถเติบโตได้ และไม่ได้คิดแค่เรื่องท้องถิ่นเท่านั้น

ทั้งนี้ นโยบายหลักของพรรคไทรวมพลัง ที่เสนอต่อที่ประชุม ซึ่งเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนพรรค 5 ข้อ ประกอบด้วย ยกเว้นภาษี (บุคคลธรรมดาโดยเฉพาะผู้ที่เริ่มต้นทำงาน 5 ปี เพื่อให้ตั้งตัวได้ก่อนเสียภาษี และธุรกิจสตาร์ทอัพ), เลือกตั้งผู้ว่าทุกจังหวัด, ยกเลิกวาระผู้ใหญ่บ้านตลอดชีพ ให้เหลือวาระ 4 ปี, เพิ่มเงินกองทุนฟื้นฟู แก้หนี้ เกษตรกร และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาเป็นสภาพลเมือง หุ้นส่วนพัฒนาจังหวัด สามารถเสนอกฎหมาย เข้าสภาโดยไม่จำเป็นต้องใช้ตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อยึดหลักการกระจายอำนาจให้มีปากเสียงภายในท้องถิ่น และเป็นการสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง

ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางการทำงานว่าจะร่วมกับพรรคเพื่อไทยเป็นหลักเลยหรือไม่ วสวรรธน์ กล่าวว่า เราเป็นพรรคที่พร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรคอยู่แล้ว วันนี้เราร่วมรัฐบาลอยู่ก็ต้องขับเคลื่อนนโยบายที่พรรคหาเสียงไว้ หากวันใดวันนึงเราเข้าไปอยู่ร่วมรัฐบาลแล้ว แต่ไม่สามารถเอานโยบายไปขับเคลื่อนให้เกิดกับคนในท้องถิ่นได้ เราก็อาจจะต้องพิจารณาตัวเองเหมือนกัน เพราะเราเองก็ต้องดูพี่น้องประชาชนของเราเป็นหลัก

วสวรรธน์ ยังชี้แจงว่าพรรคไทรวมพลังเกิดมาจากท้องถิ่น แต่ก็สามารถอินเตอร์ได้ เพื่อให้เป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ได้มีพื้นที่ได้ส่งเสียงทางการเมือง อย่างไรก็ตาม พรรคไทรวมพลังไม่ได้ปรับโฉมเพื่อเตรียมต่อสู้กับใคร แต่สู้กับตัวเอง เพื่อให้ทำงานมากขึ้น ขยันให้มากขึ้น รักษาสัญญาที่จะทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน เพราะโซเชียลมีเดียเร็ว เราพูดอะไรไว้ก็ต้องทำ

อย่างไรก็ตาม วสวรรธน์ ย้ำว่า พรรคของเป็นคนกลางประสานให้มีการขับเคลื่อนประเทศ พร้อมย้ำว่าทุกพรรคการเมืองออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้ หากเอาอคติออกเชื่อว่าทุกคนทำงานด้วยกันได้หมด

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในครั้งนี้ มีการปรับเปลี่ยนเพียงแค่ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ที่ดันคนรุ่นใหม่เข้ามามาช่วยขับเคลื่อนงานภายในพรรคให้ตอบโจทย์กับความเป็นพรรครุ่นใหม่ โดยในการประชุมใหญ่สามัญในครั้งนี้ มีกลุ่มเพื่อไทย โคราช และ ผู้สมัคร สส. อุบลราชธานี พรรคก้าวไกล เดินทางมามอบดอกไม้ และแสดงความยินดีอีกด้วย

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More