พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

เลื่อนคดี “บิ๊กโจ๊ก” ฟ้องหมิ่นสื่อ-อัจฉริยะ 8 ก.ค.นี้

กรณีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสำนักข่าวออนไลน์ เป็นจำเลยที่ 1 และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เป็นจำเลยที่ 2 ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

วันนี้ (22 เม.ย.2567) ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องฝ่ายโจทก์ โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ส่งทนายมาเป็นตัวแทนในการเบิกความ ส่วนนายอัจฉริยะเดินทางไปที่ศาลอาญา ตามนัด 

มีรายงานว่าภายในห้องพิจารณาทนายฝ่ายโจทก์ ได้แถลงต่อศาลว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ติดให้ถ้อยคำเร่งด่วนที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) จึงไม่สามารถเดินทางมาตามนัดได้ จึงเลื่อนนัดไต่ส่วนอีกครั้งในวันนที่ 8 ก.ค.นี้ เวลา 9.30 น.

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า หลังทนายของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้แถลงต่อศาลทาง ตัวเอง ซึ่งเป็นจำเลยได้คัดค้านต่อศาลว่าการเดินทางไปให้ถ้อยคำที่ ป.ป.ช. ไม่เป็นความจริง ทนายจึงจะต้องเบิกความแทน

ส่วนตัวมองว่าที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินทางมาเบิกความจะมีประโยชน์มากกว่า จึงเห็นด้วยให้การเลื่อนนัดไต่สวนออกไป ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ เชื่อว่าการที่พล.ต.อ.เอกสุรเชษฐ์ ฟ้องตัวเองในวันนี้เป็นพฤติกรรมการข่มขู่

ส่วนตัวไม่ขอไกล่เกลี่ย ยืนยันจะเดินหน้าแถลงเปิดโปงพฤติกรรมการทุจริตคอรัปชันของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน รวมถึงผู้ที่อยู่ในขบวนการทั้งหมดว่ามีใครถือครองทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีคนดังในวงการพระเครื่องถือครองทรัพย์สินแทน เช่น อาวุธปืน และรถหรู ที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท

ส่วนประเด็นที่มีคำสั่งจากรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้พล.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ตัวเองมองว่า เป็นเรื่องที่กระทำโดยชอบ ตามกฎหมายและขั้นตอนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว

อ่านข่าวอื่นๆ

ชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเดินทางกลับ หลังไม่มีเหตุปะทะ

“พิพัฒน์” แย้มบิ๊กเซอร์ไพรส์ค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ 1 พ.ค.

“วันคุ้มครองโลก” 10 ไอเดียน่าทำปกป้องสิ่งแวดล้อมในสวนหลังบ้าน

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More