นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เผยหลังหารือกับ เบน มอร์ลีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าระหว่างประเทศ ถึงการเล็งเซ็น MOU การค้าการลงทุน ยกระดับเศรษฐกิจ 2 ประเทศ
นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายเบน มอร์ลีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าระหว่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ว่า ไทยและสหราชอาณาจักรมีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นทั้งทางทูตและการค้าการลงทุน โดยในอนาคตหากมีการพบกันระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศก็จะเป็นโอกาสที่จะได้หารือกันถึงประเด็นต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมการค้าการลงทุน สิทธิมนุษยชน และการขจัดความยากจน นอกจากนี้ ยังสามารถจัดทำบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ด้านการลงทุนและวิธีการศุลกากรระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร และความร่วมมือการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น (ETP) ร่วมกัน ซึ่งจะต่อยอดไปสู่การจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างกันได้ต่อไป
ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมที่สหราชอาณาจักรมีศักยภาพ คือ การผลิตรถยนต์ โดยมีการตั้งโรงงานและพัฒนาทักษะให้กับแรงงานควบคู่กันไปด้วย ซึ่งขณะนี้สหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทานไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย และยังเห็นถึงโอกาสในการลงทุนด้านการศึกษาในไทยอีกด้วย โดยตนได้เชิญชวนให้บริษัทของสหราชอาณาจักรเข้ามาลงทุนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การลงทุนในพื้นที่ EEC และไทยยังได้เปรียบทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งสามารถเป็นประตูสู่ตลาดอื่น เช่น อินเดีย เป็นต้น
“ท่านนายกฯ เศรษฐา ให้ความสำคัญกับเรื่องการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ จึงมีการตั้งคณะกรรมการที่มี ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ เป็นประธาน ซึ่งได้มีการประชุมนัดแรกไปแล้ว โดยสหราชอาณาจักรและอีกหลายประเทศให้ความสนใจเรื่องกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ภาษีทรัพย์สิน การจัดทำ Business Visa ฯลฯ ซึ่งคาดว่าหลายเรื่องจะมีความคืบหน้าและเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของนักธุรกิจต่างชาติ และการเจรจาการค้าการลงทุนเพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในไทยต่อไป” นางนลินี กล่าว