วันนี้ (16 พ.ย.2566) คณะทำงานเจรจากับผู้แทนฮามาสประจำกรุงเตหะรานประเทศอิหร่าน เพื่อช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล โดยนายเลอพงษ์ ซาร์ยีด นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทยในอิหร่าน และอาจารย์มหาวิทยาลัยนานาชาติในอิหร่าน และผู้ประสานงานฝ่ายต่างประเทศ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้าพบนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรายงานผลการพูดคุยเจรจากับคณะผู้แทน ฮามาสหลังเดินทางกลับมาจากอิหร่าน
นายเลอพงษ์ เปิดเผยว่าคณะเจรจาฯ ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในอิสราเอลเกือบทุกชั่วโมง โดยก่อนหน้านี้ทางฮามาสพูดมาตลอดว่าจะปล่อยตัวแรงงานที่จับกุมไปโดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของความปลอดภัยทางด้านชีวิตและสถานการณ์หยุดยิงมากกว่านี้เนื่องจากว่าอิสราเอลยิงเข้าไปในทุกพื้นที่ทั้งโรงพยาบาล มัสยิด หากปล่อยตัวก็เกรงว่าจะส่งผลต่อชีวิตของตัวประกัน หรือเกรงว่าตัวประกันจะเสียชีวิต แต่เมื่อนานาประเทศกดดันและหลังจากที่มีการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวานนี้เพื่อให้มีการประกาศหยุดยิง 72 ชั่วโมง แลกกับการปล่อยตัวประกันที่ถูกจับกุมตัวไปและมีการช่วยเหลือลำเลียงทางด้านสิทธิมนุษยชน
ตอนแรกกลุ่มฮามาสแจ้งว่าหากมีการประกาศหยุดยิง จะมีการปล่อยตัว 70 คน แต่ล่าสุดเมื่อเช้าแจ้งมาว่า 50 คนซึ่งคณะทำงานของประธานสภาขอว่า 50 คนนี้ขอให้เป็นคนไทยทั้งหมด ซึ่งทางฮามาสก็รับปากจะมีการปล่อยตัวและแจ้งว่าจากการถล่มแต่ละครั้ง มีเชลยศึกของประเทศอื่นๆ เสียชีวิต ไปบ้าง ส่วนแรงงานไทยได้รับการรับรองว่าปลอดภัยทุกครั้งที่มีการพูดคุยกัน
ดังนั้นก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าไม่กี่วันนี้เราคงได้รับข่าวดี เพื่อสร้างความปลื้มปิติมาสู่ ครอบครัวของแรงงานที่ห่วงใยในชีวิตและความปลอดภัย จึงคิดว่าไม่น่าจะเกิน 10 วัน อาจจะ 2-3 วันนี้ก็ได้จะมีการปล่อยตัว แต่จะปล่อยเส้นทางไหนก็ต้องศึกษาถึงความปลอดภัยว่าจะปล่อยไปทางชายแดนตรงไหน ยังไม่ได้รับการยืนยันจากฮามาส แต่สิ่งที่ได้รับการยืนยันคือถ้ามีการปล่อยตัวจะคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องคนไทยและแรงงานไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทั้งนี้ตัวเลขคนไทยที่กลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันและยืนยันกับคณะทำงานขณะนี้มี 25 คน และจะปล่อยตัวคนไทยเป็นกลุ่มแรกตามที่ร้องขอแน่นอน เชื่อว่าครั้งนี้จะไม่ดีใจเก้อ
นายเลอพงษ์ ระบุว่า ได้รับการยืนยันว่า มีคนไทย 25 คน แต่กลุ่มฮามาสไม่ยืนยันตัวเลขอื่น แต่ยืนยันว่าปลอดภัย ซึ่งตัวเลขของไทย ไม่นิ่งอาจจะคลาดเคลื่อนได้อาจจะมีกลุ่มอื่นที่จับกุมไปด้วยและไม่ทราบว่าคนไทยทั้งหมดที่ถูกจับตัวไปเป็นแรงงานหรือไม่และถ้าจะปล่อยตัวจะแจ้งกลับมาที่คณะทำงานที่ปรึกษาและหลังจากนั้นอาจจะแจ้งทางสื่อโฆษกของทางฮามาส
นายเลอพงษ์ กล่าวว่าสิ่งหนึ่งที่ฮามาสให้ความสำคัญกับการพูดคุยในครั้งนี้ เพราะมองว่าทางประธานรัฐสภาและชาวชีอะห์เป็นมุสลิม ดังนั้นสิ่งที่ตนพูดคุยมาตั้งแต่เริ่มต้น จึงมีน้ำหนักในฐานะมุสลิมสามารถสื่อสารได้เข้าใจกันมากกว่า และในฐานะผู้ที่ขอร้องให้ฮามาสเห็นใจ เพราะไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง แต่เกิดปัญหาว่า แรงงานไทยเข้าไปทำในพื้นที่ขัดแย้ง
นายเลอพงษ์ ย้ำว่ากลุ่มฮามาสดูแลเชลยศึกหรือตัวประกันเป็นอย่างดี แต่อยากจะสื่อสารว่าอิสราเอลไม่ได้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัย รวมถึงการโจมตีโรงพยาบาลและทำลายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดของฉนวนกาชาดที่จะทำให้ประเทศล่มสลายได้เลย
สำหรับรูปแบบการทำงานของคณะเจรจาหลังจากนี้นั้น นายเลอพงษ์ กล่าวว่าหลังจากนี้ ยังคงติดตามสถานการณ์ ทุกชั่วโมงและประเมินตลอด ซึ่งขอยืนยันว่าสถานการณ์ในอิสราเอลขณะนี้ไม่ปลอดภัยดังนั้นคนไทยที่อยู่ที่อิสราเอลควรจะเดินทางกลับ เพราะยังคงมีความไม่สงบและโอกาสจะเสียชีวิตก็ยังมีอยู่
ด้านนายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าทราบว่าคณะเจรจากับฮามาสได้มีการประสานกันตลอดและสบายใจว่าคนไทยยังปลอดภัย ทั้งที่ขณะนี้มีการยิงจรวดและยิงกันตลอดเวลายังไม่มีการหยุดยิงแต่อย่างใด หลังจากที่ไปพูดคุยทางฮามาส พร้อมส่งคนไทยกลับมา โดยจะส่งทันทีที่เห็นว่าปลอดภัย แต่จากวันนั้นถึงวันนี้ต้องยอมรับว่ายังมีการยิงอยู่ตลอดเวลา ความปลอดภัยที่จะออกมายังไม่ได้ เพราะจะมีเครื่องมือในการติดตามตรวจสอบตลอดเวลา
ดังนั้นสิ่งที่จะเป็นไปได้คือการขอให้หยุดยิงซักระยะหนึ่ง หรือสักพักหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับทางอิสราเอลที่จะยอมรับสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ซึ่งวันก่อนหน้านี้ฮามาสขอให้หยุดยิงซัก 72 ชั่วโมงก็ยังไม่หยุดอยู่ดี แต่ยังไงก็ตามโอกาสที่จะหยุดยิงมีสูงขึ้น เพราะโลกทั้งโลกกำลังกดดันอิสราเอลและเชื่อว่าจะมีการปล่อยตัวในเร็วๆนี้ แต่จะปล่อยตัวลักษณะอย่างไรทางไหนนั้น เราคงไม่สามารถระบุได้ เพราะยังไม่ชัดเจนแต่ปล่อยตัวแน่
นายมุขยังขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า คนของเราอยู่อย่างปลอดภัยและจะปล่อยตัวในเร็วๆนี้โดยเฉพาะญาติพี่น้องของคนที่ถูกจับ ถ้าได้ฟังวันนี้ก็อาจจะคลายความกังวลใจในระดับหนึ่ง
นายมุข กล่าวด้วยว่าเป็นห่วงพี่น้องคนไทยที่ยังอยู่ที่อิสราเอล และเห็นว่า เมื่อความปลอดภัยไม่มีทุกอณู ก็ควรจะกลับประเทศไทย ขอให้เป็นห่วงตัวเองด้วย ในขณะที่เราพยายามจะช่วยแรงงานไทย ก็ขอให้ท่านช่วยตัวเองเหมือนกัน เพราะตบมือข้างเดียวคงไม่ดัง ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่มีความเป็นห่วง ดังนั้น ไม่ก้าวก่ายฝ่ายบริหาร แต่เห็นว่าสงครามยังคงมีอยู่ มีโอกาสเสียชีวิต ตัวเลขจึงไม่สามารถยืนยันได้ เราพยายามช่วยแล้วแต่อยากให้พี่น้องคนไทยที่อยู่ทางอิสราเอล ขอร้องให้กลับมาก่อน เพราะตอนนี้ยังอันตราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“วันนอร์” เผย “ฮามาส”อาจปล่อยตัวประกันคนไทยในเร็วนี้
ส่ง 5 ศพแรงงานจากอิสราเอลถึงไทย 12.15 น. วันนี้
UN สูญเสีย จนท.มากที่สุดในประวัติศาสตร์จากสงครามอิสราเอล-ฮามาส