วันนี้ (23 พ.ย.2566) นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ แถลงผลการประชุมกรรมาธิการฯ กรณีความขัดแย้งในประเทศเมียนมาที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ รวมถึงเกิดกรณีผู้ลี้ภัยจากการสู้รบที่จะเข้ามาสู่ประเทศไทย โดยได้เชิญกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และกองบัญชาการกองทัพไทย มาให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการฯ ถึงการเตรียมพร้อมรับมือหากมีการอพยพผู้ลี้ภัยมากถึง 300,000 คน
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กรรมาธิการฯ มีมติส่งหนังสือไปยังรัฐบาลในการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการรับมือต่อปัญหาดังกล่าว โดยหวังว่าการทำหน้าที่ของกรรมาธิการในวันนี้ (23 พ.ย.) จะทำให้รัฐบาลมีความพร้อม และเห็นความสำคัญของสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเตรียมมาตรการการรับมือในมิติสิทธิมนุษยชนและด้านเศรษฐกิจ
นายรังสิมันต์ ยังเปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจากแอมเนสตี้ ประเด็นเรื่องโทษทางการเมืองในกระบวนการยุติธรรม จึงตั้งคณะทำงานศึกษาถึงผลกระทบจากการใช้กฎหมายต่าง ๆ ทั้งกรณีคดีตามมาตรา 112 คดีความมั่นคง โดยมอบหมายให้นายปิยรัฐ จงเทพ กรรมาธิการ เป็นหัวหน้าคณะทำงานศึกษาคณะดังกล่าว
กรรมาธิการฯ ยังมีมติกรณีตั๋วตำรวจ แต่เมื่อมีเบาะแสข้อมูลจากการพูดของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าอาจมีเรื่องตั๋วผู้กำกับ ก็ได้มีการแลกเปลี่ยนหารือในกรรมาธิการ โดยมีมติว่าในวันที่ 7 ธ.ค.2566 จะพิจารณาประเด็นตั๋วตำรวจโดยจะเชิญนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ หวังว่าจะได้รับความร่วมมือในการชี้แจงอธิบายต่อข้อห่วงใยจากกรรมาธิการว่านายกรัฐมนตรี และ สส.ในสังกัดพรรคเดียวกันเกี่ยวข้องกับเรื่องการแต่งตั้งตำรวจระดับผู้กำกับหรือไม่
นอกจากนี้ กรรมาธิการฯ มีมติตั้งคณะอนุกรรมมาธิการพิจารณาศึกษากฎหมายความมั่นคง 3 ฉบับ โดยมีนายรอมฎอน ปันจอร์ สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการฯ เป็นประธาน ประกอบไปด้วย พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ, พ.ร.บ.กฎอัยการศึก และ พร.บ.การบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน