เฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ภายใต้การนำของรัฐบาลประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ซึ่งต่อมากลายเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่โดดเด่นในศตวรรษที่ 20 เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 100 ปี
คิสซิงเจอร์ แอสโซซิเอทส์ บริษัทที่ปรึกษาของคิสซิงเจอร์ ได้ประกาศการเสียชีวิตของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในแถลงการณ์เมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมา (29 พ.ย.) โดยไม่ได้เปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตแต่อย่างใด
คิสซิงเจอร์เป็นนักการทูตระดับชั้นนำของสหรัฐฯ ที่มีชื่อเสียง และคอยให้คำปรึกษาแก่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลายสิบคน รวมถึง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน เกี่ยวกับประสบการณ์การดำเนินนโยบายด้านการต่างประเทศของตัวเอง ทั้งนี้ คิสซิงเจอร์ยังเคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จากการเจรจาเพื่อยุติสงครามเวียดนามด้วย
อย่างไรก็ดี คิสซิงเจอร์เป็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน และความพยายามในการปกป้องบริษัทนายทุนสหรัฐฯ โดยผู้เห็นต่างกับเขาโจมตีว่าคิสซิงเจอร์เป็นอาชญากรสงคราม
ทั้งนี้ คิสซิงเจอร์เคยให้การสนับสนุนอดีตผู้นำเผด็จการอินโดนีเซียในการรุกรานติมอร์ตะวันออก สนับสนุนการรุกรานแองโกลาโดยระบอบการปกครองเหยียดผิวของแอฟริกาใต้ และการทำงานร่วมกับ CIA ในการสนับสนุนการทำรัฐประหารในชิลี เพื่อโค่นล้มอำนาจประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายที่มาจากการเลือกตั้ง นอกจากนี้ คิสซิงเจอร์ยังเคยอนุญาตให้มีการดักฟังผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ของตัวเองด้วย
คิสซิงเจอร์เป็นนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ก่อนที่จะมาเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อนิกสันชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2511 ทั้งนี้ คิสซิงเจอร์ทำงานอย่างใกล้ชิดกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเขามีอิทธิพลในการตัดสินใจครั้งสำคัญเกี่ยวกับสงครามเวียดนาม รวมถึงการทิ้งระเบิดลับในกัมพูชาในปี 2512 และ 2513 ซึ่งเป็นนโยบายที่นิกสันเรียกว่าเป็น “ทฤษฎีคนบ้า” หรือเป็นความพยายามที่สหรัฐฯ ทำให้เวียดนามเหนือเชื่อว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะทำทุกอย่างเพื่อยุติสงคราม
คิสซิงเจอร์รอดพ้นจากการล่มสลายลงจากอำนาจของนิกสัน ในกรณีอื้อฉาววอเตอร์เกต ตามมาด้วยการทำงานให้กับ เจอรัลด์ ฟอร์ด อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และออกจากการมีอำนาจในรัฐบาล หลังจาก จิมมี คาร์เตอร์ ชนะการเลือกตั้งในปี 2519 ทั้งนี้ นโยบายของคิสซิงเจอร์ที่มีต่อสหภาพโซเวียตเลือกที่จะไม่ใช้การเผชิญหน้ากัน นอกจากนี้ คิสซิงเจอร์ยังให้การสนับสนุนการรุกรานอิรักของ จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ด้วย
บริษัทของคิสซิงเจอร์กล่าวเมื่อวันพุธว่า คิสซิงเจอร์เสียชีวิตที่บ้านของเขาในมลรัฐคอนเนตทิคัต และโลงบรรจุร่างของเขาจะถูกฝังในงานศพของครอบครัวเป็นการส่วนตัว และจะมีการจัดพิธีรำลึกในมลรัฐนิวยอร์กในภายหลัง
คิสซิงเจอร์หลบหนีจากภัยนาซีเยอรมนีในฐานะวัยรุ่นชาวยิวพร้อมกันกับครอบครัวของเขามายังสหรัฐฯ โดยในช่วงบั้นปลายชีวิตของคิสซิงเจอร์ เขาได้สร้างชื่อเสียงในฐานะรัฐบุรุษที่ได้รับความเคารพนับถือ ด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ ให้คำแนะนำแก่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต และบริหารจัดการธุรกิจที่ปรึกษาระดับโลก ทั้งนี้ คิสซิงเจอร์เคยปรากฏตัวที่ทำเนียบขาวภายใต้ยุคของ โดนัลด์ ทรัมป์ อยู่หลายครั้ง
คิสซิงเจอร์มีอายุครบ 100 ปีในเดือน พ.ค. 2566 โดยในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ CBS ก่อนวันเกิดของเขา เกี่ยวกับผู้ที่มองว่านโยบายต่างประเทศของเขามี “ความผิดฐานอาชญากรรม” คิสซิงเจอร์ได้เพิกเฉยต่อคำวิจารณ์เหล่านั้น “นั่นเป็นภาพสะท้อนของความไม่รู้ของพวกเขา” คิสซิงเจอร์กล่าวถึงนโยบายการต่างประเทศของเขา “มันไม่ได้คิดในแบบนั้น มันไม่ได้ดำเนินการแบบนั้น”
ที่มา: