ทันทีที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศเรื่องแต่งตั้งองคมนตรี โดยแต่งตั้ง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ให้เป็นองคมนตรีคนที่ 19 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมกับข้อความระบุว่า ได้ติดต่อไปหาบิ๊กตู่เพื่อแสดงความยินดีกับตำแหน่งใหม่และภารกิจใหม่อันมีเกียรติยศและมีความสำคัญยิ่งทั้งต่อตัวท่านเอง ต่อประเทศ และต่อสถาบันหลักของชาติ
พร้อมชมเป็นคนดีที่มีความสามารถมีความรอบรู้ในการบริหารและการพัฒนาบ้านเมืองเป็นที่ประจักษ์ ที่สำคัญที่สุดคือเป็นผู้มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษั ตริย์ยิ่งชีวิต
เช่นเดียวกับ นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ภาพคู่ “บิ๊กตู่” พร้อมกับแสดงความยินดีเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านั้น แต่หากเข้าไปส่องคนดังและประชากรในโลกโซเชียลและติ๊กต็อกพบว่า มีการนำรูป “ลุงตู่” และเพลงจังหวะโจ๊ะๆใส่ภาพประกอบ พร้อมถ้อยคำแสดงความยินดีกับองคมนตรีคนใหม่อย่างเกรียวกราว
จนทำให้ #องคมนตรี และ #ประยุทธ์ ขึ้นติดเทรนด์บน x ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว
และวันนี้ 30 พ.ย.2566 ครบ 100 วัน สำหรับการพักฟื้นรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา และถือเป็นการกลับครั้งแรกในรอบ 17 ปี หลังจากหนีคดีออกจากประเทศไทยไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.2551
หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังนายทักษิณเดินทางเหยียบแผ่นดินไทย ด้วยเครื่องบิน Gulf stream รุ่น G650-ER เครื่องบินส่วนตัวของทักษิณ โดยใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวและเนคไทสีแดง มี ลูกทั้ง 3 คน น.ส.แพทองธาร น.ส.พินทองทา และนายพานทองแท้ พร้อมด้วยนักการเมืองหลายคนมารอต้อนรับ อาทิ เช่น นายภูมิธรรม เวชยชัย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รวมถึงแฟนคลับเสื้อแดงอีกจำนวนหนึ่ง
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวทักษิณ ออกจากสนามบินดอนเมือง เดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยศาลฎีกาฯ บังคับโทษ 3 คดี นับโทษรวมจำคุก 8 ปี และราชทัณฑ์ได้ตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครทันที โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในบริเวณรั้วของเรือนจำอย่างเด็ดขาด
และหลังจากเข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพียงแค่ 12 ชั่วโมง ระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ที่แดน 7 ในเรือนจำดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการกักโรค ทักษิณ มีอาการนอนไม่หลับ แน่นหน้าอก วัดความดันโลหิตสูง ระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ จึงนำตัวไปโรงพยาบาลตำรวจเพื่อทำการรักษา เมื่อเวลา 00.20 น ของวันที่ 23 ส.ค.
และมีการผ่าตัดอีกหลายครั้ง ทำให้ต้องพักฟื้นรักษาตัวที่ โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. จนถึงปัจจุบัน
ล่าสุด (30 พ.ย.) “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ทักษิณ รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจครบ 100 วัน ว่าขณะนี้นายทักษิณอยู่ระหว่างการพักฟื้น
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะได้รับพระราชทานอภัยโทษในวันที่ 5 ธ.ค. นี้นั้น “อิ๊งค์” บอกว่า ยังไม่ได้ยินอย่างนั้น
ขณะที่สังคมโซเชียลแซวสนั่นเมืองว่า อย่าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนี้เลย เพราะรักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที
และนับจากวันนั้น จนถึงวันนี้ นอกจากภาพทักษิณ นอนบนรถเข็นโรงพยาบาลตำรวจแล้ว ก็ยังไม่ปรากฏภาพใดอีกเลย คงมีข่าวเพียงว่า ผอ.รพ.ตำรวจและนายแพทย์ รพ.ตำรวจหลายนายที่ดูแลทักษิณ ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนปรับชั้นยศ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เดือดไม่แพ้พรรคการอื่น เมื่อ กรณ์ จาติกวณิช โบกมือลาออกจากสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้า หลังจาก “แจ้” นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ที่ถูกขับพ้นจากพรรคก้าวไกล ปมคุกคามทางเพศ และต้องรีบหาพรรคการเมืองสังกัดภาย 30 วัน มิเช่นนั้นจะต้องพ้นสภาพ สส. ไม่มีพรรคใดตอบรับเข้าพรรค ยกเว้นชาติพัฒนากล้า
ล่าสุด นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า การันตีว่า คุณสมบัติผ่าน นายทะเบียนพรรคฯ ได้ตรวจสอบคุณ สมบัติต่างๆ ของ “แจ้” นายวุฒิพงศ์ พบว่าถูกต้อง และได้แจ้งไปยัง กกต.และประธานสภาผู้แทนราษฎรให้รับทราบตามขั้นตอนแล้ว
นอกจากนี้นายวุฒิพงศ์ก็ได้ชี้แจงต่อสาธารณะไปแล้ว จากนี้จึงเป็นโอกาสของเขาที่จะมาทำงานในแนวทางของพรรคชาติพัฒนากล้าเพื่อพิสูจน์ผลงานให้พี่น้องประชาชนได้เห็น อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของจำนวน สส.เป็น 3 คนนั้น ไม่ได้ผลต่อการต่อรองตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนการลาออกจากสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้า ของนายกรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า นายสุวัจน์ ย้ำว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายวุฒิพงศ์
นายกรณ์ ได้มาแจ้งตั้งแต่หลังเลือกตั้งแล้วว่า ขอยุติบทบาทชั่วขณะ โดยจะขอลาออกทั้งจากหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรค แต่ผมขอให้เป็นสมาชิกพรรคอยู่ต่อไปอีกสักระยะ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เนื่องจากเพิ่งเลือกตั้งเสร็จ
…เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็สุดแล้วแต่ท่าน กระทั่งเมื่อวานท่านก็แจ้งมาขอลาออกตนก็รับทราบ และไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด…
นายสุวัจน์ ยังย้ำอีกว่า การเข้ามาของ “แจ้” นายวุฒิพงศ์ ทำให้พรรคชาติพัฒนากล้ามี สส.รวมเป็น 3 คน การมาสมัครที่พรรคแล้วตรวจสอบคุณสมบัติตามข้อบังคับพรรคที่เกี่ยวข้องเมื่อนายทะเบียนยืนยันว่าการตรวจสอบคุณสมบัติทุกอย่างถูกต้องก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
เป็นเรื่องน่าจับตามองต่อไปว่า อนาคตของพรรคชาติพัฒนากล้า และ “แจ้” นายวุฒิพงศ์ ในระยะยาว ได้กับเสีย ใครจะคุ้มทุนทางสังคมกว่ากัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“พีระพันธุ์” โพสต์ดีใจ “ประยุทธ์” ได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นองคมนตรี