วันนี้ (1 ธ.ค.2566) ศาลอาญารัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายนัสเซอร์ ยีหมะ, นายอุทัย ยอดมณี, นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา, น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร , นายพานสุวรรณ ณ แก้ว, นายประกอบกิจ อินทร์ทอง และ นายกิตติศักดิ์ ปรกติ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุม เป็นกบฏสมคบกันใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
โดยพิพากษาจำคุกนายนัสเซอร์ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 6 เดือนไม่รอลงอาญา เพราะเคยมีประวัติร่วมกันก่อเหตุความวุ่นวาย ส่วนจำเลยที่ 2-3 คือนายอุทัย และ นายนิติธร สั่งจำคุก 5 ปี 9 เดือน ปรับ 200,000 บาท ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี
จำเลยที่ 4 คือ ตั๊น จิตภัสร์ ให้จำคุก 9 เดือน ปรับ 40,000 หมื่นบาท รอลงอาญา 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 5-6 คือ นายพานสุวรรณ ณ แก้ว และนายประกอบกิจ สั่งจำคุก 4 ปี 9 เดือน ปรับ 180,000 บาท ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี เช่นกัน
ทั้งนี้ จำเลยที่ 1-6 ถูกศาลพิพากษาลงโทษในความผิดข้อหาต่าง ๆ เช่น ยุยง หรือจัดให้เกิดการร่วมกันหยุดงาน, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ เป็นต้น แต่ได้ยกฟ้องในข้อหากบฏ
โดยศาลพิเคราะห์ว่า เป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริตตามสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนพึงมี นอกจากนี้ ยังพิเคราะห์ว่าจำเลยที่ 2-6 ได้มามอบตัวเอง ไม่มีพฤติกรรมหลบหนีคดี ไม่เคยมีประวัติก่อคดีมาก่อน จึงให้รอลงอาญา
ส่วนจำเลยที่ 7 ศาลยกฟ้องทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากศาลพิเคราะห์ว่าไม่ปรากฏว่าเคยไปเป็นแกนนำ โจทก์ซัดทอดไม่ชัดเจนว่าเป็นคนสั่งการ โดยหลังฟังคำพิพากษา จำเลยที่ 1-6 ก็ได้ให้ทนายความไปยื่นขออุทธรณ์คดีทันที
ทั้งนี้คดีดังกล่าวจากกรณีที่อัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 16 ต.ค.2562 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย.2556 -1 พ.ค.2557 จำเลยกับพวกซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)
โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบบรรณ เลขาธิการ กปปส. จำเลยที่ศาลพิพากษาลงโทษไปแล้วร่วมกันกับพวกจำเลยคดีนี้ มั่วสุมเป็นกบฏ สมคบกันใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ต่อต้านการบริหารราชการแผ่นดินและขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้พ้นจากตำแหน่ง ยุยง ปลุกระดม ให้ประชาชนกระด้างกระเดื่อง โดยพวกจำเลยเข้าร่วมการชุมนุม ในนามกลุ่ม กปปส. ใช้กำลัง นักรบศรีวิชัย นักรบตะนาวศรี กลุ่มกระเบนธง บุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ขัดขวางต่อสู้ ขู่เข็ญเพื่อไม่ให้รัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ได้
นอกจากนั้นยังได้ประกาศปิดกรุงเทพมหานคร (BANGKOK SHUT DOWN ) ตั้งเวทีปราศรัยปิดกั้นการจราจรสาธารณะทั่วกรุงเทพฯ รวม 7 แห่ง โดยรอบเวทีชุมนุมได้นำเครื่องกีดขวาง อาทิ รั้วลวดหนาม แท่งแบริเออร์ ยางรถยนต์
อ่านข่าวอื่นๆ :
“ศรีสุวรรณ” จ่อฟ้องราชทัณฑ์-ยธ.-รพ.ตำรวจ ปม “ทักษิณ” นอน รพ.100 วัน