‘ไพฑูรย์’ ไม่เข้าข้างใคร แต่เชียร์คนรุ่นใหม่นั่งหัวหน้า ‘ปชป.’ มอง ‘นราพัฒน์’ ใจนิ่งทำงานได้กับทุกคน กระตุกผู้ใหญ่ในพรรค คนชนะต้องใจกว้าง คนแพ้ก็อย่าหนี
วันที่ 6 ธ.ค. ที่อาคารรัฐสภา ไพฑูรย์ แก้วทอง กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะบิดาของ นราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นราพัฒน์ ต้องลงแข่งขันกับ วทันยา บุญนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม.พรรคประชาธิปัตย์เพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
โดย ไพฑูรย์ ระบุว่า เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ ตนเองเป็นคนรุ่นเก่า อีก 2 ปีก็อายุ 90 ปี แล้ว มีฐานะเป็นที่ปรึกษา ก็ให้แล้วแต่ความสามารถ แต่ก็อยากให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ นราพัฒน์ อายุเพียง 54 ปี แต่เป็น สส.มาแล้ว 4 สมัย มีประสบการณ์เคยเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี 2 สมัย หากว่าสมาชิกพรรคสนับสนุนก็เป็นเรื่องของเขา แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่แปลก อยู่ตำแหน่งไหนก็ทำงานได้ นิสัยใจคอเขาทำงานกับใครก็ได้ ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า หากไม่ได้ตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก็จะยังทำงานกับพรรคต่อไปใช่หรือไม่ ไพฑูรย์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา อย่างตนยังทำงานกับ สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เลย แต่นิสัยใจคอของ นราพัฒน์ นิ่งกว่าตนด้วยซ้ำไป ดังนั้น อยู่ที่การตัดสินใจของสมาชิกพรรค แต่เราต้องยอมรับว่า ตอนนี้ต้องเอาคนรุ่นใหม่มาทำงาน จะได้ถึงลูกถึงคนหน่อย อะไรที่เปลี่ยนแปลงไปต้องฟังได้ทุกอย่าง
ส่วนมองว่า จะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคหรือไม่ ไพฑูรย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต นราพัฒน์ เองก็เคยพูดว่า หากได้ตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก็จะเชิญ วทันยา มาร่วมทำงานด้วย แต่หาก วทันยา ชนะ เขาเองก็ยินดีจะร่วมทำงาน และจะรื้อฟื้นยุวประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยแข็งแรง
ไพฑูรย์ ยังกล่าวว่า นราพัฒน์ ไม่ได้มาขอคำปรึกษาจากตน มีเพียงการพูดคุยกันธรรมดา ซึ่งตนก็ไม่ได้เข้าข้างใคร และไม่ได้ช่วยหาเสียงอะไรเป็นพิเศษ พร้อมมองว่า ผู้มาลงชิงตำแหน่งเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งคู่ แต่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นลูกหม้อพรรคประชาธิปัตย์ เพียงแต่ต้องยอมรับกัน ไม่ใช่ว่าใครแพ้ก็หนีพรรคเหมือนที่ผ่านๆ มา พรรคเราไม่มีเจ้าของ คนที่แพ้ก็ต้องอยู่กับพรรค คนที่ชนะก็ต้องใจกว้าง เชิญเขามาทำงานร่วมกัน ไม่ใช่แบ่งคนละพวกเลย
ส่วนเชื่อมั่นว่า นราพัฒน์ จะสามารถกู้พรรคได้หรือไม่ ไพฑูรย์ กล่าวว่า ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่ต้องประกอบด้วยทีมงานหลายฝ่าย
“ต้องใจเย็น ห้ามทะเลาะกัน เหมือนอย่างบางคนที่แพ้แล้วก็ไป คนที่ชนะก็ไม่ยอมชวนมาทำงาน เรื่องนี้ขอพูดเป็นแนวทางให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคได้คิดด้วย” ไพฑูรย์ กล่าวทิ้งท้าย
