‘เศรษฐา’ ชมโอท็อปกาญจนบุรี – ยิ้มแก้มปริ ปชช.มอบเสื้อบอลสลักชื่อ อวยพรให้เป็นนายกฯ นานๆ – ถามหา ‘ผู้ว่าฯ ททท.’ ไร้เงา โผล่เที่ยว อังกฤษ-เบอร์ลิน
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เดินทางมายังองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภาพรวมจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP และสินค้าวิสาหกิจชุมชน ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ตำบลท่ามะขาม
เมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงได้เดินชมสินค้าโอท็อปประจำจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งระหว่างนั้นได้มีประชาชนมอบเสื้อฟุตบอลสีแดง ของสโมสร DP Kanchanaburi FC หรือ Dragon FC โดยด้านหลังสกรีนชื่อ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ หมายเลข 30 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามว่า ขณะนี้สโมสรอยู่ในดิวิชั่นใด ประชาชนจึงตอบว่า ลีก 2 นายกฯ จึงอวยพรขอให้ขึ้นลีก 1 ในฤดูกาลหน้า
ขณะเดียวกัน ก็ได้มีประชาชนมอบผ้าขาวม้าคล้องคอได้อวยพรขอให้ ‘เศรษฐา‘ เป็นนายกรัฐมนตรีนานๆ จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ทดลองตำและชิมขนมทองโย้ซึ่งขนม พื้นเมืองกระเหรี่ยงในพื้นที่สังขละบุรี ทองผาภูมิและศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดตามแนวชายแดนไทยเมียนมา
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับพี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อย เพื่อรับมอบดอกไม้ให้กำลังใจ พร้อมกับขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มาติดตามปัญหาข่าวไร่อ้อยในพื้นที่ โดยชาวบ้านยังถือป้ายรอต้อนรับโดยระบุว่า “ขอบคุณ พณฯ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้อนุมัติค่าตัดอ้อยสด ตันละ 120 บาท ให้ชาวไร่อ้อย และ ชาวไร่อ้อย รวมใจตัดอ้อยสด เพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5 ตามนโยบายรัฐบาล”
ทั้งนี้ระหว่างเดินชมนายกรัฐมนตรี ยังให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์โกโก้ ซึ่งเป็นของ ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ โดยรัฐบาลกระทรวงอุตสาหกรรมมีแนวคิดที่จะให้แปรรูปเพิ่มมูลค่า ซึ่งตัวแทนเกษตรกรกล่าวว่าพื้นที่กาญจนบุรี ยังต้องการโรงงานแปรรูปอยู่
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังปัญหาภายในพื้นที่ ทั้งปัญหาที่ดินทับซ้อน – การออกโฉนดที่ดินทำกิน โดยระบุว่า จากที่ฟังบรรยายสรุปแล้วมีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่าผู้บริหารที่นี่ ทำงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดี พร้อมกับชมผู้ว่าราชการจังหวัดและ นายกฯ อบจ.ที่ ทำงานเพื่อประชาชนโดยอย่าคิดว่าเป็นพรรคไหน ทำงานร่วมกันอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เอาความต้องการและความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีความพร้อมทุกอย่างมีหมด
ส่วนการแก้ไขปัญหาการจัดสรรที่ดิน มีปัญหาตั้งแต่ปี 2481 ซึ่งขอสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผบ.ทสส มหาดไทย ช่วยไปพูดคุยกันให้จบ เพราะปัญหานี้มีมายาวนาน ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่มาถึงแล้วก็อยากให้จมที่รุ่นนี้ ตนขอฝากผู้ว่าราชการไว้ด้วย หากสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินได้ตนเชื่อว่าแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุนได้อย่างดี ควบคู่ไปกับนโยบายหลักของรัฐบาลที่จะจัดการหนี้นอกระบบให้หมด หากทุกภาคส่วนช่วยกันทำงานเต็มที่ตนจะช่วยอยู่เบื้องหลังพยายามให้จบให้ได้ภายในรุ่นนี้ เพื่อให้มีสินทรัพย์เป็นทุน เนื่องจากศักยภาพภายในจังหวัดกาญจนบุรีนั้นเหลือล้น เป็นจังหวัด ท็อป 5 ของประเทศได้อย่างสบาย
ส่วนการบริหารจัดการน้ำต้องไม่ท่วมไม่แล้ง แต่พื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นปัญหาน้ำแรงมากกว่า หากไม่แรงเสียอย่างตนเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ทางด้านการเกษตรและรายได้ต่อหัวจะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เรามีแหล่งน้ำอยู่จำนวนมาก พร้อมกับมอบนโยบายให้ปล่อยปลาตามแหล่งน้ำ ที่ตรงกับความต้องการของตลาด เพื่อสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นเล็กๆน้อยๆ ซึ่งตนเข้าใจถึงความเดือดร้อนการที่ประชาชนมีรายได้เสริม
ส่วนศักยภาพทางการค้าในชายแดนศุลกากร พื้นที่นี้มีความเสียเปรียบจากหัวเมืองหลัก เนื่องจากความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะฉะนั้นการค้าทางด้านตะวันออก ที่ติดกับประเทศลาวค่อนข้างดีมาก แต่ตนไม่อยากให้ชาวจังหวัดกาญจนบุรีนั้นหมดหวัง ประเทศเมียนมามีประชากรเท่าๆเรา 70 ล้านคน แต่ปัญหาภายในก็หนักหนาอยู่ เราเองเราชัดเจนวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่
เพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิมนุษยชน ความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์ เป็นหน้าที่ของความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องมีส่วนร่วม ซึ่งหากถามว่าทำไมตนถึงพูดตรงนี้ขึ้นมา ประเทศไทยมีประชากร 70 ล้านคน เท่ากันกับเมียนมา หากทำตัวเป็นศูนย์กลางในการเจรจาให้เกิดความสงบสุขได้ ชายแดนไทยกับเมียนมา จะ 2,000 กิโลเมตร ถ้าเขาไม่มีปัญหาเราก็ไม่มีปัญหา การค้าชายแดนชายแดนจะบูม เรามีท่าเรือเรามีสนามบินที่มีศักยภาพแล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการท่องเที่ยวว่า ก็แปลกใจที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี บอกว่าจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอันดับ 3 ที่มีท่องเที่ยวนักเข้ามาซึ่งเป็นเรื่องของจำนวนคน และตนเคยบอกไปแล้วว่าเรื่องจำนวนคนเป็นเรื่องรอง แต่เรื่องใหญ่คือการจับจ่ายใช้สอยและระยะเวลาที่อยู่ ที่ผู้ว่าฯบอกว่า นักท่องเที่ยวต่อ 1 คนใช้เงินแค่ 1,000 กว่าบาท 1,000 กว่าบาทบางทีโรงแรมหนึ่งคืนยังไม่ได้เลย
แสดงว่าเขามาเช้าเย็นกลับและมาอยู่ที่กรุงเทพฯ และไม่ค้างที่ในเมือง โรงแรมที่จังหวัดกาญจนบุรีมี 600 กว่าโรงแรม และโรงแรมดีๆก็มีเยอะ ฝากทีมงานให้ไปพูดคุยกับผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มัวแต่ไปอังกฤษไป เบอร์ลิน อยากให้มาดูหน่อยอยากให้มาดูหน่อยมาดูจังหวัดกาญจนบุรี มาดูแลจังหวัดที่เดือดร้อนหน่อย แต่ไปจังหวัดใหญ่ๆ เชียงใหม่ ภูเก็ต จังหวัดแบบนี้อันซีน
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ยังถามถึง ททท.จังหวัดกาญจนบุรี ฝากให้ดูเรื่องการท่องเที่ยวเพราะท่านก็ทราบว่าจังหวัดนี้ศักยภาพสูงขนาดไหน อย่าตะแบงแค่ตัวเลขอย่างเดียว คนมาเยอะไม่ช่วย รายได้ รายจ่ายต่อหัว ระยะเวลาที่อยู่ ระยะเวลาท่องเที่ยว ต้องลงพื้นที่ให้หนัก มาพูดคุยกับผู้บริหารจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด สส. เชื่อว่าทุกคนมีแรงบันดาลใจ เพราะที่บรรยายมา 30% เป็นเรื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งนโยบายการท่องเที่ยวรัฐบาลถือเป็นเรื่องสำคัญ