สายด่วน AOC 1441 ได้ผลเกินคาด ‘รมว.ดีอี’ เผย ‘30 วันแรก’ หลังเดินหน้าเต็มรูปแบบ ช่วง ‘1-30 พ.ย.’ รับแจ้งเรื่อง-เร่งรัดช่วยประชาชนพ้นเงื้อมมือมิจฉาชีพ สั่งอายัดบัญชีคนร้ายได้มากกว่า 7,996 บัญชี ดำเนินการจบภายใน 15 นาทีต่อเคส พร้อมขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดได้ถึง 389 ราย มอบหมายยกระดับ – พัฒนาความรวดเร็ว ปกป้องประชาชนให้ได้ทุกมิติ
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยออนไลน์ที่คุกคามพี่นน้องประชาชนว่า กระทรวงดีอี ให้ความสำคัญกับการป้องกัน ปราบปรามและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนปลอดภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ที่มาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขณะนี้เราได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านเพื่อปราบปรามอย่างเด็ดขาดเพื่อตัดวงจรมิจฉาชีพ
ขณะเดียวกันก็เร่งรัดในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center) หรือ AOC 1441 ที่ได้ยกระดับการดำเนินการจากเดิมที่เป็นสายด่วนตำรวจไซเบอร์ ที่มีเพียง 20 คู่สาย มาเป็น 100 คู่สายเพื่อให้บริการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเริ่มดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบมาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 – 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนติดต่อเข้ามาในช่วง 30 วัน จำนวน 79,997 สาย
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขอคำปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูลและปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ รวมไปถึงการระวังป้องกันตัวไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ส่วนการแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือจากมิจฉาชีพนั้น AOC 1441 ได้ดำเนินการช่วยอายัดบัญชีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชนได้ถึง 7,996 บัญชี โดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 15 นาทีนับแต่เราได้รับการแจ้งขอความช่วยเหลือจากพี่น้องประชาชน และได้ดำเนินการเร่งจับกุมผู้กระทำผิดแล้วทั้งสิ้น 389 ราย
ประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับเหตุ 5 อันดับแรกที่พี่น้องประชาชนได้แจ้งเข้ามาและ AOC 1441 ได้ดำเนินการอายัดบัญชี แยกตามประเภทคดีออนไลน์ ได้แก่ 1. หลอกลวงซื้อขาย 44.8% , 2.หลอกลวงรายได้พิเศษ 13.2% , 3.หลอกลวงลงทุน 8.6% , 4. หลอกลวงให้กู้เงิน 7.8% และ 5. หลอกลวง call center 7.2%
ประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมรวมการดำเนินงาน AOC 1441 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ สามารถช่วยประชาชนได้เป็นจำนวนมาก การทำงานลงตัวและรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะการประสานงานเพื่ออายัดบัญชีของมิจฉาชีพทำได้รวดเร็วมากขึ้น และทำการขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามกระทรวงดีอี มุ่งพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงานให้มากกว่านี้
เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพให้ได้รับความปลอดภัยมากที่สุด โดยในระยะต่อไป จะประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งขยายผลจับกุมดำเนินคดี จากข้อมูล ‘บัญชีม้า’ (บัญชีที่คนร้ายใช้สำหรับการรับโอนเงิน) การตรวจสอบเส้นทางการเงิน และหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับ ‘บัญชี’ ให้ชัดเจนและรวดเร็วมากขึ้น เพื่อจัดการต้นตออาชญากรรมออนไลร์อย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ศูนย์ AOC สายด่วน 1441 นั้นได้รับการยกระดับการดำเนินการจากเดิมที่เป็นสายด่วนตำรวจไซเบอร์ ที่มีเพียง 20 คู่สาย เป็น 100 คู่สายเพื่อให้บริการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง และดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการเร่งรัดแก้ไขปัญหา ปราบปรามและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจากอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ
โดยกระทรวงดีอีมุ่งหมายที่จะให้สายด่วน AOC 1441 เป็นช่องทางด่วนในการเร่งรัดช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเพื่อลดความเสียหายที่เกิดโดยเร็วที่สุด ซึ่งได้วางแนวทางเป้าหมายการทำงาน ประกอบด้วย
1.เร่งรัดการอายัดบัญชีของคนร้าย ให้ผู้เสียหายทันที
2.ติดตามสถานะการแก้ไขปัญหาให้ผู้เสียหายทุกขั้นตอนได้ทันที
3.เร่งการคืนเงินให้ผู้เสียหาย
4.เพิ่มประสิทธิภาพการจับกุม ดำเนินคดีและการขยายผลคดี
โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยงานบูรณาการข้อมูลและร่วมทำงานทันทีทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง เมื่อได้รับแจ้งจากผู้เสียหายในทันที โดยศูนย์ AOC 1441 พร้อมให้บริการพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง และมีการทำงานบูรณาการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ แบบ One Stop Service แก่ประชาชน ช่วยดำเนินการ ระงับ/อายัดบัญชี ได้ทันที รวมทั้งให้คำปรึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับภัยออนไลน์