วันนี้ (13 ธ.ค.2566) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.2887/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ชิวารักษ์, นายชินวัตร หรือไบรท์ จันทร์กระจ่าง, นายภาณุพงศ์ หรือ ไมค์ จาดนอก, น.ส.ปนัสยา หรือ รุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล, น.ส.จิรฐิตา ธรรมรักษ์ และ นายคริษฐ์ อร่ามพิบูลกิจ (หลบหนี)
แกนนำคณะราษฎร ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียง โดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนเป็นอุปสรรคต่อความสะดวกในการจราจร มาตรา 116
กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 1-3 ธ.ค.2563 ต่อเนื่องกันพวกจำเลยได้จัดกิจกรรม #ม็อบ 2 ธันวา ไล่จันทร์โอชาออกไป โดยชุมนุมปราศรัย ยุยง ปลุกปั่น พาดพิงให้ร้ายสถาบันด้วยถ้อยคำหยาบคาย มีผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 3,000 คน บริเวณห้าแยกลาดพร้าว หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถ.พหลโยธิน กทม. เกี่ยวพันกัน
อ่าน : ศาลตัดสินจำคุก 6 ปีไม่รอลงอาญา “ไอซ์ รักชนก” คดี ม.112
โดยในวันนี้ศาลอ่านคำพิพากษาเฉพาะในส่วนเฉพาะของนายชินวัตร ที่กลับคำให้การเป็นรับสารภาพ เมื่อช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลพิจารณาพิจารณาว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 11,100 บาท
ขณะนี้จำเลยอยู่ระหว่างยื่นขอปล่อยชั่วคราว
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความกล่าวว่า คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีทุกคนยกเว้นนายชินวัตร ซึ่งมากลับคำให้การในช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนจำเลยคนอื่นที่เหลือยังคงให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาซึ่งศาลนัดสืบพยานในเดือน มี.ค.2567
อ่าน : เลือกตั้ง2566 : “ไอซ์ รักชนก” เปิดใจ ไม่คิดจะชนะเลือกตั้ง แค่ขอทำให้ดีที่สุด