มรสุมฝุ่น P.M 2.5 เวียนกลับมาอีกระลอก ลุกลามทั่วภูมิภาคส่งผลให้ไทยพุ่งทะยานติดประเทศที่มีมลพิษทางอากาศ อันดับ 12 ของโลก เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มว่า คุณภาพอากาศที่เข้าสู่ภาวะวิกฤตจะขยายเวลาเพิ่มขึ้น
ทำให้ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม. นั่งไม่ติด ต้องออกมาแก้เกี้ยวเอาผิดกับร้านปิ้งย่าง หมูกระทะ และเมนูอาหารที่ต้องใช้เตาถ่านและมีควันไฟทั้งหลายว่า เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อมลพิษทางอากาศ ทั้งๆ ที่ควรดำเนินมาตรการเคร่งครัดและเข้มงวดกับบรรดารถยนต์เก่าที่พ่นก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ออกมาในชั้นบรรยากาศมากกว่า
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง
ขณะที่ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน แม้จะไม่ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่ก็ยังไร้มาตรการแก้ไขปัญหาจริงๆ จังๆ บอกเพียงแค่ว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เพื่อไม่ให้กระทบกับสุขภาพของประชาชน และภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งพื้นที่ที่มีเขตก่อสร้าง หากตึกหรืออาคารใดสามารถฉีดน้ำ เพื่อลดฝุ่นได้ก็ขอให้เร่งดำเนินการ
และกำกับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมเรื่องการเผาไร่อ้อย ในช่วงฤดูไฮซีซันนี้ ก่อนที่นายกฯนิด จะให้กำลังใจคนเมืองหลวงว่าแนวโน้มจะไปในทิศทางที่ดีขึ้น และแม้ว่าวันนี้ (14 ธ.ค.) ท้องฟ้าจะแจ่มใส ฝุ่น PM 2.5 ไม่ไต่ระดับสีแดง เหลือเพียงแค่สีส้ม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า พายุฝุ่น PM 2.5 ใน กทม.จะหนักสุดวันที่ 17 ธ.ค. นี้ และหลังวันที่ 18 ธ.ค.ค่าฝุ่นพิษก็จะลดลง และอากาศจะถ่ายเทดีขึ้น
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
แม้ต้นตอหลักปัญหาฝุ่นน่าจะมาจากรถยนต์ “เครื่องยนต์ดีเซล” ที่อายุเกิน 7 ปี ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีถึง 1,000,000 คัน แม้ว่ารถเหล่านี้จะผ่านการตรวจควันดำแล้วก็ตาม แต่ยังปล่อย PM 2.5 ออกมาจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือเจ้าของรถให้ไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง โดยปลายสัปดาห์นี้ รัฐบาลจะจับมือค่ายรถยนต์และบริษัทผลิตน้ำมัน ชักชวนผู้ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซล และเครื่องยนต์เก่า นำรถมาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองในราคาถูก
และหลังจากนี้ กทม.จะติดตามและประมวลผลอย่างเข้มงวด หากอีก 2 วันค่าฝุ่นสูงขึ้นมาก ก็จะออกประกาศให้ประชาชน work from home หรือ ให้ทำงานที่บ้าน
ส่วนร้านจำหน่ายอาหารประเภทปิ้งย่าง ผู้ว่าฯกทม มองว่าอาจไม่ได้มีผลในภาพรวม แต่มีผลเฉพาะพื้นที่ทำให้มีค่าฝุ่น PM 2.5 หนาแน่นขึ้น หลังจากนี้ก็ต้องไปดูว่ามีที่ดักควันหรือไม่ ไม่ได้ห้ามปิ้งย่างแต่ต้องมีตัวดูด หรือเก็บควันก่อนปล่อยออกมา เพราะหากช่วงที่อากาศปิดก็จะทำให้ค่า PM2.5 เพิ่มสูงขึ้น
แหล่งกำเนิด PM 2.5 กรุงเทพมหานคร
มรสุมฝุ่นระลอกแรก ยังหาทางออกไม่ได้ รัฐบาลเพื่อไทย ก็เจอ “พายุทอร์นาโด” ไล่ถล่มติดๆ เมื่อ “สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เร่งออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ ทันที หลังจากเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไม่มีการอภัยโทษนักโทษ หลังจากนั้นเพียง 2-3 วัน ก็มีการเซ็นคำสั่งดังกล่าวออกมา แม้หลายฝ่ายมองว่าระเบียบดังกล่าวออกมาเพื่อหวังเอื้อประโยชน์ให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ก็ตาม
หากนับจากวันที่ 22 ส.ค. ที่ “ทักษิณ” เหยียบแผ่นดินไทย จนถึงวันนี้ปาเข้าไป 114 วันแล้ว ที่ “อดีตนายกฯ” นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ จะครบ 120 วัน ซึ่งต้องจับตาดูว่าหลังระเบียบราชทัณฑ์มีผลบังคับใช้แล้ว “ทักษิณ” ทั้งที่ยังไม่ได้นอนในเรือนจำสักคืนเดียว จะได้กลับไปนอนที่อื่่นหรือไม่
กรรมาธิการตำรวจ
แม้ล่าสุด “ชัยชนะ เดชเดโช” สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ จะออกมาตรวจสอบข้อร้องเรียนของ “วัชระ เพชรทอง” อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ทักษิณนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจจริงหรือไม่ เนื่องจากดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชนและกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม
โดยถามย้ำๆ ว่า ก่อนหน้านี้ ทักษิณ สุขภาพแข็งแรงดี แต่เหตุใดเมื่อกลับมาถึงประเทศไทยแล้วจึงต้องเข้ารักษาตัวทันที และเสนอให้คณะกรรมาธิการตั้งคณะอนุกรรมาธิการสืบหาข้อเท็จจริง พร้อมเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 เพื่อพิสูจน์ว่า “ทักษิณ” ยังมีตัวเป็นๆ อยู่ที่นั่นหรือไม่
เช่นเดียวกับ นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล ที่จี้ถามขั้นตอนการรับนักโทษและการส่งนักโทษไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลและมีการคาดการณ์หรือไม่ว่า ทักษิณ จะรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกกี่วัน ระเบียบใหม่ของกรมราชทัณฑ์ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2563 กระบวนติดขัดตรงจุดใดถึงเพิ่งประกาศใช้ในช่วงนี้ ที่สำคัญในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ นายทักษิณ จะเข้าเกณฑ์พักโทษเลยหรือไม่
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
แต่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบชัดกว่าคนอื่นว่า“กฎนี้ไม่ได้ออกมาเพื่อใครและยังไม่ทราบว่า คุณพ่อเข้าข่ายหรือไม่”
ออกยิ่งเร็วยิ่งดี นี่เป็นความรู้สึกของลูก ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วใครอยากจะให้เป็นแบบนี้ แต่ในเรื่องอื่นขอให้เป็นในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมของกรมราชทัณฑ์และคุณหมอเพราะว่าเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
สิ่งที่ทำได้คือให้กำลังใจกันเองในครอบครัวเพราะคุณพ่อได้สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างมากมายและขอให้ท่านมีกำลังใจที่เมื่อออกมาอย่างแข็งแรง และสามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ในแง่ของการเป็นที่ปรึกษา ทั้งส่วนของตนเองและใครก็ตามที่ยังเคารพรักท่านอยู่ ให้ได้มีความรู้ใช้ความรู้ความสามารถของท่านให้ประเทศชาตินี้ไปอยู่ในจุดที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และไม่มีวันถอยหลังนี่คือสิ่งที่ตั้งใจและอยากให้มันเป็น
การอ้างสิทธิเป็นผู้ป่วยแล้วย้ายมารักษาตัวนอกเรือนจำ และกรมราชทัณฑ์ได้อนุญาตให้มีการรักษาตัวต่อหลังจากที่ผ่านไป 60 วัน โดยอ้างความเห็นของคณะแพทย์ว่ามีการผ่าตัดใหญ่ 2 ครั้ง มาจนถึงปัจจุบันก็มีการประกาศใช้ ระเบียบการกำหนดพื้นที่คุมขังใหม่แทนเรือนจำ ความรู้สึกฐานะความรู้สึกลูก ระเบียบนั้นออกยิ่งเร็วยิ่งดี
หากความเคลื่อนไหวอีกด้านของกลุ่ม คปท. นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล พร้อมด้วย นายนัสเซอร์ ยีหมะ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งปักหลักอยู่ข้างโรงพยาบาลตำรวจหลายเพลา ช่วงสายวันนี้ถือฤกษ์ดีเข้ายื่นหนังสือถึงกรมคุก พร้อมเรียกร้องให้นำตัวทักษิณ กลับมารักษาตัวในเรือนจำ
นัสเซอร์ บอกว่า คปท. มีความเป็นห่วงว่ากระบวนการยุติธรรมไทย กำลังเร่งออกระเบียบและการใช้ระเบียบ เพื่อเอื้ออภิสิทธิ์แก่นายทักษิณเป็นการเฉพาะหรือไม่ เนื่องจากตั้งแต่กระบวนการแรกก็อ้างระเบียบในการออกมารักษาตัวนอกเรือนจำเป็นเวลา 114 วัน อ้างผ่าตัดใหญ่ 2 ครั้ง มาจนถึงปัจจุบันก็มีการประกาศใช้ ระเบียบการกำหนดพื้นที่คุมขังใหม่แทนเรือนจำ
คปท.เห็นว่า เป็นการวางแผนใช้ระเบียบพาตัวผู้ต้องขังเพียง 1 คน ไม่ให้ติดเรือนจำจริงแม้แต่วันเดียว เนื่องจากหลักเกณฑ์ที่ใช้พิจารณาที่คุมขังใหม่นั้น เป็นที่เข้าใจว่านายทักษิณจะได้ใช้สิทธิ ระเบียบใหม่เป็นคนแรก ซึ่งเท่ากับว่าผู้ต้องขังคดีทุจริต คอร์รัปชัน จะไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว
คือ วันแรกก็เบิกตัวมานอนโรงพยาบาลตำรวจ เมื่อครบ 120 วันก็อ้างระเบียบกำหนดให้บ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นที่คุมขังอื่นตามระเบียบ และเมื่อเข้าหลักเกณฑ์พักโทษ ในวันที่ 22 ก.พ.67 ก็ได้รับการพักโทษตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ อีกทั้ง การกระทำโดยร่วมกันอ้างระเบียบเช่นนี้เท่ากับเป็นการทำลายคำพิพากษาของศาล ด้วยระเบียบของกรมราชทัณฑ์เอง
คปท.จึงขอเรียกร้อง กรณีการประกาศใช้ระเบียบ กำหนดสถานที่คุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำนั้น นายทักษิณ เข้าหลักเกณฑ์หรือไม่อย่างไร โดยอยากให้พิจารณาถึงความเหมาะสมทางสังคม ความเป็นธรรมที่ไม่ใช่แค่ระเบียบราชทัณฑ์ เนื่องจาก นายทักษิณ ยังไม่ได้เข้าสู่เรือนจำแม้แต่วันเดียว การใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ฉบับใหม่ และบังคับใช้ทันที เท่ากับเป็นการเอื้อประโยชน์แก่คนใดคนหนึ่ง
ขอให้เร่งนำตัวนายทักษิณ กลับเรือนจำโดยทันที เนื่องจากตามคำสัมภาษณ์ของ น.ส.แพทองธาร นั้นเป็นที่ยืนยันชัดเจนว่า นายทักษิณ อยู่ในระหว่างการพักฟื้นจากการผ่าตัด ย่อมสามารถนำตัวมานอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ทันที และมีห้องพิเศษที่สามารถใช้ได้ และขอให้รักษากระบวนการยุติธรรม สร้างความเป็นธรรมให้กฎหมายมากกว่าการให้อภิสิทธิ์แก่ใครคนใดคนหนึ่ง ตามศักดิ์ศรีข้าราชการฝ่ายยุติธรรม
จับตาดูว่าระหว่างมรสุมฝุ่นพิษ P.M.2.5 และ “พายุทอร์นาโด” การเมือง คลอดระเบียบราชทัณฑ์ส่งผู้ต้องหาขังนอกเรือนจำ ใครจะไปหรือจะมาก่อนกัน เพราะไม่ว่าจะอย่างไรพายุ 2 ลูกนี้ก็เป็นพิษทั้งสิ้นต่อร่างกายและกระบวนการยุติธรรมไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
