วันนี้ (18 ธ.ค.66) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเสนอร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ที่เป็นร่างกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะเป็นกฎหมายที่จะสร้างเสริมให้สังคมไทย มีความสมัครสมานสามัคคี หรือเป็นกฎหมายปรองดอง โดยจะยกเว้นโทษให้กับผู้ชุมนุมทางการเมือง แต่จะไม่ครอบคลุมถึงผู้ที่กระทำผิด ม.112 ผู้ที่ทำร้ายผู้อื่นจนถึงขั้นเสียชีวิต รวมถึงผู้ที่ทุจริตคอรัปชัน
อ่านข่าว : “ภคมน” มองตั้ง “กมธ.วิสามัญฯศึกษา กม.นิรโทษกรรม กลไกช่วยรับฟังความเห็น
พรรครวมไทยสร้างชาติจะยังไม่ยื่นเสนอกฎหมายต่อประธานสภาฯ แต่จะรอหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาลก่อน ถ้าหากมีการจะเสนอร่างกฎหมายในลักษณะเดียวกัน ทางพรรคก็จะเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ประกบไปด้วย เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคการเมืองอื่นที่จะนำเสนออยู่แล้ว โดยเฉพาะขณะนี้มีร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกล เสนอแล้วและอาจจะมีของพรรคเพื่อไทย อีกฉบับ
ถ้าร่างกฎหมายรวมกันไปได้ก็จะเป็นข้อดี ถ้าพรรคพวกรัฐบาลได้ข้อสรุปร่วมกันเพื่อให้เกิดความรวดเร็วแล้วเป็นแนวทางเดียวกัน จะได้ไม่เกิดข้อโต้แย้งเวลาไปพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
อ่านข่าว : จับกระแสการเมือง วันที่ 6 ต.ค.66 : ดัน “นิรโทษกรรม” ถอน หรือ เร่ง ฟืนออกจากกองไฟ
นายอัครเดช ยังเห็นด้วยให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ขึ้นมาศึกษาก่อน เพื่อให้ตกผลึกร่วมกัน ซึ่งก็จะเป็นเรื่องดีที่จะได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว
ส่วนเนื้อหา ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมฉบับนี้ เป็นร่างเดิมจาก นพ.ระวี มาศฉมาดล เสนอไว้หรือไม่นั้น นายอัครเดชกล่าวว่าไม่ทราบรายละเอียด ผู้ริเริ่มและนำเสนอ ไม่ทราบที่มา แต่ฝ่ายกฎหมายของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นผู้ดำเนินการ ตามดำริของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ซึ่งตนมีหน้าที่นำกฎหมายมารือในที่ประชุมวิปรัฐบาล
อ่านข่าว : “ชูศักดิ์” แนะคิดให้รอบคอบ หวั่น ร่างกม.นิรโทษกรรม สร้างความขัดแย้งรอบใหม่
นายอัครเดชย้ำว่า จะยังไม่ได้หารือเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมในที่ประชุมวิปรัฐบาลวันนี้ แต่หากพรรคการเมืองอื่นต้องการหยิบยกขึ้นมาพรรครวมไทยสร้างชาติก็พร้อมที่จะแลกเปลี่ยน แต่เท่าที่ได้คุยกับหลายฝ่ายมองว่า เป็นเรื่องที่ไม่เร่งด่วน
แต่สิ่งที่ต้องเร่งทำคือการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำมีงบประมาณ 2567 เพราะ หลายหน่วยงาน ราชการและประชาชน กำลังรอเม็ดเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจ ที่ขณะนี้กำลังประสบปัญหาฝืดเคือง วิปรัฐบาลจึงโฟกัส ในเรื่องงบก่อน ส่วนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมคงจะเป็นหลังจากนี้
อ่านข่าว
“นพ.ระวี” ย้ำ กม.นิรโทษกรรม ไม่ล้างผิดปมทุจริต