หน้าแรก Voice TV ‘เพื่อไทย’ ผนึกกำลัง ‘ภาคประชาชน’ สานฝันสมรสเท่าเทียม

‘เพื่อไทย’ ผนึกกำลัง ‘ภาคประชาชน’ สานฝันสมรสเท่าเทียม

85
0
‘เพื่อไทย’-ผนึกกำลัง-‘ภาคประชาชน’-สานฝันสมรสเท่าเทียม

‘เพื่อไทย’ ผนึกกำลัง ‘ภาคประชาชน’ สานฝันสมรสเท่าเทียม รวมพลังสู่การเปลี่ยนแปลงในสภา ผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมให้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

วันที่ 19 ธันวาคม 2566 อัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ร่วมเสวนาในหัวข้อ ‘สานฝันสมรสเท่าเทียม : รวมพลังสู่การเปลี่ยนแปลงในสภา’ จัดโดยเครือข่าย สานฝันสมรสเท่าเทียม รวมพลังสู่การเปลี่ยนแปลงในสภา ที่ลานกิจกรรมหน้าด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร โดยมี ชุมาพร (วาดดาว) แต่งเกลี้ยง นักกิจกรรมเพื่อความหลากหลายทางเพศ นรีลักษณ์ แพไชยภูมิ ผู้อำนวยการกองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และ นัยนา สุภาพึ่ง ที่ปรึกษามูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ ร่วมการเสวนา 

อัครนันท์ กล่าวว่ากฏหมายสมรสเท่าเทียมนั้น เคยมีการผลักดันตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ซึ่งต่อมารัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่นำโดยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีการผลักดันอีกครั้ง แต่ก็เกิดการรัฐประหาร 2557 เสียก่อน จนถึงสมัยนี้ที่มีนายกรัฐมนตรี ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน และมีหัวหน้าพรรคเพื่อไทยชื่อ แพทองธาร ชินวัตร เราจึงมั่้นใจว่ากฎหมายนี้จะเป็นจริงได้

อัครนันท์ กล่าวว่า ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาในครั้งนี้ได้มีการปรับเนื้อหาให้เข้ากับสถานการณ์โลกปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ชาว LGBTQIA+ ที่รักกัน แต่ความรักถูกข้อจำกัดทางกฎหมายขีดให้เขาเป็นคนที่กฏหมายและสวัสดิการรัฐเข้าไม่ถึง ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองว่า ถึงเวลาที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมต้องเกิดขึ้น

เพราะโลกของ LGBTQIA+ คือโลกของเสรีภาพ และถ้าเราในฐานะ สส. และพรรคการเมืองไม่ทำเรื่องนี้แล้วใครจะเป็นคนทำ เพราะเราคือความหวังของประชาชน ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ กฎหมายฉบับนี้จะผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในขั้นรับหลักการไปสู่การตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา และพวกเราที่นั่งอยู่นี้จะไปร่วมกันเป็นกรรมาธิการ ก่อนจะผลักดันไปสู่การพิจารณาในวาระ 3 ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี หลังจากนั้นจะไปถึงขั้นตอนของวุฒิสภา ซึ่งเชื่อว่าเราจะได้เห็นกฎหมายนี้บังคับใช้ได้จริงอย่างแน่นอน 

“นี่คือหน้าประวัติศาสตร์ที่เราจะมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม เป็นกฎหมายที่ทำให้ทุกคนมีความสุข ผมในฐานะนักการเมืองก็ต้องการที่จะผลักดันกฎหมายนี้ให้เกิดขึ้นจริง และเชื่อว่าในไม่ช้า ทุกคนจะได้สมรสกันอย่างเท่าเทียมและถูกต้องตามกฎหมาย” สส.พรรคเพื่อไทย กล่าว

ชุมาพร กล่าวว่า 12 ปีก่อน มีความพยายามทำงานร่วมกันกับกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและคณะกรรมาธิการในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ยุติไปหลังเกิดรัฐประหาร จากนั้นมีงานวิจัยทางวิชาการได้เสนอว่าเราต้องได้รับการคุ้มครองเสมอหน้าตามกฎหมาย จึงมีการออกแถลงการณ์ฉบับแรกว่าต้องการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในปี 2559 และในปี 2561 เราจัดทำข้อเสนอซึ่งมี 10 พรรคมารับรวมถึงพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมาเรารอคอยกฎหมายฉบับนี้เพื่อสร้างให้เกิดความเท่าเทียม ดังนั้นจึงอยากผลักดันให้ออกมาบังคับใช้ได้จริงโดยเร็วที่สุด เมื่อถึงเดือนไพรด์ในปี 2567 เราจะได้มีการเฉลิมฉลองอีกครั้ง 

นรีลักษณ์ กล่าวว่า เป้าหมายของกระทรวงยุติธรรมคือสมรสเท่าเทียม ซึ่งต้องชื่นชมทุกภาคส่วนที่ร่วมกันผลักดันกฎหมายฉบับนี้ และเชื่อมั่นว่าจากการสนับสนุนของนายกรัฐมนตรี มีส่วนช่วยให้เราไม่ต้องก้าวที่ละก้าว เพราะในตอนนี้ทุกคนเห็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงขอให้คอยติดตามการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร มั่นใจอย่างยิ่งว่ากฎหมายฉบับนี้จะผ่านจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน และการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเรา 

นัยนา กล่าวว่า หากร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมฉบับนี้ผ่านการพิจารณาออกมาบังคับใช้ สิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง และกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศทุกคนจะมีความสุขสมกับชื่องานที่ตั้งไว้ในวันนี้ว่า ‘Love wins’ คือความรักชนะทุกสิ่ง ก่อนหน้านี้มีการบอกว่าการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มันยาก ทำไม่ได้ แต่พอเราใช้ความรัก ความรักชนะทุกสิ่ง ความเท่าเทียมเกิดขึ้นไวเท่าใด ความสุขจะเกิดขึ้นไวเท่านั้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่