วันนี้ (20 ธ.ค.2566) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ที่นัดไต่สวนพยานบุคคล กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิธา เป็นผู้ถือหุ้นใน บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)
นายพิธา กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับกระบวนการ และการไต่สวนข้อเท็จจริงตามที่ได้ตั้งใจไว้ แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะเป็นการละเมิดศาล ส่วนกรณีสื่อนำเสนอถึงประเด็นการยุติประกอบกิจการไอทีวี และฐานะผู้จัดการมรดกของตนเองนั้น ได้รับการไต่สวนจากทั้งศาล ฝ่ายกฎหมายของผู้ร้องและผู้ถูกร้อง โดยไม่มีการนัดไต่สวนหลักฐานเพิ่มเติม และศาลรัฐธรรมนูญจะนัดวันฟังคำพิพากษาต่อไป
รู้สึกพอใจและเป็นไปตามที่หวังไว้ทุกประการ ทำเต็มที่ตามที่ตั้งใจไว้ทุกอย่าง มั่นใจตั้งแต่ก่อนเข้าชี้แจง และทำตามหน้าที่ของผู้ถูกร้องอย่างเต็มที่ มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมและความยุติธรรมกับกรณีนี้ ถ้าคำพิพากษาเป็นคุณ หวังว่าจะได้รับใช้ประชาชนในฐานะ สส.
นายพิธา ตอบคำถามสื่อมวลชนประเด็นผู้จัดการมรดก ว่า เป็นการถือแทนน้องชาย ตนสละเจตนาก่อนเข้าพรรคอนาคตใหม่ และมีการปันทรัพย์มรดกกัน โดยมีการส่งข้อมูลทางดิจิทัล และแสตมป์อากร ซึ่งได้ชี้แจงไปครบถ้วนแล้ว
ส่วนประเด็นไอทีวี ต้องดูที่นายคิมห์ สิริทวีชัย ผู้ทำหน้าที่ประธานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นไอทีวี ซึ่งได้เคยพูดคุยในการประชุมผู้ถือหุ้น ตามเอกสารจะเห็นว่าได้ยุติประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2550 และคลื่นความถี่ไปอยู่ที่ไทยพีบีเอส ส่วนการกลับมาประกอบกิจการเดิม ต้องมีทั้งคดีความกับ สปน. คลื่นความถี่ และ license ที่ตอนนี้ไม่มีแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากพ้นข้อกล่าวหานายพิธาพร้อมกับมาทำหน้าที่ สส.ทันทีหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวตอบว่า แน่นอนครับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
