หนทางสู่ท่านเปา ศาลยุติธรรมเปิดรับสมัคร ‘ค่ายต้นกล้าตุลาการ รุ่น 12’ ดีเดย์ 22 ธ.ค.นี้มุ่งให้เยาวชนค้นพบตัวเอง เสริมสร้างบุคลากรในอนาคต ‘สุริยัณห์’ ปธ.ค่าย เน้นเยาวชนค้นพบตัวเองมุ่งสู่สายวิชาชีพ เติบโตเป็นคนดี
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ธานี สิงหนาท เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงโครงการค่ายต้นกล้าตุลาการ รุ่น 12 ที่กำลังจะมีขึ้นว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาศาลยุติธรรมได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญของเยาวชนอยู่เสมอ เพราะเชื่อว่าการเสริมสร้างและการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้ผู้คนในสังคม เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขต้องเริ่มต้นจากกลุ่มเยาวชนก่อน เนื่องจากเยาวชนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศชาติทั้งในปัจจุบันและอนาคต
จึงได้มีนโยบายและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้ด้านกฎหมายและคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงาม เพราะกฎหมายถือว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งในการสร้างบรรทัดฐานทางสังคม ที่จะช่วยคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและช่วยให้ประชาชนทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ส่งผลให้สังคมนั้น ๆ เกิดความสงบเรียบร้อย ลดการก่ออาชญากรรมและความขัดแย้งในสังคมลงได้ ดังนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมจึงได้จัดโครงการค่ายต้นกล้าตุลาการ โดยได้ดำเนินการจัดโครงการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2555 จนถึงปัจจุบันกำลังเปิดรับสมัคร รุ่นที่ 12 ซึ่งโครงการนี้จะมีกิจกรรมที่เสริมสร้างให้เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น
รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับศาลยุติธรรม แนวทางการศึกษาวิชากฎหมายทั้งใน และต่างประเทศ และการแนะนำแนวทางสู่การเป็นผู้พิพากษาและวิชาชีพกฎหมายอื่น ๆ ตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกด้วยการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งจะทำให้เยาวชนมีระเบียบวินัย ตระหนักในการรู้จักเคารพสิทธิของผู้อื่น และปฏิบัติตนอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย พร้อมนำความรู้ที่ได้รับออกไปต่อยอดแนวคิดการดำเนินชีวิต
พร้อมตั้งเป้าหมายสู่อาชีพในฝันได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ โครงการค่ายต้นกล้าตุลาการยังสอดคล้องกับนโยบาย “ที่พึ่ง เที่ยงธรรม เท่าเทียม ทันโลก” ของนางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา ที่ผลักดันและมีส่วนร่วมในการสร้างระบบคุณธรรม จริยธรรมให้เกิดขึ้นในตัวของเยาวชน พร้อมส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมาย เพราะเมื่อรู้กฎหมายก็จะได้ไม่กระทำผิด และไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากบุคคลอื่น อันจะเป็นประโยชน์และนำความสงบสุขมาสู่ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน
สุริยัณห์ หงษ์วิไล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดจันทบุรี ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการจัดโครงการค่ายต้นกล้าตุลาการ กล่าวว่า โครงการ “ค่ายต้นกล้าตุลาการ รุ่นที่ 12” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2567 โดยจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 66 – 9 ก.พ. 67 จึงขอเชิญชวนน้อง ๆ ที่มีอายุระหว่าง 15 – 18 ปี และกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าจากทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการ
โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม https://iprd.coj.go.th หรือเฟซบุ๊ก ค่ายต้นกล้าตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม https://www.facebook.com/TonklaTulakan หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2541 2927 หรือ 0 2541 2329 ในวันและเวลาราชการ (จันทร์ – ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ระหว่าง 08.30 – 16.30 น.)
สำหรับโครงการค่ายต้นกล้าตุลาการได้มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนรูปแบบทั้งหัวข้อการบรรยาย วิทยากร และกิจกรรมต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและกระบวนการเรียนรู้ของเยาวชน โดยที่ผ่านมามีเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่รุ่นที่ 1 – 11 จำนวน ทั้งสิ้น 1,370 คน ซึ่งเยาวชนบางคนได้มุ่งเข้าสู่สายอาชีพนักกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษา อัยการ หรือทนายความ
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ไม่ได้มุ่งหวังให้ทุกคนจะต้องเข้าสู่สายอาชีพนักกฎหมายเพียงเท่านั้น เพราะการประกอบอาชีพขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัด โดยไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร เรียนสาขาไหน พวกเขาเหล่านี้ก็เป็นต้นกล้าตุลาการที่น่าภูมิใจ เป็นเยาวชนที่เติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแรง พร้อมจะเป็นคนดีและคนเก่งของสังคมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการต้นกล้าตุลาการจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมและการดำเนินงานของศาลยุติธรรมเพื่อจะได้นำความรู้และประสบการณ์ไปใช้เป็นเกราะปกป้องสิทธิและเสรีภาพให้แก่ตนเอง ในโครงการยังมีการแนะนำแนวทางการศึกษาต่อในวิชาชีพกฎหมายอีกด้วย ซึ่งน้อง ๆ เยาวชนจะได้ใช้เวลาช่วงเข้าค่าย 6 วัน 5 คืน เพื่อเรียนรู้และค้นหาตัวเองว่าเหมาะกับวิชาชีพนักกฎหมายหรือไม่
ในขณะเดียวกันยังมีการนำวัฒนธรรมองค์กรและคุณธรรมจริยธรรมที่งดงามของศาลยุติธรรมและสังคมไทย เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต การทำงานเพื่อสังคม การเปิดใจกว้างรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง มาสอดแทรกในกิจกรรมให้เยาวชนนำไปปรับใช้ในชีวิตเพื่อให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดีของสังคม เนื่องจากเห็นว่าการบ่มเพาะและการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้ผู้คนในสังคมเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน อย่างปกติสุข
ทั้งนี้ผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการค่ายต้นกล้าตุลาการ จะต้องเป็นเยาวชนที่มีอายุระว่าง 15-18 ปี กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าจากทั่วประเทศซึ่งผลผลิตจากค่ายต้นกล้าตุลาการที่ผ่านมาพบว่ามีการมีผู้ผ่านการฝึกอบรมจากค่ายดังกล่าวสอบเข้าเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาเเละอัยการผู้ช่วย ได้หลายคนซึ่งบางคนสอบได้คะเเนนสูงเป็นอันดับ1ของผู้ช่วยผู้พิพากษาสนามใหญ่