จัดเต็มไม่แผ่ว รับปีมังกรทอง “จับกัง 1” รับนโยบายจาก “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน มอบของขวัญปีใหม่ 2567 ให้ผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ 11 ชิ้น พร้อม ชูแคมเปญ เพิ่ม ฟรี ปรับขึ้น สะดวก ช่วยปลดหนี้ “อุ่นใจผู้ให้ สุขใจผู้รับ” เริ่มต้นปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
ฟรีกู้เงินกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน ดอกเบี้ย 0% จำนวน 24 เดือน ฝึกอบรมออนไลน์ หลักสูตรภาษาอังกฤษ ภาษาจีน เพื่อแรงงานไทยได้ Up skill ตนเอง ช่วยปลดหนี้ผ่านโครงการเงินกู้สร้างสุข ปลดทุกข์หนี้นอกระบบ ในวงเงินไม่เกินคนละ 100,000 บาท …พี่น้องแรงงานคนไหน ใครสนใจเชิญเลือกช้อปของขวัญได้ทันที
คนไทยหนี้ท่วม ตัวเลขล่าสุดจากกระทรวงมหาดไทย (มท.) ที่เปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบตั้งแต่วันที่ 1-21 ธ.ค. เพียง 21 วัน พบมูลค่าหนี้รวม 6,576 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 105,482 คน ส่วนเจ้าหนี้ก็ลงทะเบียนด้วยอีก 76,223 คน
สำหรับจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรก คือ กทม.มีผู้ลงทะเบียน 6,649 คน เจ้าหนี้ 5,692 คน มูลหนี้ 562 ล้านบาท , นครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 4,506 คน เจ้าหนี้ 3,722 คน มูลหนี้ 278 ล้านบาท , สงขลา มีผู้ลงทะเบียน 4,164 คน เจ้าหนี้ 2,975 คน มูลหนี้ 259 ล้านบาท , นครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 4,065 คน เจ้าหนี้ 2,596 คนมูลหนี้ 311 ล้านบาท และ ขอนแก่น มีผู้ลงทะเบียน 2,764 คน เจ้าหนี้ 2,245 คนมูลหนี้ 205 ล้านบาท
ครบ 120 วัน “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ด้วยหลายโรครุมเร้าตามที่ หมอใหญ่ รพ.ตำรวจและกรมราชทัณฑ์ชี้ แจง นับจากวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึง 22 ธ.ค.วันนี้ เวลาผ่านไปไวเหมือนสายลม
แต่ไม่มีความชัดเจนว่า อาการป่วยของ “ทักษิณ” จะฟื้นตัวหรือไม่ และมีความคืบหน้าอย่างไร คงมีเพียง “ทนาย” วิญญัติ ชาติมนตรี และ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” อดีต รมว.ยธ. ในฐานะรองนายกฯ ในรัฐบาลชุดนี้ ที่ออกมาโดดป้องขู่จะฟ้องร้องผู้ที่ต้องมาร้องเรียนคนตรวจสอบว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชน และกำลังทำผิด พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ
ทั้งๆ ที่ตามระเบียบการรักษาตัวนอกโรงพยาบาลจะต้องมีความเห็นจากแพทย์ผู้ทำการรักษาแจ้งผลการรักษาให้กรมราชทัณฑ์ รับทราบเพื่อพิจารณาว่า ยังมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาตัวอยู่นอกเรือนจำต่อหรือไม่ แต่ “สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” ว่าที่อธิบดีราชทัณฑ์ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยธ. ยังตอบไม่ตรงคำถามว่า “ทักษิณ” จะเข้าข่ายได้รับประโยชน์ขังนอกเรือนจำหรือไม่
อ่านข่าว : “สมศักดิ์” ออกโรงป้องละเมิดสิทธิ “ทักษิณ” เสี่ยงถูกฟ้อง
ขณะที่บรรยากาศที่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจวันนี้ จากการสังเกตการณ์ บริเวณปีกซ้ายของอาคาร พบว่า มีตำรวจ 2 นาย ที่ประจำการดูแลความเรียบร้อย และบริเวณประตูหน้าห้อง 1401 ซึ่งว่ากันว่าเป็นห้องที่ “ทักษิณ” นอนพักรักษาตัวมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 1 นายนั่งประจำการ
ส่วนฝั่งปีกขวา เดิมเคยเป็นห้องพักฟื้นของผู้ป่วย เช่นเดียวกันกับฝั่งปีกซ้าย แต่ปัจจุบันมีสภาพเปลี่ยนแปลงไป โดยพบว่า มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และตำรวจ จัดโต๊ะที่นั่งคล้ายกับรอประจำการ
นอกจากนี้ป้ายแจ้งข้อมูลของแต่ละชั้นในอาคารพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงข้อความของชั้น 14 จากเดิมเคยระบุว่า เป็นหอผู้ป่วยพิเศษระดับสูงซึ่งหมายถึงเป็นชั้นพักฟื้นระหว่างรักษาตัวของตำรวจระดับนายพล แต่ปัจจุบัน ข้อความระบุสั้นๆ ว่า “หอผู้ป่วยพิเศษ”
ส่วนผลการรักษาอาการป่วย “ทักษิณ” ตามระเบียบของราชทัณฑ์แล้วกรณีผู้ที่รักษาตัวนอกเรือนจำ มีคำชี้แจงว่าเมื่อครบกำหนดทุกๆ 30 วัน แพทย์ใหญ่หรือแพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องทำความเห็นอาการของผู้ป่วย เพื่อรายงานต่อ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้รับทราบ
อ่านข่าว : ส่อง “หอผู้ป่วยพิเศษ” รพ.ตำรวจ หลัง “ทักษิณ” นอนครบ 120 วัน
แต่ “บิ๊กวี” พ.ต.อ.ทวี กลับบอกเพียงว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องผลการรักษาอาการป่วยของทักษิณ และอาจจะอยู่ในกระบวนการของทางกรมราชทัณฑ์ แต่ตามระเบียบแล้วมีกำหนดเวลาในการส่งรายงานต่อรัฐมนตรีภายใน 7 วันหลังครบกำหนด 120 วัน
จึงไม่แปลกที่สังคมจะมีสิทธิจะตั้งข้อสงสัยว่า ทักษิณป่วยจริงหรือไม่
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์สนั่นเมืองในประเด็นดังกล่าว “ปริญญา เทวานฤมิตรกุล” อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฟันธงเปรี้ยงว่า ตามเกณฑ์ “ทักษิณ” มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งจะครบ 22 ก.พ. แต่ด้วยทักษิณ มีอายุ 70 ปี มีโรคประจำป่วย เมื่อถึงวันที่ 22 ก.พ.ทักษิณจะเข้าเกณฑ์การพักโทษ
การจะอนุญาตให้ผู้ต้องขังไปอยู่บ้านได้เลย ต้องมีคณะทำงานขึ้นมา เรือนจำต้องสแกนผู้ต้องขังทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ทั่วประเทศกว่า 2 แสนคน ก่อนที่จะเห็นชอบก่อนที่จะเรื่องไปยังกรมราชทัณฑ์เพื่ออนุมัติ
ดร.ปริญญา ย้ำว่า ส่วนตัวระเบียบนี้เป็นประโยชน์กับประชาชน ผู้ถูกคุมขัง หรือผู้ป่วยในเรือนจำ เพียงแต่สังคมกลัวว่าเลือกปฏิบัติเพื่อช่วยคนหนึ่งคนใด ซึ่งต้องทำให้กระจ่างว่ากระบวนการยุติธรรมไม่ได้มีเจตนาเอื้อคนหนึ่งคนใด เป็นการช่วยเหลือคนทั่วไปและทักษิณเป็นหนึ่งในนั้น
ส่องความเคลื่อนไหวของ นายกฯนิด “เศรษฐา” หลังบินหลบ “พักรบ” ไปพักร้อน เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาก็กลับมาทำงานพร้อมลมหนาวระลอกใหม่ และฝุ่น PM.2.5 ที่เริ่มจะเบาบาง
ภารกิจแรกหลังกลับถึง “ตึกไทยคู่ฟ้า” ทำเนียบรัฐบาล ก็มีงานต่อทันที ก่อนที่ในช่วง 20.30 น. คืนนี้ จะไปดูมวย “ศึก One ลุมพินี 46” คู่ตะวันฉาย – ซุปเปอร์บอน ที่เวทีมวยลุมพินี รามอินทรา
ต่อด้วยโปรแกรมในวันเสาร์ที่ 23 ธ.ค. นายกฯนิด “เศรษฐา” จะเดินทางไปภารกิจที่ จ.น่าน เพื่อพบปะประชาชนติดตามประเด็นการเจรจาแก้หนี้นอกระบบในพื้นที่
ส่วนนายกฯจะแอบไปกระซิบบอกรักใครที่ จ.น่าน หรือไม่ รายงานข่าวไม่ได้แจ้งไว้ เพราะพลันที่กลับจากภูเก็ตถึง กทม.ได้ยินนายกฯ บ่นว่า จะเร่งทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยอีกแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“เศรษฐา” ยะก๋านเมืองน่าน แก้หนี้นอกระบบพรุ่งนี้
“วิโรจน์” จี้ “ภูมิธรรม” เปิดรายละเอียด “ทักษิณ” บอกอย่าผลักภาระให้ดุลยพินิจแพทย์