ผมจะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เป็นวาทะแห่งปี 2566 หลังนายเศรษฐา ทวีสิน เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนถึงวันนี้ครบ 4 เดือน 4 วัน แต่ก็ไม่วายถูกเม้าท์มอยว่าถ้าไม่เหนื่อยแล้วเหตุไฉนถึงลาพักร้อน 4 วัน
ซึ่งหากไล่เรียงต้องบอกว่า “นายกฯ นิด” ชีพจรลงเท้าขึ้นเหนือ ล่องใต้ พบปะชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ฝนแล้ง หนี้นอกระบบ คิกออฟ แก้ปัญหาไฟป่า ไม่รวมเดินสายเยือนต่างประเทศ
ล่าสุดเพิ่งไปเยือนปลายด้ามขวาน ซับน้ำตาชาวบ้านใน อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ใส่รองเท้าบู๊ทเดินลุยน้ำทักทายชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในหมู่ 1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่วางขายสินค้าบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน
กลับจากชายแดนใต้ เช้านี้ก็ยังมุ่งตรงเข้าทำเนียบรัฐบาลทำงานก่อนโค้งสุดท้ายวันหยุดยาวปีใหม่ 2567 อวยพรช่วงปีใหม่ ขอให้เดินทางกลับไปหาญาติพี่น้องต่างจังหวัดอย่างปลอดภัย ประสบผลสำเร็จดั่งที่คิด และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
แถมส่งสัญญาณภายในเดือน ม.ค.2567 แรงงานทั่วประเทศเตรียมเฮ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ พร้อมเร่งที่ปรับให้สูงขึ้น และประกาศใช้ให้ได้ภายในเดือนมี.ค.ปีหน้าอีกรอบ เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
หลังจากได้ฉายรัฐบาล แกงส้ม “ผลัก” รวม “เศรษฐา” เซลล์แมนสแตนด์ “ชิน” พร้อมกับอีก 4 ตัวตึงที่สื่อสายทำเนียบหยิกแกมหยอกไปแล้ว
วันนี้สื่อสายสภา ไม่น้อยหน้า เปิดฉายาสภา 66 “สภาลวงละคร” ส่วน “วุฒิสภา” ได้รับฉายา “แตก ป. รอ Retire” ส่วนดาวเด่น 66 ไม่มีผู้ใดเหมาะสม” และโดดเด่นเพียงพอที่จะได้รับตำแหน่งดังกล่าว
แต่มี “ดาวดับ 66” ได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่มีความโดดเด่นในช่วงหาเสียงเลือกตั้งจนกระทั่งรู้ผลเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลได้จำนวนส.ส.มากที่สุด เดินสายขอบคุณประชาชน พบหน่วยงานต่าง ๆ ประหนึ่งว่าเป็นนายรัฐมนตรีแล้ว
อ่านข่าว ฉายาสภา 66 “สภาลวงละคร” – “พิธา” คว้า “ดาวดับ 66”
ส่วน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับฉายา “(วัน) นอ-มินี” ด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้รับฉายา “แจ๋วหลบ จบแล้ว”
เรื่องนี้ นายวันนอร์ ถึงกับยืนยันว่า มาทำหน้าที่เป็นตัวกลางไม่ได้เป็นนอมินีของพรรคใด โดยเฉพาะที่ถูกจับตาเรื่องเข้าข้างพรรคเพื่อไทย เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เป็นไปตามกลไกของสภา เพราะประเทศจะขาดรัฐบาลไม่ได้ เมื่อตนเป็นคนกลางมาทำหน้าที่ประธานรัฐสภา ก็จะต้องทำให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรี ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล สภาก็อยู่ตรงกลางที่จะบริหารงานสภา
ไม่รู้มีอะไรในกอไผ่หรือไม่ หลังเศรษฐา เซ็นคำสั่งมอบหมาย และมอบอำนาจให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ที่คุมด้านพลังงาน มาปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม (ยกเว้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ)
แม้ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี จะบอกว่าไม่ติดใจ ไม่น้อยใจ และจะไม่ถามนายกรัฐมนตรี หลังถูกเปลี่ยนงานจากกำกับดูแลงานยุติธรรมไปดูสาธารณสุขแทน ลั่น ส.บ.ม.ย.ห.อย่าห่วง เพราะเคยนั่ง รมว.สาธารณสุขมาแล้ว
อ่านข่าว “สมศักดิ์” ไม่น้อยใจ นายกฯ สั่งโยก คุมสาธารณสุข
ไม่รู้เพราะวันก่อนเพิ่งแซะกรมราชทัณฑ์ ปมทำงานเช้าชามเย็นชามหลังสื่อจี้ถามรายวันปมนายทักษิณ ชินวัตร นอนนอกเรือนจำมาครบ 120 วัน และรอลุ้นว่าจะเป็นคนแรกที่ได้ใช้สิทธิตั๋วเทวดาจากระเบียบฉบับใหม่หรือไม่
ตบท้ายด้วยการนับถอยหลังเศรษฐา ที่เคยบอกว่าจะนอนพักค้างคืนที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล แว่วว่าถ้าไม่ขัดฤกษ์งามยามดีวันที่ 2 ม.ค.นี้ คงได้เห็นภาพนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมงานนอนพักที่บ้านนรสิงห์
อ่านข่าว ส่องตำนาน “บ้านนรสิงห์” ถึง “ทำเนียบรัฐบาล”
เปิดศักราชใหม่ ประเดิมด้วยการอภิปรายถกร่างพ.ร.บ.งบปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ซึ่งเริ่มตามกรอบ 105 วันให้แล้วเสร็จภายใน 8 เม.ย.2567 โดยจะมีการพิจารณา 3-5 ม.ค.นี้ แบ่งเวลารัฐบาลได้ 20 ชั่วโมง ฝ่ายค้านได้ 20 ชั่วโมง ต้องจับตางบก้อนใหญ่เทให้ “มหาดไทย” สูงถึง 353,127 ล้านบาท รองลงมาศึกษาธิการ 328,384 ล้านบาท
จับตาผู้นำฝ่ายค้านมือใหม่ “ต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลจะลับฝีปาก และไม้เด็ดมาถล่มรัฐบาลทันเกมหรือไม่เพราะมีเวลาแค่ 7 วันทำการบ้าน