วันนี้ (3 ม.ค.2567) นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎร์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2567 วงเงิน 3,480,000 ล้านบาท โดยระบุว่า งบประมาณฉบับนี้เป็นงบประมาณเป็ดง่อย เพราะงบประมาณทั้งหมด 3.48 ล้านล้านบาทนั้น รัฐบาลมีเวลาใช้เงิน 5 เดือนจากปกติ 12 เดือน หรือ มีเวลาใช้เงิน 40 % และงบลงทุนหัวใจในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็มีสัดส่วนน้อยสุดท้ายงบประมาณนี้ก็จะเป็นงบประมาณเป็ดง่อยไม่สามารถไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามที่รัฐบาลคาดหวังไว้
อ่านข่าว : “เศรษฐา” ร่ายยาวแจงใช้งบปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท
นายกฯ พยายามตีปี๊บว่า เศรษฐกิจต้องเร่งขนานใหญ่ ขณะที่งบประมาณแผ่นดินมีผลต่อ GDP กว่า 18 % และหากเป็นเป็ดง่อยจะไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร หลังนายกฯไปมอบนโยบายให้จัดทำงบประมาณใหม่ขอเรียนว่าไม่มีอะไรใหม่ หลายเรื่อง แย่กว่าเดิม
นายจุรินทร์ ยังอธิบายเพิ่มเติมใน 4 ประเด็น คือ
1.รัฐบาลยังจัดสรรงบประมาณงบขาดดุลเหมือนเดิม และจะขาดดุลไปอีกตลอดอายุรัฐบาลครบ 4 ปี เช่นปี 2567 รายได้รัฐบาลจะอยู่ที่ 2.7 ล้านล้านบาท ขณะที่รายจ่ายจะอยู่ที่ 3.4 ล้านล้านบาท ขาดดุลการคลัง 6.93 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ตลอดเวลา 4 ปีของรัฐบาล ขาดดุลตลอดอายุรัฐบาล
2.งบประมาณเพิ่มขึ้นแต่สัดส่วนงบลงทุนน้อยกว่าเดิมสัดส่วนงบลงทุนปี 2566 อยู่ที่ 21.7 % ขณะที่ งบประมาณปี 2567 อยู่ที่ 20.6 % ซึ่งงบประมาณนำไปเพิ่มให้กับงบประมาณรายจ่ายประจำ แล้วจึงขอตั้งคำถามว่าจะไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร
3.งบกลางดูเหมือนงบประมาณลดลงแต่งบประมาณปี 66 อยู่ที่ 18% แต่ปี 67 อยู่ที่ 17.4 % แต่เมื่อมองดูลึกลงไป คือเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินตามอำนาจนายกฯ แทนที่จะลดกลายเป็นเพิ่ม โดยส่วนนี้ในงบปี 66 จัดอยู่ที่ 92,400 ล้านล้านบาท งบปี 67 อยู่ที่ 98,500 ล้านบาท
4.งบประมาณฉบับนี้จาก “คิดใหญ่ทำเป็น” เปลี่ยนเป็น “คิดกู้ทำกู้” โดยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นั้นจัดทำงบประมาณปี 67 ไว้แล้วโดยจะกู้เงินราว 5.93 แสนล้าน แต่รัฐบาลนี้จะกู้เงินราว 6.93 แสนล้าน กู้เพิ่มราว 1 แสนล้านบาท ที่เคยวิจารณ์ว่ารัฐบาลเดิมนั้นเป็นรัฐบาล “นักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา” รอบนี้เป็น “นักกู้ถุงเท้าสีชมพู” ขอถามว่ากู้เพิ่มเป็นแสนล้านเอาไปทำอะไร
อ่านข่าว : “ชัยธวัช” อัดงบฯ ปี 2567 เป็นเบี้ยหัวแตก หัวข้อสวยหรู แต่ไส้ในไร้เป้าหมาย
รวมถึงการใช้หนี้ของรัฐบาลที่ระบุว่า เวลาใช้หนี้ 3 ปีงบประมาณเท่านั้น แต่ศักยภาพในการใช้หนี้จะอยู่ที่ 1.2 แสนล้าน และไม่รวมดอกเบี้ย และการใช้หนี้ 1.2 แสนล้านไม่ใช่เพียงหนี้จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท ยังมีหนี้จากหนี้สะสมจากรัฐบาลเก่าสะสมไว้อีก 9.9 ล้านล้านบาท ซึ่งการใช้หนี้จะเป็นไปได้อย่างไร
ฟันธงไว้เลยว่า หนี้นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้าน ในรัฐบาลนี้ แค่วาทกรรม สร้างความชอบธรรมให้นโยบายที่หาเสียง
ขณะที่ กระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะกรณีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของให้มีความเป็นธรรม รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเห็นด้วยว่าควรทำเรื่องการเมืองควบคู่ไปกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 และ เห็นด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเร่งด่วน โดยออกเป็นมติ ครม. แต่เอาเข้าจริงเป็นหนังคนละม้วน แต่กลายเป็นตั้งคณะกรรมการศึกษาใช้เวลา 4 ปี จากหนังสั้นเป็นหนังยาว
รวมถึงงบประมาณในการจัดทำประชามติ ครั้งละ 3,000 ล้านบาท รวม 3 ครั้งรวม 10,000 ล้านบาท คำถามคือ งบประมาณอยู่ตรงไหน ซึ่งตนเองหาไม่เจอ
ขณะที่ โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นั้นจะต้องครอบคลุมรถไฟฟ้าทั้งหมด 12 สาย ระยะทาง 278 กม.ซึ่งนโยบายดังกล่าว ผู้โดยสารจ่าย 20 บาท นั่งได้ทั้งหมด แต่ขณะนี้นั่งได้เพียงรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงเท่านั้น
อ่านข่าว : เปิดงบฯ ปี 2567 จำนวน 3.48 ล้านล้านบาท กับ 6 ยุทธศาสตร์ 63 แผนงาน
รวมถึง ขณะนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเก็บค่าบริการส่วนต่อขยายแล้ว 15 บาท นอกจากนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงแดง นั้นขาดทุนวันละ 7.4 ล้านบาท หรือต่อปีจะอยู่ที่ราว 2.7 พันล้านบาท คำถามคือ เงินขาดทุนใครจ่าย ซึ่งนโยบายลดราคาให้ประชาชนและจ่ายเงินคืนโดยประชาชน เข้าข่าย “อัฐยายซื้อขนมยาย” ไม่สมราคาคิดใหญ่ทำเป็น จึงขอตั้งคำถามว่า รถไฟ้าค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายของจริงจะได้เมื่อไหร่ ขอให้รัฐบาลตอบด้วย และจะใช้เงินจากไหน
นายจุรินทร์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้นายกฯได้กำชับตนเองและรัฐมนตรีให้ใช้งบประมาณให้คุ้มค่าและเพื่อประโยชน์ของประเทศ อย่างสุจริตและไม่ประสงค์ที่จะเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยไม่จำเป็น
อ่านข่าวอื่น ๆ