วันนี้ (5 ม.ค.2567) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.พรรคก้าวไกล อภิปราย ชี้ถึงวิกฤตการศึกษาอ้างผลประเมินโปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล (PISA) ที่วัดคุณภาพระบบการศึกษาทั่วประเทศของไทยล่าสุด ตอกย้ำ 3 วิกฤต การศึกษาไทยที่เรื้อรังยาวนาน
1.สมรรถนะ ที่เด็กไทยสู้เด็กต่างชาติไม่ได้ 2.วิกฤติเหลื่อมล้ำ เด็กไทยมีโอกาสทางการศึกษาไม่เท่ากัน และ 3.วิกฤตความเป็นอยู่ เด็กไทยไม่มีความสุขในโรงเรียน โดยเฉพาะสถิติพบว่า เด็กไทยต้องอดอาหารเป็นอันดับ 1 ของโลก เด็กรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในโรงเรียนสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ต้องตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไรให้แก้ไขปัญหานี้ได้จริง
นายพริษฐ์ ยังชี้ถึงปัญหาหลักของระบบการศึกษาไทยอยู่ที่ประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากร พร้อมกับเชิญชวนสภาฯผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจที่เรียกว่า “ระบบการศึกษาไทย” คือ 1.งบบุคลากร 64% ,2.เงินอุดหนุนนักเรียน 26%, 3.งบลงทุน 4%, และ 4.งบนโยบาย 6% ซึ่งงบนโยบายยังจัดสรรเป็นเบี้ยหัวแตกมีลักษณะคล้ายเดิม และขอให้รัฐบาลรับประกัน 2 อย่าง คือ 1.งบประมาณต้องไม่ซ้ำซ้อน ระหว่างหน่วยงาน และ 2.กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำแพลตฟอร์มทำด้วยความโปร่งใส
อ่านข่าว : “ชัยธวัช” นำพรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงคว่ำร่างงบฯ ปี 67
พร้อมกับชี้ถึงโครงการในงบนโยบายมี 2 ปัญหา คือ โครงการที่ควรมีกลับไม่มี และโครงการที่ไม่ควรมีแต่ยังมีต่อ เช่น เวลาทำงานของครู 40% ถูกนำไปใช้ในสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอนเช่น การทำรายงานตามนโยบายโครงการของกระทรวง เช่น โครงการรวมมิตรความดีและโครงการอบรมครู และยกตัวอย่าง โครงการเกี่ยวกับต่อต้านยาเสพติด 125 ล้านบาท รวมถึงยังมีรายการใหม่ ส่งเสริมการสร้างคนดีทางศาสนาที่ถูกต้อง 273 ล้านบาท
ไม่ใช่ตนเองต้องการต่อต้านการสร้างศีลธรรม สุจริต แต่ต้องทบทวนในประเด็นที่เป็นปัญหาเกี่ยวข้อง เช่น แป๊ะเจี๊ยะ, ไม่ลงโทษครูที่ทำผิดจริยธรรมหรือกฎหมาย
ส่วนโครงการที่ควรจะมีแต่ยังไม่มี เช่น รัฐบาลควรจัดทำหลักสูตรการศึกษาฉบับใหม่ฐานสมรรถนะให้สำเร็จโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของบางสำนักพิมพ์ ภายใต้วาระของรัฐบาลปัจจุบันเกรงว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำจะเป็นการล็อกระบบการศึกษาให้หยุดอยู่กับหลักสูตรการศึกษาฉบับเดิมที่ไม่มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่มานาน 20 ปี เมื่อเปรียบเทียบกับระบบการศึกษาประเทศอื่นเช่น ฟินแลนด์ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ที่มีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรทุก 5-10 ปี
อ่านข่าว : นายกฯย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญประมูล e-bidding โปร่งใส
นายพริษฐ์ ยังแนะวิธีให้รัฐบาลช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง คือ อุดหนุนเด็กยากจน ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น บังคับชุดลูกเสือให้เปลี่ยนเป็นชุดลำลอง ชุดพละและปรับวิธีการอุดหนุนเงินโรงเรียน โดยที่สำคัญจะต้องบริหารจัดการงบบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ เช่น ปัญหาครูกระจุก โรงเรียนกระจัดกระจาย และแก้ปัญหาปฏิรูปโครงสร้างกระทรวงฯไม่ให้ทำงานที่ซ้ำซ้อน และให้มีการกระจายอำนาจสู่สถานศึกษามากขึ้น
หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลหรือรัฐบาลนี้ยินดีรับฟังข้อเสนอของเราในฐานะฝ่ายค้าน ผมยืนยันจริง ๆ ว่าวิกฤติการศึกษาไทยไม่สามารถแก้ไขได้หากไม่ผ่าตัดหัวใจทั้งสี่ห้องของงบประมาณด้านการศึกษา
อ่านข่าวอื่น ๆ : วิปรัฐบาลมั่นใจโหวตงบฯ เสียงไม่แตก ตั้ง กมธ.คืนนี้ คาดทูลเกล้าฯ 17 ม.ค.