เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2567 กรมราชทัณฑ์ออกเอกสารชี้แจงการพักรักษาตัวนอกเรือนจำของนายทักษิณเกินกว่า 120 วัน ยังคงเป็นไปตามกฎ-ระเบียบ และข้อบังคับราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ ตลอดจนหลักสิทธิมนุษยชน จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณาข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างรอบคอบ
ขณะเดียวกัน ยังเน้นย้ำว่า แม้จะรักษาตัวนอกเรือนจำ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่นเดียวกับผู้ต้องขังภายในเรือนจำ
อ่าน : ราชทัณฑ์ยัน “ทักษิณ” อยู่นอกเรือนจำ ปฏิบัติไม่ต่างจากผู้ต้องขัง
“ทวี” ยืนยัน “ทักษิณ” ป่วยจริง
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ยอมรับว่าได้หนังสือยืนยันทางการแพทย์ ว่านายทักษิณ ชินวัตร ป่วยจริง และเรื่องการขอพักรักษาตัวนอกเรือนจำ อยู่ระหว่างอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ส่งคณะทำงานที่เป็นแพทย์ของกรมราชทัณฑ์ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อรายงานกลับมาในวันทำการ ซึ่งทราบดีว่า เรื่องนี้เป็นที่สนใจของประชาชน แต่ก็ยังคงย้ำถึงข้อมูลที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ทั้งหมด เพราะมีกฎหมายคุ้มครองอยู่
อ่าน : “ทวี” ได้รับรายงานอาการป่วย “ทักษิณ” แล้ว ให้ “อธิบดีราชทัณฑ์” ชี้แจง
ส่วนกรณีคณะกรรมาธิการการตำรวจ ของสภาผู้แทนราษฎร เตรียมเดินทางไปศึกษา-ดูงานที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 12 ม.ค.นั้น รมว.ยุติธรรม บอกว่ายังไม่มีการยื่นหนังสือขอ มาแต่อย่างใด แต่ระบุว่าการเข้าศึกษา-ดูงาน หรือหมายถึงการเข้าเยี่ยมนักโทษ กรมราชทัณฑ์มีกฎ-ระเบียบชัดเจนที่อยู่แล้ว
นับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.2566 วันแรกที่นายทักษิณเข้ารับโทษ ก็ขอพักรักษาตัวนอกเรือนจำ เกินกว่า 130 วันแล้ว รมว.ยุติธรรมคาดว่า วันจันทร์ที่ 8 ม.ค.นี้จะมีความชัดเจน สอดรับกับรายงานข่าวที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการนัดพบสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลในช่วงเย็น อาจมีความคืบหน้าเรื่องนี้
“เทพไท” ตั้ง 6 ประด็น ปม “ทักษิณ”
ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กตั้งข้อสังเกตในประเด็นการชี้แจงของ รมว.ยุติธรรม 6 ประเด็น ใจความสำคัญชี้ว่า
- มีนักโทษทั่วไปที่มีอาการป่วยหนักกว่านายทักษิณหลายคน แต่ยังไม่ได้รับสิทธิออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ
- ห้องที่นายทักษิณพักอยู่เป็นห้องผู้ป่วยพิเศษระดับสูง ห้องขนาดใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แตกต่างกับนักโทษในเรือนจำ ที่นอนในห้องแคบๆ แออัด
- ไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่า นายทักษิณป่วยจริง และการอนุมัตินำตัวออกจากเรือนจำเพื่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แตกต่างกับกับนักโทษทั่วไป ซึ่งต้องรักษากับสถานพยาบาลในเรือนจำก่อน ก่อนจะนำตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอก
นายทักษิณไม่ใช่นักสร้างสันติภาพในอดีตที่ผ่านมา เป็นนักสร้างความขัดแย้ง และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองจนถึงวันนี้ มาจากนายทักษิณทั้งสิ้น
พร้อมยังยืนยันด้วยฐานะที่เป็นนักโทษ เคยถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ มาเป็นเวลา 16 เดือน ได้ศึกษาข้อมูลเรียนรู้ข้อเท็จจริง สัมผัสกับชีวิตนักโทษในเรือนจำเป็นจำนวนมาก และมีประสบการณ์ตรง ในการขออนุญาตเบิกตัวไปรักษา ที่โรงพยาบาลภายนอก ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
- จะต้องได้รับการวินิจฉัยและมีใบสั่งจากแพทย์ประจำสถานสถานพยาบาลในเรือนจำ ให้ออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอกได้
- จะต้องใส่เครื่องพันธนาการที่ข้อเท้า คือใส่กุญแจข้อเท้า ก่อนออกจากเรือนจำ
- ต้องนั่งรถคุมขังของเรือนจำไปโรงพยาบาล ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่เรือนจำ หรือผู้คุม
- ต้องรักษาตัวในห้องผู้ป่วย เหมือนกับนักโทษทั่วไป หรือผู้ป่วยธรรมดา ไม่มีสิทธิ์พิเศษใดๆทั้งสิ้น
ที่มา : เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์
จากวิธีการและขั้นตอน 4 ข้อนี้ คุณทักษิณได้ปฏิบัติตามระเบียบหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นหอผู้ป่วยพิเศษระดับสูง ขัดต่อระเบียบการรักษาตัวของนักโทษอย่างชัดเจน เพราะเป็นห้องพิเศษขนาดใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ทั้งติดแอร์เย็นฉ่ำ ตู้เย็น โทรทัศน์ ชุดรับแขก มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ฯลฯ จะเหมือนกับการถูกคุมขังในเรือนจำได้อย่างไร ถ้าเปรียบเทียบกับสภาพในเรือนจำ เหมือนสวรรค์กับนรก
ผมขอยืนยันว่า คุณทักษิณได้รับการปฏิบัติ และมีสิทธิพิเศษกว่านักโทษทั่วไปอย่างแน่นอน ไม่ตรงตามคำชี้แจงของกรมราชทัณฑ์เด็ดขาด สามารถตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ว่า มีนักโทษคนใดบ้าง ที่ได้รับการปฏิบัติอย่างคุณทักษิณในตอนนี้ ขอให้ยกมาเป็นตัวอย่างได้เลย
