‘อัคร ทองใจสด’ ขอบคุณ“พล.อ.ประวิตร”นำ พปชร.สัญจร จ.เพชรบูรณ์ ช่วยสร้างความเข้าใจขั้นตอนขึ้นทะเบียนเปลี่ยน ส.ป.ก. 4-01 ให้เกษตรกร ลั่นพร้อมผลักดันทุกที่เป็นประโยชน์อย่างต่อเนื่อง
8 ม.ค. 2567 อัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกิจกรรมของพรรคพลังประชารัฐสัญจร ที่ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนขอเป็นตัวแทนของประชาชนขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ,ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงกรรมการบริหารพรรคทุกท่านที่เห็นความสำคัญของเกษตรกรชาว จ.เพชรบูรณ์ และได้นำข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้ที่มีเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ที่ต้องการจะขึ้นทะเบียนเปลี่ยนเป็นโฉนดเพื่อการเกษตร มาชี้แจงให้ได้ทราบ
อัคร กล่าวต่อว่า กิจกรรมดังกล่าวได้ให้ความรู้ถึงการครอบครองที่ดินประเภทต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนผู้มีเอกสารสิทธิ์เข้าใจในขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเปลี่ยนเป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่เกษตรกรต้องเตรียม หรือเงื่อนไขผู้มีสิทธิยื่นคำขอที่จะต้องเป็นเกษตรกรที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ไม่น้อยกว่า 5 ปี ต้องมีสัญชาติไทย บรรลุนิติภาวะ และจะต้องไม่มีที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือของบุคคลในครอบครัวเดียวกัน หรือมีที่ดินเพียงเล็กน้อย แต่ไม่เพียงพอแก่การประกอบเกษตรกรรมเพื่อเลี้ยงชีพด้วย
“การแปลงเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ถือเป็นนโยบายที่สำคัญของพรรค พปชร.ในการผลักดันบรรจุเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาล เพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องเกษตรกรได้กินดีอยู่ดี อีกทััง จะทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ด้วยการนำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพทางการเกษตรกับธนาคารของรัฐ เพื่อนำทุนที่ได้มาต่อยอดและพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น สามารถเพิ่มรายได้และความมั่นคงในอาชีพด้านเกษตรในระยะยาว เป็นการลดปัญหากู้หนี้นอกระบบได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งประชาชนในจ.เพชรบูรณ์ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำให้ที่ดินทำกินเป็นปัญหาที่สำคัญมาก“นายอัคร กล่าว
อัคร กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่สำคัญที่สุดต้อง ขอขอบคุณชาว จ. เพชรบูรณ์ ที่เลือกพวกเราเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนยกจังหวัด ทั้ง 6 เขต โดย สส.ของพรรค พปชร.จะทำหน้าที่ผลักดันนโยบายต่างๆ ที่เป็นประโยชน์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนโยบายการจัดหาที่ทำกิน พัฒนาแหล่งน้ำให้เพียงพอ เพื่อป้อนภาคเกษตร และอุปโภคบริโภค นำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม