เดือดตั้งแต่การประชุมสภาเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา เมื่อ “ต๋อม”ชัยธวัช ตุลาธน ตั้งคำถามถึงกระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐาน ด้วยเหตุมีผู้รักษาตัวนอกเรือนจำเกินกว่า 120 วัน ระหว่างนั้น “ไชยวัฒนา ติณรัตน์” สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ยกมือประท้วงต่อเนื่องจนนำไปสู่เหตุวิวาทะกับ “วิโรจน์ ลักษณาอดิสร” สส.ก้าวไกล ในเวลาต่อมา
โรงพยาบาลตำรวจ
อ่านข่าว : รพ.ตำรวจ ตอบรับให้ กมธ.ตำรวจ ศึกษาดูงาน 12 ม.ค.นี้
ทำไมฮะ ชั้น 14 แตะไม่ได้หรอครับ เดี๋ยวผมจะเอาข้าวผัดกับโอเลี้ยงไปฝาก
แม้ รพ.ตำรวจจะไม่ใช่ “แดนสนธยา” โดยเฉพาะบนชั้น 14 แต่นิยามก็ถือว่า “ใกล้เคียง” เพราะยังคงเป็นพื้นที่ซึ่งบุคคลทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ นับแต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เข้ารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.66 หรือ ล่วงเลยมาจนเกินกว่า 120 วันเข้าไปแล้ว
อ่านข่าว : กมธ.ตร.ขึ้นชั้น 14 ติดตามอาการ “ทักษิณ” แต่ไม่ได้เข้าเจอตัว
แม้ก่อนหน้านี้ กมธ.ตำรวจ จะได้รับการตอบรับจากทางโรงพยาบาลตำรวจให้เยี่ยมชมดูงานการดูแลผู้ป่วยที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้ แต่ก็ได้เพียงชั้น 6 อาคารศรียานนท์เท่านั้น
รพ.ตำรวจ อนุญาตให้ กมธ.ตำรวจ ดูงานได้ที่ชั้น 6 อาคารศรียานนท์
แต่แล้วในที่สุด คณะของ กมธ.ตำรวจ ที่นำโดย “ชัยชนะ เดชเดโช” สส.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ ก็ได้รับการอนุญาตให้ขึ้นไปยังชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา
มีรายงานเล็ดลอดออกมาว่า ระหว่างขึ้นลิฟต์ คณะ กมธ.ตำรวจฯ สอบถามพยาบาลว่า ได้เคยเจอหรือรักษานายทักษิณหรือไม่ พยาบาลคนดังกล่าว ระบุว่า ส่วนตัวไม่เคยเจอเพราะเป็นหัวหน้า แต่มีน้องในทีมพยาบาลได้สลับเข้าไปคอยดูแล และให้การพยาบาลเท่านั้น ซึ่งนายทักษิณมีภาวะโรคหัวใจรั่วด้วย และไม่ค่อยได้มีญาติมาเยี่ยมบ่อยนัก
อ่านข่าว : “ทักษิณ” อยู่ต่อ รพ.ตำรวจ อธ.ราชทัณฑ์ เผยภาวะเสี่ยง-แพทย์ต้องเฝ้าระวัง
ภายหลังการขึ้นไปชั้น 14 นายชัยชนะ ให้สัมภาษณ์สื่อโดยชี้ว่า กรมราชทัณฑ์จะต้องตกเป็นจำเลยของสังคม หากตอบคำถามกรณีการรักษาตัวของนายทักษิณไม่ได้
นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ผิดอะไร แต่ กรมราชทัณฑ์ จะต้องชี้แจงกับสังคมให้เข้าใจ ถ้าเมื่อไหร่ ที่ชี้แจงไม่เข้าใจ คุณจำคำผมไว้เลย จำเลยของสังคมก็คือ กรมราชทัณฑ์ และสิ่งที่โรงพยาบาลตำรวจทำในวันนี้ถูกต้องที่สุด เพราะให้ความร่วมมือและให้ข้อเท็จจริงกับ กมธ.ตำรวจ
คลื่นลมเงียบ อย่าคิดว่าทะเลจะสงบ เมื่อกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่ประกาศจะชุมนุม “ทวงคืนความยุติธรรม” ตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.นี้ โดยหนึ่งในแกนนำอย่าง “พิชิต ไชยมงคล” แย้มว่า หัวใจหลักของการชุมนุม คือจะส่งเสียงไปยังรัฐบาล กรณี “ทักษิณ” พักรักษาตัวนอกเรือนจำเกิน 120 วัน
นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ
อ่านข่าว : “ทวี” ไม่สรุปแนวทางขัง “ทักษิณ” – ถกราชทัณฑ์เกณฑ์คุมนอกคุก
ขณะที่ รศ.เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการสายอนุรักษ์นิยม ให้สัมภาษณ์ ในรายการมุมการเมือง (12 ม.ค.67) โดยระบุว่า กรณี “ทักษิณ” พักรักษาตัวที่ชั้น 14 นั้น บรรดาผู้เกี่ยวข้องได้คิดและวางแผนกันมาแล้ว ตั้งแต่การเดินทางกลับไทยและเข้าสู่กระบวนการรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมเวลามากกว่า 120 วัน
โรงพยาบาลตำรวจ
“การไปรักษาตัวของ “ทักษิณ” ไปจนถึงการรักษาตัวนอกเรือนจำที่ไล่เรียงความรับผิดชอบและให้อนุญาตพักรักษาตัวเกี่ยวข้องกับข้าราชการในหลายระดับ คือ 30 วัน ขึ้นอยู่กับระดับอธิบดี และรักษาตัวนอกเรือนจำ 60 วัน ขึ้นอยู่กับระดับปลัดกระทรวง ไปจนถึงระยะเวลา 120 ที่ขึ้นอยู่กับรัฐมนตรี จนมาถึงการออกระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ ที่สามารถคุมขังไปจนถึงพื้นที่เอกชน เช่น โรงแรม หรือพื้นที่ของหน่วยงานรัฐ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกวางแผนมาเป็นลำดับ”
แต่ก็มีคำถามจากหลายคนว่า ชั้น 14 รพ.ตำรวจ มีเพียงห้องเดียวหรือไม่ และมีผู้ป่วยคนอื่นที่รักษาตัวอยู่หรือไม่ หรือ หากมีคนเดียวต้องปิดทั้งชั้นหรือไม่ ซึ่งมีคำถามตามมาเยอะ ว่านี่คือเกิดอะไรขึ้นกับชั้น 14 ถือว่าเป็นแดนสนธยาหรือไม่
เมื่อส่องความเคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์ อย่าง X ก็พบ #ทักษิณ และ #ชั้น14 ติดเทรนด์ฮิต พร้อมคลิปภาพและกับข้อความมากมาย โดยฉพาะการทำกิจกรรมที่หลากหลายของ “ทักษิณ” ทั้งการชกกระสบทราย เล่นน้ำกับหลาน
อ่านข่าว : ศาล รธน.ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอให้สั่งเอาผิด “อานนท์-ไมค์-รุ้ง”
รวมถึงข้อความตั้งคำถามในกรณีนี้คือ “ทักษิณ” เมื่ออยู่ต่างประเทศ ร่างกายแข็งแรง แต่เมื่อกลับไทยกลับป่วยและมีโรครุมเร้าจนต้องส่งตัวไปรักษายัง รพ.ตำรวจ
อีกฟากไม่รู้ว่าจังหวะเหมาะเจาะหรืออย่างไร กับประเด็นร้อน “ชั้น14” ที่ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน ก็มีคิวบินลัดฟ้าเดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาฝุ่น และประเด็นร้อนเกี่ยวกับ “ทักษิณ” ที่รักษาตัวนอกเรือนจำ ในครั้งก่อน จังหวะพอดีกับช่วงการลาพักร้อนของ “นายกฯนิด” เพื่ออยู่กับครอบครัวเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมาอย่างเหมาะเจาะเช่นกัน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฝุ่น
กระนั้น การลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ครั้งนี้ นอกเหนือจากการแก้ไขปัญหาฝุ่นก็ยังมีการติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสนามบินล้านนา (สนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2), โครงการรถแดงไฟฟ้า (EV) และรถไฟฟ้า LRT, การก่อสร้างถนนวงแหวนรอบ 3 เชียงใหม่ และการพัฒนาถนนวงแหวนรอบที่ 4 และถนนเลี่ยงเมืองต้นเปาฅ แผนการเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ 7 แห่ง และถนนเชื่อมโยงเชียงใหม่กับจังหวัดในภาคเหนือ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง โดยให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภาคเหนือ
อ่านข่าว : นักโทษรักษาตัวนอกเรือนจำ เกิน 120 วัน พบ 3 คน มีชื่อ “ทักษิณ”
อีกด้านที่น่าสนใจไม่แพ้กันกับการปรากฏกายของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีและอดีตนายกฯ ที่เป็นประธานในพิธี วันสถาปนากองทัพภาคที่ 1 ครบรอบ 114 ปี
หลังไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชนมาพักใหญ่ ๆ โดย “ลุงตู่” สีหน้าแจ่มใส พร้อมยิ้มทักทายสื่อมวลชน และบอกว่า “สบายดี” แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกฯ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ปม “รักษาตัวนอกรพ.” หรือ “คุมขังนอกเรือนจำ” ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับ “ทักษิณ” ที่ยังคลุมเครือยังคงถูกจับตาจากฝ่ายการเมืองและสังคมต่อไป จนกว่าจะมีความชัดเจนและชี้แจงจากบรรดาผู้เกี่ยวข้องอย่างสิ้นสงสัย
หรือจะรอจนกว่าจะครบตามกำหนดขัง 22 กพ.2567 ที่อย่างไรเสีย คงได้พักโทษกลับไปอยู่บ้าน ขึ้นอยู่กับว่า “ทักษิณ” ในฐานะผู้ป่วยจะรอได้หรือไม่ เพื่อไม่ได้คำว่า ยุติธรรม 2 มาตรฐาน ตามติดตามตัวคล้ายดังเป็นเงา
อ่านข่าวอื่น ๆ
จับกระแสการเมือง 10 ม.ค.2567 : ชำระปมขัดแย้งดิจิทัลวอลเล็ต 2 สิงห์ “เศรษฐา-เศรษฐพุฒิ”
เป้านิ่ง ! สส.ลูกน้ำเค็ม “สุชาติ ชมกลิ่น” อดีต รมว.แรงงาน
ถอดรหัส “เศรษฐา” สู่คำขวัญวันเด็กปี 2567 สะท้อนตัวตน
