มองแลนด์บริดจ์ในมิติศูนย์กลางอาเซียน ติงก้าวไกลด่วนสรุปจนลาออก กมธ. – ไม่หวั่นใบแดง สส.นคร กระทบพรรค พร้อมสู้ในศาลฎีกา
อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) ของพรรคก้าวไกล ลาออกจากการเป็นกรรมาธิการ 4 คน ว่า เรื่องแลนด์บริดจ์ เรามองในมิติที่เป็นบวก เพราะไม่ใช่เรื่องของการคุ้มทุนหรือไม่คุ้มทุนจากการก่อสร้างโครงการ แต่เรามองไปถึงเศรษฐกิจในประเทศ การจ้างงาน การผลิตวัสดุต่างๆ ในประเทศ รวมถึงเรื่องของโอกาสต่างๆ เราต้องมองภาพรวมของประเทศในฐานศูนย์กลางภูมิภาคอาเซียน มันไม่ใช่แค่เชื่อมทะเลอันดามันกับอ่าวไทยเท่านั้น แต่เราสามารถใช้โครงการแลนด์บริดจ์กระจายสินค้าต่างๆ ไปยังทุกภูมิภาคของประเทศรวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อถามว่า มองการลาออกวันสุดท้ายในการลงมติเห็นชอบรายงานการส่งผลการศึกษาไปยังสภาฯ อย่างไร อนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละคน คนที่เข้าใจเขาก็จะต้องช่วยกันผลักดัน ตอนนี้ยังไม่มีตัวเลขออกมาชี้ชัดเลยว่าจะเป็นอย่างไรจะไปด่วนสรุปแบบนี้ไม่ได้ ความจริงการลาออกไปของพรรคก้าวไกล ก็ไม่ได้ทำให้ผลการพิจารณาล่ม มันก็เดินต่อไป ตนมองว่าแทนที่จะอยู่ช่วยกันอย่าไปเล่นอะไรที่เป็นเกมการเมืองไปหมด ถ้าทุกอย่างเป็นเกมการเมืองไปหมดประเทศมันไปไหนไม่ได้
ส่วนกรณีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (กกต.จังหวัด) นครศรีธรรมราช มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล สส.นครศรีธรรมราช พรรคภูมิใจไทย อนุทินกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว คงได้มีการพูดคุยรายละเอียดในการประชุมพรรคภูมิใจไทย วันที่ 16 ม.ค. แต่ตามขั้นตอนต้องผ่านการพิจารณาของศาลฎีกาก่อน ซึ่งเราก็ต้องดำเนินการตาม
เมื่อถามว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปต้องระวังมากขึ้นหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ระวังตลอด ตนเชื่อว่าไม่มีใครตั้งใจทำผิด คนเรากว่าจะมาเป็น สส.แทบตาย อาจจะไปพลาดตรงไหนสักอย่าง ถ้าพลาดแล้วแก้ต่างได้ ก็โอเค ถ้าแก้ต่างไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้
เมื่อถามว่า จะกระทบกับเสียงของภูมิใจไทยหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ไม่เป็นไร เรื่องนี้เราคงต้องเอาไปเป็นกรณีศึกษา เพราะผู้สมัครไม่ได้มีแค่ 70 คน มีตั้ง 300 กว่าคน ก็ต้องระมัดระวังกันให้มากๆ บางครั้งเจ้าตัวไม่ได้ทำผิดเพราะปกติจะมีทั้งผู้ช่วยหาเสียง อาจจะไปผิดตรงนั้น แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าตรงไหนเป็นความผิดพลาดของเรา
