‘วราวุธ’ รมว.พม. เผย ส่งนักสังคมสงเคราะห์เข้าร่วมขั้นตอนสืบสวน กรณี เยาวชน 5 คนรุมทำร้าย ‘ป้าบัวผัน’ จนเสียชีวิต ชี้ เร่งสร้างสายใยอบอุ่นในครอบครัว ป้องกันเหตุรุนแรงเกิดซ้ำ
วันที่ 16 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีเด็ก และเยาวชน 5 คนรุมทำร้าย ‘ป้าบัวผัน’ หญิงสติไม่ดีใน จ.สระแก้ว จนเสียชีวิต
วราวุธ กล่าวว่า ตามขั้นตอนประมวลวิอาญา ทางกระทรวง พม. ได้ส่งเจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์เข้าไปร่วมในขั้นตอนสืบสวนสอบสวน และพูดคุยกับตัวเด็กทั้ง 5 คน ขณะนี้จึงได้ดำเนินการตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ส่วนขั้นตอนการดำเนินคดี และแนวทางการดำเนินการปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการ
ขณะเดียวกัน กระทรวง พม. ก็จะไปร่วมในบริบทที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทางกระทรวงเข้าได้แค่ในส่วนการส่งนักสังคมสงเคราะห์เข้าไป ส่วนการดำเนินคดีแม้จะเป็นเยาวชนก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระบวนการยุติธรรมทางศาลต้องเป็นผู้ตัดสิน แต่ต้องไปพิจารณาดูว่าผู้ปกครองของเด็กมีส่วนร่วมอะไรหรือไม่ หากมีส่วนร่วมก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนเรื่องนี้จะกลายเป็นกรณีศึกษาหรือไม่ วราวุธ กล่าวว่าไม่ใช่แค่กรณีนี้ เพราะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รวมถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน สะท้อนให้เห็นว่า มีความรุนแรงเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากตัวเด็ก และเยาวชน หรือกรณีที่มีบุคคลใช้เด็กเป็นเครื่องมือ
ดังนั้นจะต้องพิจารณากันให้ดีว่าจะมีมาตรการป้องกันอย่างไร ตัวผู้ปกครองจะต้องเอาใจใส่บุตรหลานมากน้อยแค่ไหน การกระทำผิดควรจัดในสถานบันครอบครัวอย่างไร เพราะสถาบันครอบครัวถือเป็นฟางเส้นสุดท้าย ถ้าแตกไปก็จะมีปัญหา จึงต้องสร้างสายใยในครอบครัวให้เหนียวแน่นมากกว่านี้
วราวุธ ยังเชื่อว่าปี 2567 กรณีนี้จะไม่ใช่กรณีแรก พร้อมย้ำว่า ทุกฝ่ายต้องเร่งสร้างสังคมที่มีความอบอุ่น และใกล้กันมากขึ้น ซึ่งในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์จะมีการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองเด็ก และเยาวชน โดยจะหารือเรื่องนี้ในที่ประชุมว่า จะพิจารณาอย่างไรเพื่อให้ได้ผลที่เป็นรูปธรรม
จ่อนำร่อง 5 มหาวิทยาลัยจ้างงานคนพิการ
วราวุธ เปิดเผยถึงความร่วมมือกันระหว่างกระทรวง พม. กับกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ว่า 5 มหาวิทยาลัยเบื้องต้นที่ได้แจ้งไว้ในพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน ซึ่งไม่ได้เป็นการลงนามร่วมกันระหว่างทั้งสองกระทรวง เพราะตนได้ขอให้ปลัดกระทรวง พม. ไปติดต่อ 5 มหาวิทยาลัยเพื่อนำร่อง หากว่าเกิดผลสัมฤทธิ์ ใช้เงินจากกองทุนพัฒนาคนพิการได้แล้ว จากนั้นก็จะไปเจรจากับกระทรวง อว. เพื่อทำงานระดับกระทรวง ถ้าหากสำเร็จ คนพิการนับแสนคนก็จะมีการสร้างงานมากขึ้นในแต่ละปี สร้างศักยภาพให้กับคนพิการ ตลอดจนสร้างรายได้ให้กับคนในประเทศชาติ
อย่างไรก็ดีในเบื้องต้นจะเจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มคนพิการก่อน เพราะเงินที่ใช้ในการสนับสนุน เป็นเงินจากกองทุนพัฒนาคนพิการ ดังนั้น หากในอนาคต สามารถหาเงินมาสนับสนุนผู้สูงอายุได้ ก็จะขยายเป้าหมายไปยังผู้สูงอายุด้วย เพราะปัจจุบันผู้สูงอายุมีมากกว่าจำนวนวัยทำงาน
สำหรับการขยายพื้นที่จอดรถให้ผู้พิการ ผู้สูงอายุในพื้นที่ต่างๆ วราวุธ ระบุว่า เมื่อ 2 วันที่แล้วได้มีการพูดคุยกับภาคเอกชน ว่าจะนำเทคโนโลยีแอปพลิเคชั่นมาให้คนพิการใช้ลงทะเบียน เพื่ออำนวยความสะดวกในการจองที่จอดรถในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้คนปกติไปใช้อภิสิทธิ์ของคนพิการ โดยจะให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ไปพูดคุยเพื่อหาพื้นที่ทำน้ำร่องก่อน เนื่องจากต้องใช้ทั้งพื้นที่ภาครัฐ และภาคเอกชน