นายกฯ ตรวจราชการเชียงใหม่ ดันสร้างรายได้-ส่งออกผ่านการพัฒนาพันธุ์ไม้ดอก จ่อแถลงศูนย์กลางการบินภูมิภาค 1 มี.ค. นี้
วันที่ 20 ม.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เชียงใหม่ ซึ่งภารกิจแรกของนายกรัฐมนตรีในวันนี้คือ การเยี่ยมชมโครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอก ไม้ผลบ้านไร่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่
โดยจะมีการหารือประเด็นการส่งเสริมการเกษตรสมัยใหม่และการใช้ทคโนโลยีในการเพาะปลูกพันธุ์ไม้ดอก ไม้ผล ณ โครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอก ไม้ผล บ้านไร่ รวมถึงการฟังสถานการณ์ตลาดไม้ดอก ไม้ผล ในตลาดโลก ศักยภาพในการแข่งขันของตลาดไม้ดอกไม้ผลของประเทศไทย และฐานการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพันธุ์พืช และการต่อยอดในเชิงธุรกิจ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวหลังฟังบรรยายสรุปการดำเนินการของโครงการ ซึ่งส่วนตัวเห็นถึงความตั้งใจของกลุ่มอาจารย์และผู้พัฒนาสายพันธุ์ดอกไม้ที่สวยงามของประเทศไทย โดยสิ่งสำคัญก็คือการต้องหาขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมในการสร้างรายได้ โดยยกตัวอย่างประเทศเนเธอร์แลนด์ที่มีพันธุ์ไม้ดอกที่อาจจะค่อนข้างน้อย หลายคนก็รู้จักแต่ดอกไม้ทิวลิป ซึ่งดอกไม้ดังกล่าวได้ส่งออกทั่วโลก ดังนั้นเราก็จำเป็นที่จะต้องพัฒนาในเรื่องของการส่งออกให้มากขึ้น
สำหรับในแง่การตลาด ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจตรงนี้ต้องเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่การนำเสนอขายดอกไม้เป็นเรื่องการนำเสนอต้องดูแล้วตื่นเต้น ตนมองจากมุมมองนักธุรกิจต้องดูโครงสร้างด้านพาณิชยการ ทางด้านการบิน เป็นเรื่องสำคัญ การจะอัพเกรดของที่ดีในประเทศไทยถือเป็นวาระแห่งชาติ และในวันที่ 1 เดือนมีนาคม 2567 จะประกาศครั้งใหญ่ศูนย์กลางการบินของภูมิภาค
ส่วนเรื่องของงบประมาณรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ ถ้าพูดตรงๆจะเอาเงินของรัฐบาล ตนมีหน้าที่ดูแล ดังนั้น KPI เป็นเรื่องสำคัญ ขอนำเสนอมิติใหม่ โดยอยากให้สำนักนายกรัฐมนตรีมาทำงานร่วม เพื่อให้รู้ว่าลงทุนไปแล้วจะได้อะไรบ้าง อยากให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมด้วย เชื่อว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ ในหลายๆเรื่อง ที่เราจะพัฒนากันต่อไป ขอบคุณกลุ่มรวมมิตรทุกท่านที่มา แต่สำคัญที่สุดของท่านคือเวลา การที่สละเวลามาวันนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญของประเทศชาติ โดยเฉพาะโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ วันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีก็ได้เยี่ยมชมโครงการต่างๆซึ่งมีทั้งพันธุ์ไม้สวยงามรวมถือไม้ผลที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยได้ ซึ่งศูนย์ดังกล่าวนั้นมีพื้นที่ดำเนินการทั้งหมด 2 แห่ง คือ สถานีวิจัยและฝึกอบรมบ้านไร่ อำเภอหางดง ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 33 ไร่ โดยจำนวน 18 ไร่เป็นพื้นที่ในพระปรมาภิไธย และอีกประมาณ 15 ไร่เป็นของมูลนิธิชัยพัฒนา สำหรับแผงที่ 2 คือพื้นที่หน่วยฝึกอบรม ยางคราม อำเภอดอยหล่อ ซึ่งมีพื้นที่จำนวน 90 ไร่เป็นพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จาก สปก. เพื่อดำเนินงานด้านการพัฒนาพันธุ์พืชควบคู่ไปกับงานศึกษาทดลองและวิจัยด้านสรีรวิทยาการผลิต