หน้าแรก Voice TV 'ปานปรีย์' เตรียมบินหลวงพระบาง แลกเปลี่ยนมุมมองสถานการณ์ในอาเซียน

'ปานปรีย์' เตรียมบินหลวงพระบาง แลกเปลี่ยนมุมมองสถานการณ์ในอาเซียน

40
0
'ปานปรีย์'-เตรียมบินหลวงพระบาง-แลกเปลี่ยนมุมมองสถานการณ์ในอาเซียน

รมว.ต่างประเทศ บิน สปป.ลาว ร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ‘อาเซียน’ จับตาถกทางออกสถานการณ์สู้รบ ‘เมียนมา’ ด้านโฆษก กต. ยัน อาเซียนหาทางออกร่วมกัน แม้ยึดหลักไม่แทรกแซงกิจการภายใน

วันที่ 26 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดเดินทางไปยังเมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN Foreign Ministers’ Retreat: AMM Retreat) ตามคำเชิญของ ‘สะเหลิมไซ กมมะสิด’ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 28-29 ม.ค. 

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม AMM Retreat เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งแรกของปี ภายหลังที่ สปป.ลาว เข้ารับหน้าที่ประธานอาเซียนปี 2567 ต่อจากประเทศอินโดนีเซีย เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการดำเนินการของอาเซียนตลอดปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ASEAN: Enhancing Connectivity and Resilience” และติดตามผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 43 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี 2566 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศในกลุ่มอาเซียนจะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ และในภูมิภาคที่มีผลกระทบต่ออาเซียน เช่น สถานการณ์การสู้รบในเมียนมา เพื่อส่งเสริมความเป็นเอกภาพ และความเป็นแกนกลางของอาเซียน ซึ่งจำเป็นในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ ร่วมกันต่อไป  

อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนต่างจับตาถึงประเด็นสถานการณ์การสู้รบในประเทศเมียนมา ซึ่ง กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางการไทยอาจจะมีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาหารือ ภายหลังได้เริ่มมีการพูดคุยเกี่ยวกับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับรัฐบาลเมียนมา ขณะที่หลักการ Non-Interference หรือหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกันต่างถูกตั้งคำถามถึงช่องว่างของสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในสถานการณ์ความรุนแรงดังกล่าว 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หลักการดังกล่าวเป็นที่ถกเถียงกันว่า เป็นตัวช่วย หรือเป็นปัญหา โดยภาคราชการอาจมองว่า เป็นตัวช่วย ทำให้ในหมู่ประชาคมอาเซียนไม่มีความขัดแย้งใหญ่จนส่งผลกระทบระดับใหญ่ หากเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ เพราะอาเซียนมีสันติภาพ เสถียรภาพ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งภูมิภาคอื่นๆ ในโลกยังมองมาที่อาเซียนในพื้นที่ที่ถือเป็นโอกาสของเศรษฐกิจ 

กาญจนา กล่าวเสริมว่า การที่ไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการตามหลักการไม่ได้หมายความว่า เราไม่ทำงาน แต่เมื่อเกิดปัญหาในประเทศสมาชิกก็จะมีประเทศอื่นๆ เข้ามาประคับประครองสถานการณ์ คุยกับผู้นำในด้านต่างๆ ของประเทศนั้นๆ เพื่อพยายามแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งยึดถือ ฉันทามติ 5 ข้อ ที่เป็นความพยายามของรัฐบาลนี้ เพื่อที่จะให้เกิดผลลัพธ์ทางการเมือง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่