ร้อนไปทั่วโซเชียลตั้งแต่เมื่อคืน จนมาถึงเช้าวันนี้ เมื่อ “อุ้ง” กมลนาถ องค์วรรณดี ประกาศยุติการทำงานในตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการฯ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ ด้านแฟชั่น พร้อมลาออกยกทีม 24 คน โดยให้เหตุผลว่า “งานต่อไปเกินความสามารถที่จะบริหารจัดการเวลา“
อ่านข่าว : ลาออกยกทีม คณะอนุกรรมการฯ ซอฟต์พาวเวอร์ด้านแฟชั่น
เมื่อก่อนหน้านี้ “กมลนาถ” เคยโพสต์ข้อความเอาไว้เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า คณะอนุกรรมการสาขาแฟชั่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับไอเดีย Guinness รวมไม่สามารถห้ามได้ และไมได้รับการปรึกษา พร้อมทิ้งท้ายว่า ฝากทุกหน่วยงาน ให้ปรึกษากรรมการยุทธศาสตร์ และคิดให้รอบด้าน ก่อนจะดำเนินการอะไร เพราะคือเงินภาษีประชาชน
แต่หลังปรากฎหนังสือลาออกดังกล่าว “อุ๊งอิ๊ง” แพรทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานยุทธศาสตร์คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ก็โพสต์ X ขอบคุณคณะอนุกรรมการฯ ที่ร่วมทำงานวางรากฐานมาตั้งแต่ขั้นแรก และเข้าใจถึงข้อจำกัดด้านเวลา และเตรียมตั้งคณะอนุฯชุดใหม่ ในวันที่ 9 ก.พ.นี้
ขณะที่ “หมอเลี๊ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในฐานะ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ก็โพสต์ผ่าน X เช่นกันว่า รับทราบถึงปัญหาด้านเวลานี้มาแล้วตั้งแต่เมื่อเดือน ธ.ค.66 และได้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญในวงการแฟชั่น เข้ามารับไม้สานต่อภารกิจอันหนักหน่วงนี้ต่อแล้ว
อ่านข่าว : “ภูมิธรรม” บินลัดฟ้าลงนาม FTA ไทย – ศรีลังกา ดันการค้า 2 ฝ่าย
จนข้ามคืนสู่วันใหม่ เช้านี้ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกฯที่เพิ่งจะหายจากอาการป่วยไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A ก็ออกมาเบรกประเด็นการ “ลาออกยกชุด” ของคณะอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ด้านแฟชั่นทันที พร้อมขออย่า “ดราม่า” เลย
ไม่มีอะไรหรอกครับอย่าไปดราม่าเลย ไม่มีอะไรหรอก ก็หาบุคคลที่เหมาะสมเข้ามา ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะแต่ละคนที่เข้ามาทำงาน ก็ไม่ได้ เงินเดือน ทั้งนี้ ผมไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง ซึ่งแต่ละคนอาจจะรู้ว่า งานมันโหลดเยอะ มากเกินไปก็อาจจะไม่ไหว และกลัวว่าคณะกรรมการจะเสียหายมั้ง ก็ฟังตามที่ท่านพูดก็แล้วกัน ไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้ก็ขับเคลื่อนเต็มที่
จากนั้น พรุ่งนี้ “นายกฯนิด” จะบินลัดฟ้าไป “ศรีลังกา” ลงนาม FTA ไทย – ศรีลังกา ณ กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา 3 – 4 ก.พ.นี้ พร้อมหนีบ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ไปเจรจาการค้าด้วย หลังเมื่อเดือน ธ.ค.66 ได้พูดคุยเจรจากับทางการศรีลังกาไปเรียบร้อยแล้ว จะไปลงนามให้เรียบร้อย ตามนโยบาย Quick Win ที่ต้องทำให้ สำเร็จภายใน 99 วันเเรกของรัฐบาล และถือว่า เป็นความตกลง FTA ไทย – ศรีลังกา เป็นความตกลงการค้าเสรีทวิภาคีฉบับแรกของรัฐบาลชุดนี้ด้วย
ฟาก ฝ่ายนิติบัญญัติ อีกประเด็นนอกเหนือจากลดการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เหลือ 2 รอบที่ ที่ “เพื่อไทย” และ “ก้าวไกล” ในฐานอดีต “ข้าวต้มมัด” เห็นสอดคล้อง และเดินหน้าไปได้ด้วยดี
การออกกฎหมายนิรโทษกรรม โดยที่ประชุมสภาเห็นชอบ ตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาออกกฎหมายนิรโทษกรรม พิจารณาภายใน 60 วัน โดย “หัวหน้าต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ออกความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า
อ่านข่าว : สภาฯ เห็นชอบตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษา กม.นิรโทษกรรม
การนิรโทษกรรมครั้งนี้จะต้องระมัดระวัง ไม่สร้างให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหม่เพื่อให้เป็น”ประตูบานแรก” ในการเปลี่ยนการเมืองที่เกิดจากความเคียดแค้น ชิงชัง ไม่เข้าใจกัน แล้วนิรโทษกรรมคู่ขัดแย้งทั้งหมด เป็นจุดเริ่มต้นสร้างการเมืองแห่งความรักและความปรารถนาดีร่วมกัน เพื่อให้มีระบบการเมืองและระเบียบสังคมที่อยู่ร่วมกันได้ แม้จะไม่เห็นตรงกันทุกเรื่องก็ตาม
หวังว่าท่ามกลางพื้นที่รัฐสภาที่จำกัดลงเรื่อย ๆ พวกเราจะร่วมมือกันถอดหัวโขนทางการเมืองออก หันหน้าพูดคุยกัน หาทางออกเรื่องนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง
กมธ.นิรโทษกรรมประกอบไปด้วย นักการเมืองจากหลายพรรค นักวิชาการ และองค์กรเคลื่อนไหวทางสังคม ทั้ง นายชัยธวัช ตุลาธน, รศ.ยุทธพร อิสระชัย, นายสมคิด เชื้อคง, นายวุฒิสาร ตันไชย, นายเจือ ราชสีห์, นายรังสิมันต์ โรม, นางอังคนา นีละไพจิตร, นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายนพดล ปัทมะ, นายเอกชัย ไชยนุวัฒน์, นายไพบูลย์ นิติตะวัน, นายชัยชนะ เดชเดโช รวมถึง นายนิกร จำนง
ขณะที่ “อาฟเตอร์ ช็อก” หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ พรรคก้าวไกล ใช้นโยบายหาเสียง แก้ ม.112 นั้นเข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง ยังไม่จบง่าย ๆ
อ่านข่าว : “เรืองไกร” ยื่น กกต.ยุบ “ก้าวไกล” หลังศร.ชี้ใช้แก้ ม. 112 หาเสียงเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
หลังจากไม่ทันครบ 24 ชม. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ก็พาเหรดไปยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ยุบพรรคก้าวไกลเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากมองว่ากระทำผิด พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.92 วงเล็บ 1 และวงเล็บ 2
อีกคนที่ไม่ยอมตกขบวน “พี่เต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตหน้าหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ก็ไปยื่นหนังสือถึง “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.เพื่อเอาผิด “พิธา” กรณีการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง อาจเป็นการกระทำเข้าข่ายฐานความผิดข้อหาเป็นกบฏ ตาม.ป.อาญา ม.113(1)
อ่านข่าว : “ธีรยุทธ-สนธิญา” ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด 44 สส.ก้าวไกล ลงชื่่อแก้ ม.112
ถัดมาวันนี้ ก็ถึงคิวของ “สนธิญา สวัสดี” อดีตที่ปรึกษา คณะกรรมาธิการการกฎหมาย สภาฯ ก็ได้ยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรม สส.44 คน ของพรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา ม.112 เมื่อเดือน มี.ค.64
การยื่นร้องจริยธรรมในวันนี้ คิดว่า มีโอกาส 50:50 แต่ถ้าหลังจากนี้ยังมีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามคำสั่งศาล คิดว่ามีโอกาสตัดสิทธิ์ทางการเมือง เพราะตนมีเป้าหมายให้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต
ทั้งนี้ เมื่อกางรายชื่อ 44 สส.ก็จะพบว่า บรรดาดาวเด่นของ พรรคก้าวไกล จะเหลือเพียงไม่กี่คนทั้ง “หัวหน้าต๋อม” ชัยธวัช และ “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ ขณะตัวตึงคนอื่น ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็น “ทิม พิธา” หรือ “รองอ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา, วิโรจน์ ลักขณาอดิสร , รังสิมันต์ โรม, ศิริกัญญา ตันสกุล ก็อาจถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง หากผลออกมาทางลบ
อ่านข่าว : เปิดชื่อ 44 สส.พรรคก้าวไกล ลงชื่อเสนอแก้ มาตรา 112
แม้จะมีอีก 2 ด่านที่ต้องลุ้นระทึกในอนาคตทั้ง “คดียุบพรรค” และ การตัดสิทธิ์ 44 สส. แต่ก็แฟนคลับก็อย่าเพิ่งถอดใจไป
เมื่อพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) “หัวหน้าต๋อม” ชัยธวัช ยังคงเชิดหน้าแอ่นอกสู้ต่อ โดยยกทัพ “ก้าวไกล” ไปเมืองคอน เพื่อเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม เขต 8 นครศรีธรรมราช แทน “มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล” อดีต สส.ภูมิใจไทย เจ้าของพื้นที่เดิมที่ถูกใบแดง จากกรณีซื้อเสียง หวังปักธงสีส้ม พร้อมชนกับทุกพรรค ก็ยังแสดงให้เห็นว่า แม้มรสุมจะซัดกระหน่ำเข้ามาหลายลูก แต่ “ก้าวไกล” ก็ยังพร้อมสู้เสมอ…
อ่านข่าวอื่น ๆ
ปภส. ยื่นผู้ตรวจการฯ ฟัน “ธนาธร” นั่ง กมธ.ถ่ายโอนธุรกิจกองทัพ ส่อขัด รธน.