วันนี้ (3 ก.พ.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อมคณะเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติบันดารานายาเก กรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ในโอกาสเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ระหว่างวันที่ 3 – 4 ก.พ. 2567 ตามคำเชิญของนายรานิล วิกรมสิงเห ประธานาธิบดีศรีลังกา และหลังการประชุมจะเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงการค้าเสรีไทย-ศรีลังกา พร้อมแถลงความสัมพันธ์และความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศ
ก่อนเดินทางไปเยือนประเทศศรีลังกา นายกรัฐมนตรี กำชับและสั่งการไว้ 2 เรื่องหลัก คือการจัดการและปราบปรามขบวนการตบทรัพย์ข้าราชการ โดยเฉพาะกลุ่มที่โยงถึงนักการเมือง และความคืบหน้าในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ด้วยระหว่างจะรอข้อเสนอแนะจาก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องมีวิธีการอื่นรองรับหรือไม่ ซึ่งต้นสัปดาห์หน้า จะได้ประชุมร่วมกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าโครงดิจิทัลวอลเล็ต ว่า จะมีการพูดคุยกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ซึ่งต้องยอมรับว่าจะต้องรอคำเสนอแนะจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งก็รอมานานแล้ว ตนคิดว่า ต้องมีวิธีการอื่นรองรับ เพราะคำเสนอแนะยังไม่มาสักทีประชาชนเขาคอยไม่ได้
เมื่อถามว่าทาง ป.ป.ช.รอการดำเนินการความชัดเจนจากรัฐบาล และรัฐบาลก็รอขอเสนอแนะจาก ป.ป.ช. จะทำให้ไทม์ไลน์ขยับไปมากหรือไม่นั้น ตนไม่ค่อยแน่ใจว่า ป.ป.ช.รอรัฐบาลเรื่องอะไร จึงต้องขอสอบถามก่อนดีกว่า อย่าให้พูดไปโดยไม่มีข้อมูล ขอเป็นต้นสัปดาห์หน้า
สั่งฝ่ายปราบปรามจัดการ “ขบวนการตบทรัพย์”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีขบวนการตบทรัพย์ข้าราชการที่โยงถึงนักการเมือง ว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลนี้ เราไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เลย และมีการพูดคุยกับทุกคนแล้วว่าเรื่องนี้เรารับไม่ได้ ฝ่ายปราบปรามก็ต้องจัดการกับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
ผู้นำกัมพูชา เยือนไทย 7 ก.พ.ถกปมเผา-ฝุ่น
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่า ได้ต่อสายโทรศัพท์พูดคุยเบื้องต้น ก่อนเปิดหารือเร่งรัดการแก้ปัญหาการเผาไหม้ในเขตพื้นที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบเรื่องฝุ่น PM 2.5 มายังไทย ร่วมกันอีกครั้ง ระหว่าง พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เยือนไทยในวันที่ 7 ก.พ.นี้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ กรุงเทพฯ ที่ กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น ว่า ในวันอังคาร จะมีหลายเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับเรื่องมาตราการที่ต้องใช้เป็น Negative และ incentive ที่หากใครไม่ปฏิบัติตามก็จะมีบทลงโทษ สินค้าต่างๆ หากพิสูจน์ทราบได้ว่ามีการเผาเกิดขึ้น ก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือทางการเกษตร ซึ่งเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ก็ขอให้รอฟัง
ในขณะเดียวภาคอุตสาหกรรมทุกคนให้ร่วมมืออย่างเต็มที่ แต่ปัญหาดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับปัญหาทางธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่ก็เป็นปัญหาที่สืบเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจ เพราะเกษตรกรก็จะมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น ถ้าเกิดไม่เผาไม้ขีดก้านเดียวมันง่ายที่จะขจัดซากวัชพืช
เรื่องนี้เราให้องค์ความรู้แก่เกษตรกรไปแล้วว่าในสิ่งที่เขาทำนั้น ไม่ถูก แต่ว่าหากไม่มีการช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะหลัง ที่ตนขอความช่วยเหลือจากกองทัพ ในการช่วยลำเลียงซากวัชพืชออกมา หรือการทำไบโอดีเซล หรือการทำถ่านไร้ควัน และการทำปุ๋ย
คืบหน้า “ฟรีวีซา” กลุ่มประเทศ CLMV - มาเลเซีย
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา อยู่ระหว่างการสานต่อเรื่องฟรีวีซ่ากลุ่มประเทศ CLMV คือ “กัมพูชา ลาวเมียนมา เวียดนาม และมาเลเซีย” ด้วยหวังจะอำนวยความสะดวกและดึงนักท่องเที่ยว แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่า แต่ละประเทศมีขีดจำกัดแตกต่างกัน จึงเป็นเรื่องที่ต้องเจรจาคู่ขนานกับระดับผู้นำด้วย
อ่านข่าวอื่น ๆ
เชิดชูเกียรติทหารกล้า 3 กุมภาพันธ์ “วันทหารผ่านศึก”