วันนี้ (14 ก.พ.2567) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เกิดเหตุปะทะคารมระหว่างที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายพร้อมนำภาพประกอบการอภิปรายฯ ขึ้นสไลด์เป็นภาพแกนนำกลุ่มอาชีวะราชภักดี ถ่ายภาพคู่กับ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พร้อมข้อความที่มีการเซ็นเซอร์บางส่วน ก่อนอภิปรายฯ อ้างถึงสัญญาณความหวาดกลัว ทั้งที่ต้องห้ามปรามไม่ให้คนฆ่าฟันกัน จึงต้องดึงสติอย่าให้เขาหาว่ารัฐบาลอยู่เบื้องหลังความขัดแย้ง
สังคมไม่รู้สึกปลอดภัย รัฐจะสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยได้อย่างไร ในเมื่อสุดท้ายผีที่สร้างขึ้นมามันมาจากพวกท่านเอง หากยังปล่อยให้สถานการณ์บานไปเรื่อย ๆ หากไม่มีการดึงสติแล้วคำขู่เกิดขึ้นจริงใครจะรับผิดชอบ และสุดท้ายผู้ที่ใช้ความรุนแรง แล้วไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ควรจะหาว่ารัฐบาล เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้ ขออย่าให้ไปถึงจุดนั้นเลย
ทำให้นายชาดา ต้องลุกขึ้นตอบโต้ก่อนอ้างอิงถึงผู้อภิปรายฯ ส่อให้เกิดเจตนารมณ์ที่ไม่ดี ซึ่งการอภิปรายของตนเองครั้งล่าสุด เกิดขึ้นในวันเลือกนายกรัฐมนตรีและมีประชาชนขอถ่ายรูปกับตนเป็นล้านคน และการที่ตนเองจะร่วมกิจกรรมที่ดีงามไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิด ซึ่งผู้ที่อภิปรายส่อเจตนาไม่ดี สร้างความแตกแยก และกำลังจะนำตนไปสู่ในสิ่งที่ได้ถูกต้อง สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน ซึ่งวันนี้ส่วนตัวไม่คิดจะอภิปราย แต่ตนเสียหาย
พร้อมระบุว่า มีขบวนการในประเทศ ต้องการจะล้มล้างบั่นทอน ก่อนย้ำว่า อย่ามาขัดแย้งและทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือ มาเล่นใต้ดินกับตัวเอง พร้อมขอให้ประธานในที่ประชุมตรวจสอบการปล่อยภาพดังกล่าวขึ้นมา
ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ที่ทำหน้าที่ในการประชุม ชี้แจงว่า ภาพที่นำมาเสนอ ส่วนตัวไม่ได้ดูหากเกิดมีการพาดพิง คุณจะหาคำตอบในเรื่องนี้ว่าอนุญาตได้อย่างไร พร้อมขอนายรังสิมันต์ โรม อย่าตอบโต้ และให้โอกาสนายชาดา ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เป็นตามที่มีการนำเสนอ และอยากให้การประชุมนี้เป็นการแก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์ อย่าคิดว่าเป็นฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมาตอบโต้กันไปมา เพราะจะทำให้ขยายความขัดแย้งไปมากขึ้น พร้อมขอคำขอความร่วมมือสมาชิกอภิปรายอย่างสร้างสรรค์และตรงประเด็น ให้มีแนวทางที่รอบคอบกว่านี้
ด้านนายรังสิมันต์ โรม ชี้แจงว่า ภาพที่นำเสนอนั้นได้มีการยื่นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างถูกต้องและเข้าใจว่าจะมีการพิจารณาตามระบบซึ่งเป็นอำนาจของประธานเป็นผู้พิจารณาคนสุดท้าย ซึ่งโดยทั่วไปการขึ้นรูปรัฐมนตรีสามารถทำได้อยู่แล้ว รออยู่ในที่ประชุม พร้อมยังขอให้นายชาดา ใจเย็น ๆ เพราะการขึ้นรูปไม่ได้ปรักปรำว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหรือปรักปรำนายชาดา
ทำให้นายชาดา โต้กลับในทันทีว่า ไม่ได้ปรักปรำเพิ่มเติมหมายความว่าปรักปรำมาก่อนแล้วใช่หรือไม่ แต่นายรังสิมันต์ โรม พยายามชี้แจงว่า ข้อความที่ขึ้นในรูปไม่ได้เป็นประโยคของนายชาดา แต่เป็นข้อความของผู้ที่ก่อความรุนแรง แล้วเขาอาจจะคิดด้วยซ้ำว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง แต่ความเป็นจริงอาจจะไม่มีใครอยู่เบื้องหลังก็ได้
กรณีแบบนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีว่านักการเมืองอย่างเรา ๆ ถูกโยงไปยังกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ตลอดเวลา ทั้งที่การกระทำอาจไม่ถึงขนาดนั้น จึงอยากให้มีสติ เพราะหลายคนเข้ามาเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว มีสติเป็นหลัก เป็นฐานให้กับบ้านเมือง
อ่านข่าว :
เปิดช่องเพิ่มโทษ กม.”ถวายความปลอดภัย” ปรามกลุ่มจาบจ้วงสถาบันฯ
พลิกที่มากฎหมาย พระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย 2560
คู่รัก LGBTQ+ ถือฤกษ์ดี วันแห่งความรัก จูงมือ “จดแจ้งคู่รัก” เขตบางรัก