หน้าแรก Thai PBS นายกฯ ใช้ “เชียงใหม่โมเดล” เร่งแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5

นายกฯ ใช้ “เชียงใหม่โมเดล” เร่งแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5

86
0
นายกฯ-ใช้-“เชียงใหม่โมเดล”-เร่งแก้ปัญหาฝุ่น-pm2.5

เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปติดตามสถานการณ์ฝุ่นด้วยตัวเองที่กรมควบคุมมลพิษ แม้ไม่ได้พบกับเจ้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ติดภารกิจเดินทางไปต่างจังหวัด แต่ก็มีปลัดกระทรวง และผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ คอยให้ข้อมูล

นายกฯ ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ฝุ่นวิกฤตในระยะนี้ ไม่ได้มีปัจจัยจากอากาศปิดเพียงอย่างเดียว แต่ที่ต้องเร่งแก้ไข คือ จุดความร้อน และอยากให้เร่งดำเนินการจัดระบบการแจ้งเตือนประชาชนให้ครอบคลุมให้ยึด จ.เชียงใหม่ เป็นโมเดลแก้ปัญหา รวมถึงการประสานงานกับประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันร่วม

ขณะเดียวกันจะนำโมเดลการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มาปรับใช้กับในทุกจังหวัดต่อไปช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายกฯ เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างการหารือได้กำชับขอให้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ให้มากขึ้น และย้ำว่าจุดไหน ที่พบจุดความร้อนผิดปกติ ต้องสั่งการแก้ปัญหาทันที

ต้องมือเปื้อนดิน เท้าเปื้อนโคลนบ้าง

ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น กทม. ได้ขอความร่วมมือให้ประชาชน work from home ซึ่งร้อยละ 25 ของปัญหาฝุ่น PM2.5 มาจากไอเสียรถยนต์ จึงต้องไปควบคุมที่ต้นเหตุ รวมทั้งการเผาวัชพืชที่มาจากจังหวัดต่างๆ ส่วนในระยะยาวจะต้องมีการหารือกันต่อไป ทั้งการจำกัดรถยนต์ที่มีไอเสีย มาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า

ขณะที่ ทส. ก็ขานรับนโยบาย โดยออกประกาศให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน แบบ work from home ร้อยละ 25 กรณีฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ รวมทั้งเพิ่มรายละเอียดและผู้ประสานงาน ในแผนภาพแสดงจุดความร้อนสถานการณ์ภาพรวมทั่วประเทศ เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที

ภาพประกอบข่าว : work from home

ภาพประกอบข่าว : work from home

หลังการประชุมมีการรับลูกทันที จาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่ลงพื้นที่ จ.เชียงรายไปเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เพื่อประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ และทำความเข้าใจกับประชาชนขอความร่วมมือหยุดเผา

อ่าน : “เศรษฐา” ย่องเงียบตรวจแถวทส.คุมฝุ่น PM2.5

“เชียงใหม่” ประกาศปิดป่าเพิ่มกำลังลาดตระเวน

สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ หลายจังหวัดเริ่มมาตรการ “ห้ามเผา” เจ้าหน้าที่เข้มงวดกับการตรวจสอบจุดที่เกิดไฟป่าบ่อยครั้ง บางพื้นที่ อย่างบริเวณเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ไม่มีถนนเข้าถึงเจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือออกลาดตระเวน

ปีที่ผ่านมาอุทยานฯ แห่งนี้ เกิดไฟป่ากว่า 200 จุด ผืนป่าเสียหายกว่า 1,000 ไร่ ปีนี้จึงวางมาตรการทำแนวกันไฟ ลาดตระเวนทั้งภาคพื้นดิน และทางเรือ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และมีการประกาศปิดป่าตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.-30 เม.ย.

ภาพประกอบข่าว : ไฟไหม้ป่า

ภาพประกอบข่าว : ไฟไหม้ป่า

นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ระบุว่า มีการวางกลยุทธ์เชิงรุกสู้ไฟป่า คือ การชิงเผาตามหลักวิชาการในพื้นที่เสี่ยง จัดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน และพร้อมดับไฟหากเกิดไฟไหม้ป่า ตั้งจุดสกัดคนเข้าป่า ดูแลพื้นที่ป่ากว่า 7,800,000 ไร่ หากประชาชนที่มีความประสงค์เข้าพื้นที่ป่า ต้องได้รับอนุญาตเท่านั้น

นอกจากเชียงใหม่ วันนี้เป็นวันแรกของการประกาศห้ามเผาในที่โล่ง ของจังหวัดภาคเหนือตอนบน ที่ห้ามเผารวม 76 วัน เพื่อร่วมกันสนับสนุนการจัดทำแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ในเขตพื้นที่รอยต่อกลุ่มจังหวัด ให้บริหารจัดการไฟป่า ฝุ่นควัน มีประสิทธิภาพ

อ่าน : สภาพอากาศวันนี้ ค่าฝุ่นยังสูงทั่วประเทศ กลางวันร้อนสูงสุด 38 องศาฯ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่