วันนี้ (16 ก.พ.2566) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.กล่าวถึงรายงานข้อเสนอแนะการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการดำเนินโครงการของรัฐบาลเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่ข้อเสนอแนะให้ กกต.ศึกษาตรวจสอบนโยบายหาเสียงที่พรรคการเมืองแจ้งว่า เป็นอำนาจตามกฎหมาย พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.57 กำหนดไว้ หากพรรคจะหาเสียง นโยบายที่ต้องใช้เงินให้ส่งเอกสารต่อ กกต.โดยแสดงที่มาของเงินและวงเงิน ประโยชน์ ความคุ้มค่า ความเสี่ยง ผลกระทบ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กกต.
ต้องดูว่าพรรคการเมืองที่ลงเลือกตั้งมีการส่งเอกสารครบถ้วนหรือไม่ หากไม่ครบถ้วนสามารถเรียกเพิ่มได้หรือส่งช้าก็มีการปรับได้ แต่กฎหมายไม่ได้บอกว่า จะต้องไปดูว่านโยบายที่เสนอมาถูกต้องหรือสร้างความเสียหายหรือไม่ นั้นไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กกต.
นายอิทธิพร มองว่า ยังไม่ได้ข้อยุติในการดำเนินการของรัฐบาลเรื่องเกี่ยวกับการเสนอนโยบายกับ กกต.และที่ดำเนินการจริงของรัฐบาลไม่สอดคล้องตรงกัน ซึ่งหากมีข้อเท็จจริงปรากฏก็อาจจะเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่จะพิจารณาได้ เมื่อมีผู้ร้องหรือความปรากฏก็สามารถดำเนินการได้
ประธาน กกต.ยังแสดงความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง สว.ที่ชุดปัจจุบันจะครบวาระในวันที่ 11 พ.ค.นี้ ซึ่งของบประมาณไปแล้วประมาณ 1,800 ล้านบาท และสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประชุมเตรียมความพร้อมกับผู้อำนวยการ การเลือกตั้งเลือกประจำจังหวัด และมีการออกระเบียบมารองรับแล้ว พร้อมกับขอให้ทุกภาคส่วนศึกษาระเบียบกฎหมายเตรียมการให้พร้อมเนื่องจากจะต้องประสานกับหลายหน่วยงาน
พร้อมกับยืนยันว่า การพิจารณาคำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรมีความคืบหน้าหลังจากที่มีสำนวนคำร้องมา 373 เรื่องล่าสุดเหลือเพียง 35 เรื่อง โดยมั่นใจว่าช่วง 3 เดือนก่อนที่จะครบ 1 ปี การเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 จะสามารถพิจารณาดำเนินการได้ทันกรอบที่กฎหมายกำหนด
ขณะนี้เหลือเพียง 35 เรื่องตามระเบียบจะต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ยังมีเวลาอีก 3 เดือนจะพยายามทำให้เสร็จภายใน 1ปี ตอนนี้เริ่มตรวจสอบคำวินิจฉัยที่ออกมาแล้วกรณีการเลือกตั้ง สส.สามารถตรวจสอบได้ที่แอปพลิเคชันสมาร์ตโหวต ไม่ช้า ไม่ค้างครับ