วันนี้ (19 ก.พ.2567) พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง ป.ป.ช.ได้พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนส่งให้ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติจะให้ความเห็นชอบหรือไม่
โดยเป็นการประชุมลับใช้เวลานาน เกือบ 4 ชั่วโมง ที่ประชุมถกเถียงปัญหาขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ได้รับการสรรหาเป็น ป.ป.ช.ของ พล.ต.ท.ธิติ อย่างเข้มข้น เพราะมาตรา 9 วรรค 2 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ระบุว่า ต้องรับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าไม่น้อยกว่า 5 ปี
แต่ตำแหน่ง ผบช.น.ที่ พล.ต.ท. ธิติ ดำรงตำแหน่งนั้น สว.หลายคนเห็นว่า ไม่สามารถเทียบเท่าได้กับตำแหน่งอธิบดี แม้จะอ้าง พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ.2562 และระเบียบคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่า ด้วยหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ.2563 ให้ตำแหน่ง ผบช.น. สามารถเทียบเท่าอธิบดีได้นั้น แต่ สว.หลายคนเห็นว่า พ.ร.บ.และระเบียบ ก.ตร.ดังกล่าวใช้บังคับแค่หน่วยงานตำรวจหรือทหาร ไม่ครอบคลุมถึงองค์กรอิสระ
หลังเสร็จสิ้นการประชุมลับและลงคะแนนลับ นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม แจงผลการลงคะแนนว่า ที่ประชุมลงมติไม่เห็นชอบ พล.ต.ท.ธิติ ดำรงตำแหน่ง ป.ป.ช.ด้วยคะแนน 88 เสียง ไม่ให้ความเห็นชอบ 80 เสียง ไม่ออกเสียง 30 เสียง ถือว่า พล.ต.ท.ฐิติ ไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา เพราะได้คะแนนเสียงเห็นชอบน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สว.ที่มีอยู่หรือ 125 เสียง
อ่านข่าวอื่น ๆ
ข่าวลือหรือโยนหินถามทาง ปรับ ครม. “ประวิตร” นั่งแทน “พัชรวาท”
ห้องสอบสวนเด็ก เมื่อกระบวนการยุติธรรมต้องการ “ข้อเท็จจริงจากเด็ก” มากกว่าการตีตรา