ความเคลื่อนไหวของวงการฝั่งสีกากี กลับมาระอุอีกรอบจากคดีเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ ทำเอากรมปทุมวันสั่นสะเทือนราวกับเจออาฟเตอร์ช็อก แถมยังเป็นวันเดียวกับที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศการเข้าสู่ฤดูร้อนเต็มตัวของประเทศไทย ส่งผลให้คำว่า #บิ๊กโจ๊ก ติดแทรนด์ Xทันที
เมื่อช่วงสาย “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งโต๊ะแถลง สวนกลับตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งออกมาเปิดเผยการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายดังกล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ปฐมบทของคดีนี้แบ่งออกเป็น 2 สำนวน คดีแรก 61 คน และมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง 8 นาย ส่วนอีก 1 คดี เป็นการสืบสวนขยายผลจากคดีแรก พบว่ามีชื่อ “บิ๊กโจ๊ก” ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษมาตรา 149 และมาตรา 157 ด้วย รวมกับพวกที่เป็นตำรวจอีก 5 นาย
โดยตำรวจได้ทำหนังสือไปที่ ป.ป.ช.ให้ส่งสำนวนกลับมาที่พนักงานสอบสวน เพราะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกับคดีแรก และเป็นประโยชน์กับการสืบสวนดำเนินคดี แต่ขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่ได้ส่งหนังสือกลับมา เพราะอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารวบรวมพยานหลักฐาน
ยืนยันว่ายังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา มาตรา 157 และ มาตรา 149 มั่นใจไม่มีเส้นทางเงินเชื่อมโยงเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ และตั้งข้อสังเกตว่า การที่ตำรวจยื่นหนังสือ ถึง ป.ป.ช. เพราะหวังจะทำลายชื่อเสียงของตัวเอง
พร้อมตั้งคำถามถึงกรณีระบุว่ามีเงินจากบัญชีม้าโอนเข้าเครือข่ายเว็บไซต์การพนันถึง 300 ล้านบาท เหตุใดไปโอนคดีไปอยู่ในการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ถ้าลูกน้องผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ไม่ใช่ลากผมไปเกี่ยวข้องเพื่อให้เสียชื่อเสียง หรือเพื่อหวังเรื่องสำคัญที่คิดการใหญ่เอาไว้
พร้อมฝากไปถึงตำรวจยศนายพล ขอให้ออกมาเปิดหน้าต่อสู้แทนลูกน้องบ้าง อย่าปล่อยให้ต้องทำงานอย่างโดดเดี่ยว
เรื่องรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจไม่มีการตามทันกัน แต่ยศ ตำแหน่ง เป็นเรื่องของบุญวาสนา เป็นเรื่องการทำความดีให้แผ่นดิน
อ่านข่าว : “บิ๊กโจ๊ก” ยันบริสุทธิ์ 100% ยังไม่ถูกแจ้งข้อหา ม.157 คดีเว็บพนัน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ตอนบ่ายวันเดียวกัน “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะคณะกรรมการสืบสวน และรองหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีเว็บพนันมินนี่ ที่มาพร้อม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ออกโต้แบบทันควัน ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใคร
“ไปคุยกันในศาลดีกว่า เพราะไม่มีสาเหตุโกรธเคือง และดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ขอให้มั่นใจในชุดสอบสวน ที่นำโดย พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งทำงานตรงไปตรงมา พร้อมยืนยันว่า ตนเองไม่เอาชีวิตราชการไปเสี่ยง แต่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และต้องการรักษาองค์กรตำรวจ” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
ถ้าทำร้ายองค์กรผมไม่ยอม จะเดินหน้าชนทุกอย่าง ด้วยหลักฐานและความถูกต้อง ไม่ได้ก้าวร้าว โปรดอย่าทรยศองค์กรตัวเอง เหมือนที่ท่านทรยศเจ้านายมาแล้วหลาย ๆ คน
อ่านข่าว : “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ” แจงปมขอ ป.ป.ช.ดึงคดีมินนี่กลับ ปัดกลั่นแกล้ง “บิ๊กตำรวจ”
อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
ส่วน อัจฉริยะ เปิดหน้าท้ารบ แม้ไม่ระบุชื่อตรงๆว่าเป็นใคร แต่ใช้คำว่า ท้าบิ๊กตำรวจ ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ที่ลูกน้องโอนเงินโอนเข้าบัญชีทั้งครอบครัว และใช้จ่ายส่วนตัว ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล กล้าสาบานที่วัดหงษ์ จ.บุรีรัมย์ หรือไม่
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง
ขณะที่ นายนายกฯ นิด เศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์ ก่อนเข้าประชุมสภาฯ ว่ายังไม่ทราบเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหาต่อ “บิ๊กโจ๊ก” ถึง 2 คดี และยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ พร้อมแสดงความเป็นห่วง เพราะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐแล้วถูกกล่าวโทษในเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์ทราบให้ชัดเจน เพราะจะกระทบกับขวัญและกำลังใจของพี่น้องประชาชน
หากเจ้าหน้าที่มาเกี่ยวข้องด้วยก็ต้องตรวจสอบ ขณะเดียวกันก็ต้องให้เกียรติเนื่องจากถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ต้องให้เกียรติท่านมาชี้แจงแต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุย
การพนันออนไลน์เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและหากมีการพิสูจน์ทราบได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องและมีความผิดด้วยก็เป็นเรื่องที่น่าอับอาย แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องให้ให้โอกาสบุคคลที่ถูกกล่าวถึงให้พิสูจน์ตัวเอง นายกฯ กล่าวทิ้งท้าย
หลายฝ่ายมองว่าเรื่องทั้งหมดทั้งมวลเป็นแผนสกัดเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือมีเบื้องลึกเบื้องหลัง ก็ต้องจับตากันต่อไปว่าเรื่องนี้ที่ลากยาวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จะลงเอยเมื่อไหร่ และจบอย่างไร
ส่วนความบรรยากาศความชื่นมื่นแห่งมิตรภาพ 32 ปี ระหว่าง “ฮุนเซน” และ “ทักษิณ ชินวัตร” ในฐานะเพื่อนเก่าแก่ ยังอบอวลไม่เลิก แม้ยามเจ็บป่วยก็ไม่ทอดทิ้งกัน หลังจากที่วานนี้ฮุนเซน ได้เดินทางเข้าเยี่ยม ทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ที่อยู่ระหว่างการพักโทษ เป็นวันที่ 5
ล่าสุดวันนี้ เครื่องจักรฝ่ายค้าน เริ่มสปีดติดเทอร์โบ เมื่อ คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน ได้มีหนังสือไปถึงกรมราชทัณฑ์ กรณีไม่มีการกักตัว และไม่ตัดผม ซึ่งต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าเหตุใดจึงไม่ดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ มีการดำเนินการ 2 มาตรฐานหรือไม่ พร้อมใช้เวลา 90 วัน
ส่วนการยื่นเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ราชทัณฑ์เกี่ยวกับคณะกรรมการพิจารณาการพักโทษ จะทันต่อกรณีอดีตนายกรัฐมนตรี อีกหนึ่งคนที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศหรือไม่ ชัยชนะ ยืนยันว่าการเสนอกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดใคร แต่ต้องการไม่ให้สังคมมี 2 มาตรฐาน มีความเสมอภาค
อ่านข่าว : ขีดเส้น 90 วันราชทัณฑ์ปม “ทักษิณ”ไม่กักตัว-ไม่ตัดผม
เทพไท เสนพงศ์” อดีต สส.นครศรีธรรมราช
ดูภาพถ่าย “ฮุนเซ็นกับทักษิณ” ใครคือคนป่วย?
ไม่ได้จับผิด แค่ตั้งคำถาม “เทพไท เสนพงศ์” อดีตขุนพลค่ายสีฟ้า และอดีต สส.นครศรีธรรมราช บอกสงสัย ภาพที่สมเด็จฮุนเซนถ่ายคู่กับทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า มีการจับแขนของคุณทักษิณที่เข้าเฝือกเพราะเอ็นยุ่ย ระหว่างสมเด็จฮุนเซนที่มาเยี่ยมคุณทักษิณผู้ป่วยวิกฤตนั้น จากใบหน้าของคุณทักษิณ อิ่มเอิบ สดใสกว่าใบหน้าของสมเด็จฮุนเซ็นผู้มาเยี่ยมเสียด้วยซ้ำ…ใครเป็นผู้ป่วยกันแน่?
เทพไท บอกว่า ตนเป็นผู้ได้รับการพักโทษเหมือนทักษิณ ได้ไปรายงานตัวต่อกรมคุมประพฤติด้วยตัวเอง แต่เมื่อทักษิณยังสามารถเดินทางไปรายงานตัวต่อสำนักงานอัยการสูงสุดด้วยตัวเองได้ แต่ทำไมไม่ไปรายงานตัวต่อกรมคุมประพฤติด้วยตัวเอง ต้องให้เจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติ เดินทางไปเข้ามารับรายงานตัวที่บ้าน หรือเป็นเพราะกรมคุมประพฤติ สังกัดกระทรวงยุติธรรม แต่สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นหน่วยงานอิสระ จึงไม่สามารถต่อรอง ขัดขืนได้
หลังจากนี้ถ้าหากทักษิณได้รับสิทธิ์ ไม่ต้องติดกำไลอีเอ็มเป็นที่แน่นอนแล้ว จะทำหนังสือขอความเป็นธรรม ยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในสัปดาห์หน้า เพราะคุณสมบัติของผมเข้าเงื่อนไขการพักโทษเช่นเดียวกับคุณทักษิณ จะมีความแตกต่างกับก็เรื่องอายุเท่านั้น หากจะยกประเด็นการป่วยมาเป็นข้ออ้าง ดูจากภาพแล้วไม่มีใครเชื่อว่าป่วยจริง
อ่านข่าวอื่นๆ :
“เศรษฐา” ยังไม่ได้รับรายงาน ปม “บิ๊กโจ๊ก” ถูกแจ้งข้อหาโยงเว็บพนันออนไลน์
