รัฐบาลจัดริ้วขบวนยิ่งใหญ่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย มาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ และเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
มีสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ราเชนทร์ วิศวนาถ อัรเลกัร ผู้ว่าการรัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย ดร. วิเรนทร์ กุมาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและเพิ่มพลังทางสังคมสาธารณรัฐอินเดียและนาเคส สิงห์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย ร่วมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ขึ้นประดิษฐานบนมณฑป โดยมีพิธีเจริญชัยมงคลคาถาตลอดพิธี
หลังจากนั้นมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ โดยมีคณะสงฆ์ไทย คณะสงฆ์สาธารณรัฐอินเดีย คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต 49 ประเทศ พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม ลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนหน่วยงานรัฐ เอกชน เครือข่ายองค์กรพระพุทธศาสนา องค์กรศาสนาต่างๆ ข้าราชการ พุทธศาสนิกชน ศาสนิกชนและสื่อมวลชน เข้าร่วมพิธี กระทรวงวัฒนธรรมจัดริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ออกจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร มายังมณฑลพิธีท้องสนามหลวงอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งริ้วขบวนมีทั้งหมด
23 ขบวน มีผู้เข้าร่วมขบวนกว่า 2,500 คน เช่น ขบวนโคม ขบวนการแสดง 4 ภาค การแสดงกลุ่มชาติพันธุ์ การแสดงจากอินเดีย ขบวนธงชาติไทย ธงชาติอินเดีย ธงธรรมจักร และธงฉัพพรรณรังสี ขบวนโคมประทีปและโคมดอกบัว ขบวนรถมาฆบูชาประดิษฐานพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาติโมกข์ รถบุปผชาติประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ขบวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขบวนจิตอาสา เป็นต้น หลังจากนี้จะเปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้าสักการบูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 – 20.00 น.
สำหรับในส่วนภูมิภาคจะอัญเชิญไปประดิษฐานใน 3 จังหวัดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าสักการบูชา ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 5 – 8 มีนาคม เวลา 09.00 – 20.00 น. ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 10 – 13 มีนาคม เวลา 09.00 – 20.00 น ณ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี และภาคใต้ ระหว่างวันที่ 15 – 18 มีนาคม เวลา 09.00 – 20.00 น ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ หลังจากนั้นวันที่ 19 มีนาคม จะจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุส่งมอบคืนให้แก่สาธารณรัฐอินเดีย โดยบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และแต่ละจังหวัดในช่วงเวลา 17.00 เป็นต้นไปของแต่ละวัน จะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลให้แก่พุทธศาสนิกชนที่เข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ