นายกฯ ติดตามการดำเนินงานด่านศุลกากรเบตง จ.ยะลา สั่งการเร่งแก้ไขปัญหาช่องทางเดินรถ รองรับรถและการเดินทางของนักท่องเที่ยว
28 ก.พ. 2567 เวลา 17.20 น. ณ ด่านศุลกากรเบตง จังหวัดยะลา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ติดตามผลการดำเนินงานของด่านศุลกากรเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยมีนายธรรมธร เกตุแก้ว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร รักษาราชการแทนนายด่านศุลกากรเบตง และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรเบตงให้การต้อนรับ
จากนั้น ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร รักษาราชการแทนนายด่านศุลกากรเบตง กล่าวว่า ดุลการค้าระหว่างไทยกับมาเลเซีย ถือว่าไทยได้ดุลการค้า มีชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาจำนวนมากในช่วงเดือนมกราคม 2567 โดยเฉพาะช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด ทำให้เกิดปัญหาช่องทางจราจรฝั่งขาเข้าด่านศุลกากรฯ มีขนาดเล็กและแคบ ไม่สามารถให้รถยนต์บรรทุกสินค้าและรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ขับผ่านเข้ามาได้ รวมทั้งที่จอดรถและพื้นที่ให้บริการไม่เพียงพอต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก
โดยผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร ได้เสนอแนวทางการพัฒนาฯ ดังนี้ 1. ขยายพื้นที่เพื่อจัดทำช่องจราจร 2-4 จราจร เพื่อเป็นช่องทางสำหรับการผ่านเข้ามาของรถยนต์บรรทุกสินค้า และรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ พร้อมปรับปรุงพื้นที่เพื่อติดตั้งเครื่องชั่ง สำหรับชั่งรถยนต์บรรทุกสินค้าขาเข้า 2. จัดสร้างลานจอดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล/รถยนต์บรรทุก และรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ (รถบัส) เพื่อจอดพักสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้มาติดต่อราชการ จัดสร้างห้องน้ำสำหรับบริการนักท่องเที่ยว และผู้มาติดต่อราชการ และ 3. จังหวัดยะลา มีข้อสั่งการให้ดำเนินแผนการพัฒนาด่านศุลกากรเบตง โดยให้สำนักงานโยธาธิการจังหวัดและผังเมืองยะลา ดำเนินการออกแบบเพื่อขยายด่านศุลกากรเบตง เพื่อรองรับการเจริญเติบโตในอนาคต
ภายหลังรับฟังบรรยายสรุปและรับฟังข้อเสนอแนะ นายกฯ กล่าวมอบนโยบายว่า เบตง จังหวัดยะลา เป็นพื้นที่ชายแดนที่มีความสำคัญ รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงในภูมิภาคในเรื่องการค้าชายแดน การลงทุนและการท่องเที่ยว สำหรับโครงการที่เสนอมา ขอให้กรมศุลกากร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมโยธาธิการและผังเมือง และจังหวัดยะลา พิจารณาจัดลำดับความสำคัญและความเหมาะสมในการดำเนินโครงการ รวมถึงกำหนดแผนงานและงบประมาณที่ชัดเจน เพื่อจะได้ผลักดันการพัฒนาต่อไป
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า ขอให้ร่วมกันเร่งพิจารณาแผนระยะสั้น เพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดและล่าช้าในการพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งพิธีการศุลกากรการขนส่งสินค้าข้ามแดน รวมทั้ง ร่วมกันผลักดันให้เกิดศูนย์ให้บริการเบ็ดเสร็จ OSS ทำให้การบริการมีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ นายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยและมาเลเซีย รวมทั้ง พัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดยะลาต่อไป
นายกรัฐมนตรีย้ำ ความสงบจะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจในเบตงดีขึ้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เป็นตัวขัดขวางความเจริญ รวมถึงความไม่สะดวกต่าง ๆ ทั้งนี้ ขอให้เร่งรัดดำเนินการยกเว้นรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้าใน หรือ ออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ ตม.6) โดยกำชับให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งนำเรื่องให้ ครม.พิจารณา ส่วนเรื่องการแก้ไขผังเมืองเป็นเรื่องระยะยาว ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาปรับผังเมืองใหม่ทั้งหมดให้เหมาะสมกับความเจริญในปัจจุบันต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบนโยบายให้เร่งขยายพื้นที่บริเวณด่านเข้าออกศุลกากรให้มีช่องจราจรและลานจอดรถให้กว้างขึ้น ตลอดจนเร่งดำเนินการขยายถนนเส้น 410 ระยะทางราว 110 กิโลเมตรที่วิ่งตรงจากตัวเมืองยะลาตรงไปยังเบตง โดยทั้งหมดนี้ของบูรณาการแผนให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี