เปิดต้นฤดูร้อนแล้งแห้งเหือด เดือน มี.ค. ด้วยการโชว์วิสัยทัศน์การบิน เมื่อ “นายกฯนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ประกาศศักยภาพของไทย เป้าหมายนำพาประเทศไทยให้กลายเป็น HUB ศูนย์กลางการบินของภูมิภาค โดยแถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND, AVIATION HUB” ถือเป็น 1 ในเป้าหมาย ที่ “นายกฯนิด” เคยโชว์ในงาน Ignite Thailand เมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาพร้อมลงรายละเอียดการดำเนินการไว้เล็กน้อยให้พอได้เห็นภาพ
อ่านข่าว : “เศรษฐา” ประกาศวิสัยทัศน์ประเทศ 8 ข้อ หนุนเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว
ทั้งการจะเปิดใช้อาคาร SAT-1 สนามบินสุวรรณภูมิ ให้ครบ 100% ภายในไตรมาส 2 ของปี 2567 เพื่อรองรับผู้โดยสารให้ได้ 60 ล้านคนต่อปี และช่วยทำให้เครื่องบินสามารถบินขึ้น-ลงได้ 90 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และเตรียมสร้างอาคาร SAT-2 ต่อไป
นอกจากนี้ยังเตรียมเปลี่ยนให้สนามบินดอนเมืองเป็น Point to Point แอร์พอร์ต พร้อมใช้จุดเด่น เน้น ความสะดวกรวดเร็ว ครบครัน รับผู้โดยสารให้มากยิ่งขึ้น โดยมีแผนการสร้างอาคารอินเตอร์เนชั่นแนลใหม่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 50 ล้านคน และสร้างอาคารจอดรถเพิ่มความจุเป็น 5 เท่า จอดรถได้ 7,600 คัน
ยังไม่รวมแผนการสร้างสนามบินอันดามัน ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของภูเก็ต พังงา กระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง และภาคเหนือก็จะมีสนามบินล้านนา รองรับผู้โดยสาร 20 ล้านคนต่อไป
ขอประกาศว่า 1 ปีจากนี้สนามบินสุวรรณภูมิจะต้องเป็น 1 ใน 50 ของโลก และ 1 ใน 20 ของโลกภายใน 5 ปี เพื่อให้การเป็นศูนย์กลางทางการบิน (AVIATION HUB )เป็นความจริง
โชว์มาดเข้ม ๆคาดว่ารอบนี้ จะไม่เห็น “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องออกโรงมาตอบโต้ “สส.ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล ที่เคยแสดงความเห็น กรณีวิสัยทัศน์ 8 ศูนย์กลางเศรษฐกิจ ของ “นายกฯนิด” เศรษฐา ว่าไม่มีอะไรใหม่และไม่ลงรายละเอียด ว่าอาจเป็นเพราะ “สส.ไหม” ศิรกัญญา สับสน ระหว่าง วิสัยทัศน์ – วิธีการ – และวิธีทำ
อ่านข่าว : คิวแน่น! “เศรษฐา” ออนทัวร์ทั่วไทย – ต่างแดน
“นายกฯนิด” โชว์วิสัยทัศน์การบินได้เป็นอย่างดีสมกับที่ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา “นายกฯนิด” บินขึ้นเหนือ ล่องใต้ ไปอีสาน ไปจนถึงต่างประเทศ และเดินสายลงพื้นที่ พร้อมสวมบทบาทเซลล์แมนดึงดูดนักลงทุนเมื่อไปต่างประเทศ
ขณะที่ “ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์” สส.ก้าวไกล ก็ออกหนุน “รองอ๋อง”ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภา คนที่ 1 ที่ระบุว่า จะไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อถามถึงร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงินที่รอนายกฯเซ็น และทางฝ่ายบริหารระบุว่า ฝั่งสภา “เล่นใหญ่”
อ่านข่าว : “ครูมานิตย์” ออกโรงเต้น ป้องรัฐบาล หลัง “ปดิพัทธ์” ทวงกฎหมายค้าง
“ณัฐชา” มองว่า น่าจะเป็นเพราะ “รองอ๋อง” อัดอั้นและติดขัดเรื่องนี้มานาน เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.หลายฉบับ นายกฯ ไม่เซ็นตอบรับกลับมา
ผมเห็นว่าการออกมานำเสนอของนายปดิพัทธ์ น่าจะเป็นความอัดอั้นที่ได้ทำหน้าที่บนบัลลังก์และเห็นว่าความก้าวหน้าของการร่างกฎหมายที่เป็นหน้าที่หลักของฝ่ายนิติบัญญัติไม่คืบหน้าเลย เราก็ไปไล่ดูว่าติดอยู่ที่ไหน สุดท้ายมันติดอยู่บนโต๊ะนายกฯ
ร้อนทั้งในสภาฎไปจนถึง นอกสภาฯที่ทำเนียบรัฐบาล กับกระแส ข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ดังที่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รองนายกฯ บ่นอุบไม่อยากตอบสื่อแล้ว หลังเจอคำถามว่า หลังผ่านงบประมาณปี 67 เสร็จสิ้นจะมีการปรับ ครม.หรือไม่ เพราะโดยธรรมเนียมมักที่จะมีการปรับ ครม.ในทุก ๆ 6 เดือน
“รองนายกฯสมศักดิ์” ก็ตอบว่า ก็บอกแล้วว่า ไม่ปรับ ๆ ไม่พูดแล้ว ไม่อยากพูดเรื่องนี้ ขอให้รัฐมนตรีทุกคนทำงานได้เต็มที่เถอะ ผ่านมา 5-6 เดือนเรายังไม่ใช้งบประมาณของปี 67 เลย
อีกเรื่อง ที่ดูเหมือนยังจะไม่จบง่าย ๆ กับกรณี ที่ดิน ส.ป.ก. “บิ๊กทิน” สุทิน คลังแสง ในฐานะเจ้ากระทรวงกลาโหม ที่เรียกประชุมคณะกรรมการวันแมปและบอกว่า หากเรียบร้อยก็พร้อมจะเสนอต่อ ครม.ต่อไป
อ่านข่าว : “สุทิน” เรียกถกวันนี้ เคลียร์ข้อพิพาทที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่
แต่ในทางกลับกัน หากยังไม่จบ ด้วยเหตุว่า กรมอุทยานฯไม่ยอมรับ และจะฟ้องร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “บิ๊กทิน” บอกว่า ต้องดูว่าที่ไม่จบ เพราะไม่ฟังเหตุผลกันหรือไม่ หรือไม่จบเพราะการทำวันแมปของเราบกพร่อง หากเป็นที่ระบบของเรา ซึ่งวันนี้ก็จะตรวจสอบ เพื่อให้คณะกรรมการยืนยันอีกครั้งตามหลักวิชาการว่าได้ทำตามหลักวิชาการและระบบที่สมบูรณ์แล้วหรือยัง ถ้าสมบูรณ์แล้วอีกฝ่ายไม่ยอมรับ ปัญหาก็ไม่ได้เกิดที่ตรงนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม “บิ๊กทิน” ยืนยันว่า กรมแผนที่ เป็นหน่วยงานที่มีความเป็นกลาง ไม่ได้เกรงกลัวอิทธิพล หรือมีผลประโยชน์ หากกองทัพไปกลัวผู้มีอิทธิพล แล้วประชาชนจะพึ่งใคร
ตามต่อด้วยผลสำรวจ ดัชนีการเมือง ประจำเดือน ก.พ.67 ของ “สวนดุสิตโพล” ที่คะแนนของ “นายกฯนิด” และ “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.เพื่อไทย ที่รั้งอันดับ 1 ในฐานะผู้มีบทบาทโดดเด่นของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน
นักวิชาการอย่าง “ยอดชาย ชุติกาโม” ประธานหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต” ที่ทำโพลดังกล่าว อธิบายว่า คะแนนนิยมของ “นายกฯนิด” จะพุ่งแรง ขึ้นมาได้ หากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บ. สำเร็จและถูกเข็นออกมาได้
อ่านข่าว : สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจ “ดัชนีการเมืองไทย” เดือน ก.พ.67 “เศรษฐา-พิธา” บทบาทโดดเด่น
ยิ่งใกล้เข้าสู่ช่วงการปิดสมัยประชุมสภาฯ ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 9 เม.ย.นี้ ก็มีวาระร้อนให้คอการเมืองต้องติดตาม ทั้ง สส.ที่จะพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯปี 67 ในวาระที่ 2-3 ในวันที่ 20-21 มี.ค.นี้ จากนั้นจะเป็นคิวของ สว.ที่จะถกร่างงบฯ ปี 67 ที่ สส.ให้ความเห็นชอบ ในวันที่ 26 มี.ค.2567 จากนั้นทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)จะนำร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป ในวันที่ 3 เม.ย.67
ส่วนฟากของ “ก้าวไกล” ที่รอบนี้ ยังโชว์บทบาทฝ่ายค้านไม่ร้อนแรงมากนัก หากเทียบผลงานฝ่ายค้านในยุครัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามที่ “ปกรณ์วุฒิ” บอกว่า รัฐบาลยังไม่มีอำนาจเต็มในการจัดสรรงบฯอย่างเต็มที่ จึงยังไม่เปิดซักฟอก “รัฐบาลเศรษฐา” ในสมัยประชุมนี้ และยังไม่มีประเด็นใหญ่เพียงพอที่จะเปิดซักฟอก ค่อยว่ากัน ในสมัยประชุมหน้า ที่รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณด้วยตัวเองอย่างเต็มระบบ รอบนี้ “รัฐบาลนายกฯนิด” จึงยังได้โอกาสทำงานต่อไปแบบไร้กังวล
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดีโพสต์ ฟันไม่ยั้ง โพสเฟซ ตั้งคำถาม “ทำไมพรรคก้าวไกลไม่ซักฟอกรัฐบาล” ระบุว่า เมื่อปลายเดือน ม.ค.2567ที่ผ่านมา นายพิธาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเศรษฐา ช่วงเดือน เม.ย.นี้ก่อนปิดสมัยประชุมสภา ในประเด็นทุจริต บริหารล้มเลว ทำงานล่าช้า
แต่กลายเป็นว่าปลายเดือน ก.พ.ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงกลับลำเฉยว่า จะยังไม่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมนี้ เพราะรัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหาร ยังไม่ได้ใช้งบฯ
พรรคก้าวไกลแน่ใจหรือว่า รัฐบาลนี้เข้ามาบริหาร แล้วไม่มีประเด็นที่ประชาชน อยากให้ฝ่ายค้านตรวจสอบ ซึ่งในความเป็นจริงมีหลายประเด็นมากที่ประชาชนสงสัย
การใช้อภิสิทธิ์ของนักโทษชายทักษิณ ซึ่งฝ่ายค้านตรวจสอบเรื่องนี้น้อยมาก ทั้ง ๆ ที่หลักฐานข้อมูล เอกสารต่าง ๆ ชัดเจนมาก
โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บ.สรุปแล้วจะได้หรือไม่ แล้วที่สัญญาว่า จะไม่กู้ยังจะกู้ไหม ปัญหายาบ้า 5 เม็ด ที่นำไปสู่ การค้าบ้าเสรีสำหรับรายย่อย ปัญหาเกาะกูด ที่ประชาชนหวาดระแวง ที่จะนำไปสู่การเสียดินแดน ทั้ง ๆ ที่สัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศสในปี 2449 ระบุชัดเจนว่า เกาะกูดเป็นของไทย ปัญหาปากท้องประชาชน จนตลาดเงีบบเป็นป่าช้า
หรือแม้แต่ปัญหาที่ดิน ส.ป.ก.ที่เมื่อเปลี่ยนเป็นโฉนดเพื่อการเกษตรแต่กลายเป็น เอื้อนายทุนฮุบที่ป่าได้เป็นทางการ
อ่านข่าว : “ปกรณ์วุฒิ” เผยสมัยประชุมนี้อาจไม่มีซักฟอก เหตุยังไม่มีประเด็นใหญ่
หมอวรงค์ยังตั้งคำถามกลับไปยังพรรคก้าวไกลว่า ทำไมไม่กล้าซักฟอกรัฐบาล หรือว่า
1.การที่นายธนาธรไปพบนายทักษิณที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2566 ทำให้พรรคไม่กล้าซักฟอกนายทักษิณ
2.หรือพรรคก้าวไกลกลัวถูกย้อนศร กรณีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเรื่องล้มล้างการปกครองฯ ในทำนองเองก็ชั่ว ข้าก็เลว
3.หรือว่าพรรคก้าวไกลไร้น้ำยาจริงๆ มีแต่จะยกเลิก ม.112 ระวังถ้าเป็นแบบนี้สักวันหนึ่งจะโดนโห่ไล่ลงเวที
เมินศึกฟอกรัฐบาลของพรรคก้าวไกลครั้งนี้ ยิ่งทำให้ปมดีลลับ-ดีลลวง ร้อนแรงขึ้นมาอีกครา
อ่านข่าวอื่น ๆ
“จุลพันธ์” รอฟัง ป.ป.ช.ปมดิจิทัลวอลเล็ต ไม่เชื่อกู้ 5 แสนล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจ 0.6%