เปิดสมุดปกขาวทอ. แผนซื้ออาวุธ10 ปี แง้มงบฯ68 ต้องการซื้อเครื่องบินรบ1 ฝูงบิน ผูกพันงบฯ ถึงปี 77 ระบบป้องกันภัยทางอากาศ โดรน เครื่องบิน-ฮ.รับส่งวีไอพี
ในงานสัมมนาวิชาการ RTAF Symposium 2024 ที่ กองทัพอากาศจัดขึ้นได้มีการเผยแพร่สมุดปกขาวกองทัพอากาศ พ.ศ.2567 ( RTAF White paper 2024) โดยได้ประเมินสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงที่ไทยจะเผชิญถึงปีพ.ศ. 2580 เช่น การรักษาดุลยภาพความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจ ภัยธรรมชาติที่มีความรุนแรง โรคอุบัติใหม่อาชกรรมทางไซเบอร์ ความขัดแย้งระหว่างรัฐต่อรัฐ เป็นต้น นอกจากนั้นยังได้มีการ ประเมินถึงแรงผลักดันที่มีต่อผลกระทบต่อความมั่นคงในอนาคต ทั้งสังคมเทคโนโลยีเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อมการเมืองและด้านการทหาร ที่สำคัญได้มีการประเมินความเสี่ยงทางทหาร โดยคำนึงถึงภารกิจหลักคือการรักษาอธิปไตยและความมั่นคงทางอากาศของประเทศไทยที่ต้องพิทักษ์รักษาป้องกัน. ศูนย์ดุลที่สำคัญของชาติหากล่วงล้ำเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของประเทศไทย โดยมีการแบ่งเป็นผลกระทบ 4 ระดับ
กองทัพอากาศยังได้ประเมินกำลังรบที่ต้องการ โดยมุ่งเน้นการจัดหายุทโธปกรณ์ในลักษณะของการชดเชยหรือแลกเปลี่ยน(military offset)ในกรณีที่เป็นโครงการจัดหาที่มีมูลค่าสูง ,การจัดหาเครื่องบินหรือยุทโธปกรณ์อื่นๆนั้นยังสามารถฝึกร่วมผสมกับ สหรัฐ จีน รัสเซียและอินเดียด้วย พร้อมทั้งการจัดหา ระบบป้องกันภัยทางอากาศตามแนวคิดการปฎิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางและสนับสนุนการปฎิบัติการทางทะเล การพัฒนากำลังรบบนพื้นฐานของการปฎิบัติการใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง
นอกจากนั้นยังมีความต้องการอากาศยานและยุทโธปกรณ์ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งทหารและพลเรือน,ยุทโธปกรณ์หลักที่ไม่ถูกจำกัดเงื่อนไขในการใช้งานจากกฎหมายควบคุมยุทโธปกรณ์ของประเทศผู้ผลิต,ยุทโธปกรณ์ที่สามารถผลิตและใช้งานได้ภายในประเทศ พร้อมทั้งการบริหารจัดการเพื่อลดผลกระทบจากราคาเชื้อเพลิงฟอสซิล
จากบทวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงและแนวคิดในการพัฒนากองทัพอากาศทำให้ได้มาซึ่งแผนพัฒนาในทุกมิติตั้งแต่ปี 2568 ถึง 2580 เพื่อเป็นกรอบดำแนวทางในการจัดทำโครงการพัฒนากองทัพอากาศเป็นสมุดปกขาวปี 2567 แต่เป็นการพัฒนา 8 ด้านได้แก่ shooter ,sensor,c2,network , human&behavior, support&service,cyber และ space
ในสมุดปกขาวกองทัพอากาศ ได้แจกแจงตารางแผนการพัฒนากองทัพอากาศทุกมิติ หรือ All domains project )โดยกำหนดเป็นแผนงบประมาณปี 2568 -2577 โดยระบุว่า ในงบประมาณ 2568 กองทัพอากาศมีความต้องการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนแบบที่ 19 หรือ บ.ข.19/ก (F-16)ฝูงบิน 102 กองบิน 1 เนื่องจากครบอายุการใช้งานโดยจัดหาจำนวน 1 ฝูงบินพร้อมอุปกรณ์เครื่องช่วยเหลืออะไหล่ระบบอาวุธอุปกรณ์สนับสนุนการบินและการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้อง โครงการวิจัยพัฒนา กองทัพอากาศยังได้ทำโครงการ ต่อเนื่องในปี 2580 ถึง 2589 ในการจัดหาทดทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 F-16 ฝูงบิน 403 กองบิน 4 ตาคลี เนื่องจากครบอายุการใช้งานจำนวน 1 ฝูงบิน อีกด้วย
นอกจากนั้นยังมีความต้องการการจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยกลาง,โครงการวิจัยพัฒนาระบบอาวุธนำวิถีด้วยเลเซอร์ฟื้นฟูอากาศ,การจัดหาระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ
นอกจากนั้นยังมีโครงการจัดหาเครื่องบินรับส่งบุคคลสำคัญทดแทน บล.19 (A340-500) โครงการจัดหาเฮริลคอปเตอร์ขนาดกลางรับส่งบุคคลสำคัญ,โครงการจัดหาเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้นT-50/Th ,โครงการผลิตM solarx สำหรับภารกิจป้องกันฐานบิน,โครงการปรับปรุงขีดความสามารถ อากาศยานไร้คนขับ(satcom) ,โครงการวิจัย kamikaze ,โครงการพัฒนาปรับปรุงระบบป้องกันภัยทางอากาศหาดใหญ่,โครงการวิจัยและพัฒนาเรดาร์เคลื่อนที่ ,โครงการพัฒนาระบบฝึกปฏิบัติการและทดลองทางไซเบอร์
ทั้งนี้กองทัพอากาศ ได้จัดทำสมุดปกขาวกองทัพอากาศ พ.ศ.2563เพื่อเผยแพร่ภารกิจหน้าที่ การเตรียมความพร้อม ตลอดจนการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบเกี่ยวกับแผนงาน/โครงการสำคัญในห้วงระยะเวลา 10ปี (พ.ศ.2563- 2573) แต่เนื่องด้วยห้วงเวลาที่ผ่านมา โลกเกิดเหตุการณ์สำคัญหลายๆ เหตุการณ์ ได้แก่ วิกฤตการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2018(COVID-19) สงครามรัสเซีย-ยูเครน ภัยพิบัติ
จากแผ่นดินไหวในประเทศทูร์เคีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส ส่งผลกระทบต่อภาพรวมงบประมาณของประเทศในช่วงที่ผ่านมา หรือแม้แต่การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีทางทหารที่ก้าวล้ำอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้ส่งผลให้กองทัพอากาศต้องดำเนินการทบทวนขีดความสามารถที่ต้องการ โครงสร้างกำลังรบ และกำหนด
แนวทางการดำเนินการโครงการสำคัญใหม่ เพื่อกำหนดทิศทางที่ชัดเจนในการพัฒนากองทัพอากาศ เป็นที่มาของการทบทวนและจัดทำสมุดปกขาวของกองทัพอากาศ พ.ศ.2567หรือ RTAF White Paper 2024