‘ก้าวไกล-เป็นธรรม‘ ผนึกติงรัฐบาลไม่มาตอบกระทู้ ซัดแย่กว่ารัฐบาล ’ประยุทธ์‘ เหน็บอยากเป็นรัฐบาล แต่ควรมาทำงานกันบ้าง แนะ ’เศรษฐา’ กำชับ รมต. เข้าสภาฯ
วันที่ 29 ก.พ. ที่อาคารรัฐสภา สส. ฝ่ายค้าน นำโดย ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล และกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม แถลงถึงกรณีที่รัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้ถามสดในที่ประชุมสภาฯ
โดย ปกรณ์วุฒิ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน)กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมสภาฯ มีปัญหาพอสมควร เนื่องจากมีการถามกระทู้สดด้วยวาจา 3 กระทู้ รวมถึงกระทู้ทั่วไปอีก 4 กระทู้ แต่มีรัฐมนตรีมาตอบเพียง 1 กระทู้ ซึ่งเป็นกระทู้ถามของ สส.ฝั่งรัฐบาล โดยในการถามกระทู้สดนั้น มีการแจ้งทั้งผู้ถามและผู้ตอบในเช้าวันพฤหัสบดี ซึ่งมีเจตนารมณ์ต้องการให้รัฐมนตรีหลายท่านที่เป็น สส. และต้องมาประชุมอยู่แล้ว รับทราบว่ามี สส.สอบถามกระทู้ถึงตัวเองหรือไม่ และมีหน้าที่ตอบเท่านั้น
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนเข้าใจในอุปสรรคหลายอย่าง ว่ารัฐมนตรีอาจจะติดภารกิจที่นัดหมายไว้นานแล้ว ทุกวันนี้กระทู้สดแทบไม่ใช่กระทู้สดแล้ว โดยเราได้ทำการสอบถามรัฐมนตรีตั้งแต่วันอังคาร ว่าสะดวกที่จะตอบกระทู้หรือไม่ ซึ่งในบางสัปดาห์วิปรัฐบาลแจ้งกลับมา ว่ารัฐมนตรีติดภารกิจไปต่างประเทศ เราเข้าใจได้ เราก็เปลี่ยนกระทู้ให้ เพื่อให้สภาไม่เสียโอกาส เสียโควตากระทู้
แต่ปัญหาหลังๆ ที่เกิดขึ้นคือ เมื่อวานนี้รัฐมนตรียืนยันว่า จะมาตอบกระทู้ แต่เช้าวันนี้ปรากฏว่า รัฐมนตรีแจ้งว่าไม่สามารถมาได้ ตนคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากหนีกระทู้ เห็นหัวข้อแล้ว ไม่อยากตอบ ไม่กล้าตอบ
“หลายครั้งที่เป็นกระทู้ของ สส.ฝั่งรัฐบาลด้วยกันเอง ถามกันเอง ชงกันเอง ตบกันเอง กินกันเอง ก็มากันแทบทุกครั้ง ต้องขอเรียกร้องคณะรัฐมนตรี ว่าพฤติกรรมแบบนี้ จะพูดว่าแย่กว่ารัฐบาลประยุทธ์ก็ยังได้ รัฐบาลประยุทธ์มีการหนีกระทู้บ่อยครั้งก็จริง แต่นับกันได้เลยว่า สัดส่วนไม่เยอะเท่านี้แน่นอน เห็นอยากเป็นรัฐบาลกันเหลือเกิน ก็ขอความกรุณามาทำงานกันซะบ้าง หลายท่านที่ไม่มาในวันนี้ ก็รู้เลยว่าโดดสภา“ ปกรณ์วุฒิ กล่าว
ปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐมนตรีบางท่านที่มาทุกครั้ง บางครั้งหน่วยงานแทบไม่เกี่ยวข้อง ก็ยังมาตอบแทน ที่เห็น 2 ท่าน คือ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม คนที่ทำงานก็ทำไป คนที่ไม่ทำก็ไม่ยอมทำสักที รัฐมนตรีในฐานะฝ่ายบริหาร ควรให้เกียรติสภาทึ่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ
ด้าน จิรัฏฐ์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้ถามกระทู้เกี่ยวกับเรื่องการกู้เรือหลวงสุโขทัย เราอยากรู้ความจริง ว่าสาเหตุของการล่มคืออะไร ตอนนี้กองทัพเรือกู้เรือแบบจำกัด ไม่มีวัตถุประสงค์หาสาเหตุการล่ม ซึ่งผลการสอบสวนที่กำลังสอบสวนกันอยู่จะน่าเชื่อถือได้อย่างไร ถ้าเรือยังอยู่ใต้น้ำ ปาหี่ที่แสดงกันมาปีกว่า ในการพยายามจัดซื้อจัดจ้างกู้เรือ และไม่สำเร็จ ไม่มีการพิสูจน์ ว่าคุณสมบัติไม่ครบ จริงๆ ทั้งโลกสงสัยว่า เรือล่ม เพราะเจอคลื่นได้อย่างไร รวมถึงการจัดการในสภาวะวิกฤต เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงปล่อยให้มีผู้เสียชีวิต แต่ก็ไม่คิดว่าท่านรัฐมนตรีจะไม่มา
“เมื่อวานท่านรัฐมนตรีมาสภา นั่งกินข้าวคนเดียวในห้องอย่างเหงาๆ ให้คนไปถามก็บอกว่า วันนี้จะมาตอบ เพราะว่าเมื่อวานว่างงาน วันนี้กลับมาทำงาน แล้วก็รับงานเดียวกับนายจุลพันธ์ ซึ่งจะต้องไปเจอกันที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งท่านจุลพันธ์มาตอบ แต่ท่านสุทินไม่มาตอบ ผมก็เลยไม่เข้าใจว่า จะหนีกระทู้ทำไม เพราะไม่ใช่คำถามที่เดาไม่ได้ สกิลโวหารอย่างท่านสุทิน ตอบอะไรก็ได้อยู่แล้ว เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะว่าสัปดาห์หน้า ใกล้จะกู้เรือเสร็จแล้ว” จิรัฏฐ์ กล่าว
ขณะที่ กัณวีร์ กล่าวว่า ตนตั้งกระทู้ถามเรื่องเกี่ยวกับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเมียนมาต่อประเทศไทย วันนี้ในพื้นที่สภาฯ เราเปิดโอกาสให้กับรัฐบาลชุดนี้ ได้มาแสดงจุดยืนทางการทูต แต่ตนยังไม่เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ ได้แสดงจุดยืนทางการทูตอย่างไร ตนความเสียใจ และกังวล ว่า ประชาชนไทยที่อยู่ฝั่งชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ของประเทศเมียนมา มีลูกหลงหลายลูกหลงเข้ามาตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา เรามีจุดยืนทางการพูดอย่างไร
ขณะนี้ มีผู้พลัดถิ่นในประเทศที่รอการลี้ภัยเข้ามายังประเทศไทย จำนวนกว่า 1,000,000 คน มีกฎหมาย ของทหารเมียนมาบังคับการเกณฑ์ทหาร ทำให้คนอายุ 18-35 ปี ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก หนีเข้ามาประชิดชายแดนของไทย เราจะทำอย่างไร หากประชาชนเหล่านี้ทะลักเข้ามา รวมถึงเรื่องการที่ทหารเมียนมาไม่ส่งแรงงานเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งกระทบมากกับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ของประเทศไทย
ด้าน ชุติพงศ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคเลื่อนของ ครม. ชุดนี้ ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เลื่อนการตอบกระทู้ เรื่องช้างป่า
ซึ่งตนได้ชี้แจงในห้องประชุมไปแล้วว่า มีคนตายตั้งแต่ช่วงปีใหม่จนถึงตอนนี้ ทั้งหมด 13 ศพ มีช้างป่าตาย 1 ตัว โดย พล.ต.อ.พัชรวาท ต้องมาชี้แจงกระบวนการแก้ปัญหา ซึ่งครั้งที่ผ่านมา ก็ให้โฆษกทำเนียบรัฐบาลมาชี้แจงว่า พล.ต.อ.พัชรวาทได้ลงพื้นที่ไปดูหน้างาน ไม่ชอบมาฟังเรื่องที่เป็นรายงาน ตนจึงอยากจะถามกลับไปว่า พล.ต.อ.พัชรวาทได้ไปงานศพผู้เสียชีวิตสักศพหรือไม่
“ต้องรอให้ตายกี่ศพ ท่านถึงจะปฏิบัติหน้าที่ เพราะผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรท่านถึงจะยอมมา พี่ของท่านที่อยู่ในรัฐบาลชุดที่แล้วก็ไม่มา ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้ท่านยอมมา จึงต้องไปถามพี่ท่านที่เป็น สส. แต่วันนี้ผมไปดูใบเซ็นชื่อ พี่ท่านที่อยู่ในรัฐบาลชุดที่แล้วก็ไม่มา ไม่รู้ว่าอยู่ในห้องหลังบัลลังก์หรือไม่“ ชุติพงศ์ กล่าว
ชุติพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนค่อนข้างน้อยใจ คราวที่แล้วตนถามเป็นประทู้แยกเฉพาะ หวังว่าจะมาตอบ แต่ก็ไม่มา รอบนี้ตนขอมาถามในห้องประชุมใหญ่ในกระทู้ทั่วไป ในวันนี้ก็มีการขอเลื่อนออกไปอีกแล้ว ตนก็ถามนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ก็มอบหมายแล้วไม่มา ตนก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรที่จะให้รัฐมนตรีทำงานบ้าง ไม่กลัวโดนปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) บ้างหรือ
ตนก็ต้องถามนายกรัฐมนตรีว่าจะเก็บรัฐมนตรีแบบนี้ไว้ทำไม ต้องรอให้คนตายกี่คน หากนายกรัฐมนตรีไม่รู้จะตอบอย่างไรในเรื่องนี้ ก็ขอให้ลงมารับฟังข้อมูล ข้อชี้แนะในสภา แล้วถ้าเกิดถามนายกรัฐมนตรีแล้วยังไม่มา ตนต้องตั้งกระทู้ถามบ้านจันทร์ส่องหล้าหรือไม่ ถึงจะยอมมาตอบสักที ปัญหาของพี่น้องประชาชนเกรงใจบ้าง ไม่ใช่เกรงใจแต่โควตารัฐมนตรีด้วยกัน
ชุติพงศ์ กล่าวด้วยท่าทีกระแทกเสียงว่า อยากเป็นรัฐบาลกันมากหรือ ถึงเวลาทำงาน กลับไม่มาทำงานกัน ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร และขอจริงๆ วิปฝ่ายค้าน วิปรัฐบาล ให้เกียรติสภาบ้าง ไม่ใช่มาของบฯ มาเอาตำแหน่ง หน้าที่ของผู้แทนคือมีหน้าที่ตั้งคำถามให้ท่านมาตอบ มาตอบบ้าง คำถามนี้มาจากประชาชน
ชุติพงศ์ ยังชูใบประกาศจับ พล.ต.อ.พัชรวาท ฝากสื่อมวลชนว่า “ยังไงก็มาด้วยนะครับ พี่ท่านก็มาสภา ตอบไม่รู้ๆ บ้าง แต่นี่ไม่มาเลย ก็ไม่รู้จะอยู่ทำไมเหมือนกันตอนนี้” ฝากนายกรัฐมนตรีตามด้วย เจอในการประชุม ครม.บ้างหรือไม่ ตนทราบว่าในกระทรวงก็ทำให้ข้าราชการทำงานยากพอสมควร รัฐมนตรีมีหน้าที่ทำงานเพื่อประชาชน
จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนถาม โดย ปกรณ์วุฒิ ย้ำว่า เกิดเหตุการณ์ขึ้นหลายครั้งแล้ว เราทำงานให้เกียรติซึ่งกันและกัน แม้กระทั่งวันนี้ตนก็ทราบดีว่าวิปรัฐบาลทำงานเต็มที่ ตั้งแต่เช้าตรู่ วิปรัฐบาลโทรมาขอโทษตั้งแต่เช้า ที่ไม่สามารถรักษาคำพูดได้ เนื่องจากรัฐมนตรีได้มีการยืนยันในช่วงค่ำ แต่พอตื่นเช้าก็ไม่มา ตนจึงคิดว่าเรื่องนี้ต้องแจ้งต่อสาธารณะว่ารัฐบาลชุดนี้ คณะรัฐมนตรีชุดนี้ ทำงานกันแบบนี้ ฝ่ายสภาไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ลำบากใจ
ส่วนจะต้องมีการพูดคุยกับวิปรัฐบาลเพื่อหาทางออกหรือไม่นั้น ตนพยายามที่จะทำงานให้ราบรื่น อย่างช้าที่สุดช่วงบ่ายวันพุธจะมีการแจ้งให้ ครม.รับทราบว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านประสงค์ที่จะถามกระทู้สด ดังนั้นเช้าวันพฤหัสบดี หากไม่จำเป็นเร่งด่วนจริงๆ ควรสแตนด์บายรอ
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคณะจะต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า แน่นอนว่านายกรัฐมนตรีเป็นหัวโต๊ะ ต้องกำชับทุกคนให้ความสำคัญกับงานสภาฯ เพราะรัฐมนตรีหลายคนก็ยังเป็น สส. อยู่