วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง
กล่าวถึงกรณีที่ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามร่างกฎหมายที่ค้างอยู่เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.) เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ว่า เป็นการทำเกินอำนาจหน้าที่ของรองประธานสภาผู้แทนราษฎร
วิสุทธิ์มองว่าเป็นเรื่องที่เกินเลยไปมาก การไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อทวงถามร่างกฎหมายเช่นนี้จะเป็นการแทรกแซงการทำงานของฝ่ายบริหาร หน้าที่และอำนาจของประธานและรองประธานสภาไม่มีอำนาจไปแทรกแซงฝ่ายบริหาร ต้องเป็นตัวแทนของสภาสื่อสารประสานงานเท่านั้น และตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ต้องดำเนินกิจการของสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุม ที่สำคัญแทบจะทุกเรื่องจะต้องอาศัยมติของสภา ในส่วนของการพิจารณากฎหมายสามารถสั่งระงับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และส่งให้นายกรัฐมนตรีรับรองแค่นั้น
ส่วนในเรื่องนี้จะนำไปหารือในที่ประชุมวิปรัฐบาลในสัปดาห์หน้าหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องจบได้แล้วจะไม่นำหารือในที่ประชุมวิปรัฐบาลเพราะเป็นเรื่องที่ควรคิดได้ ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากไม่เกี่ยวข้องกับงานสภาจึงไม่ควรนำมาหารือในที่ประชุมวิป
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาเคยทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เช่นเดียวกับปดิพัทธ์ จะมีการพูดคุยหรือชี้แนะนายปดิพัทธ์ หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่มีอคติกับปดิพัทธ์แต่ อยากให้ข้อคิดว่าการทำหน้าที่บนบัลลังก์และการทำหน้าที่ของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรจะต้องเป็นกลาง ถือเป็นหน้าตาของฝ่ายนิติบัญญัติ อยากให้ระวังในเรื่องนี้ เพราะเมื่อมาเป็นรองประธานสภาแล้วถือว่าไม่มีพรรคไม่มีพวกมีแค่ทำหน้าที่ให้ประชาชน จะไปติดตามเรื่องใดโดยเฉพาะนั้นทำไม่ได้