วันนี้ (6 มี.ค.2567) นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงภายหลังการประชุม หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กว่า 1 ชั่วโมงว่า ฝ่ายค้านมีมติร่วมกันที่จะขอยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและถามต่อรัฐมนตรีในสภา
หลังจากนี้จะประสานไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นญัตติในวันพุธที่ 13 มี.ค.นี้ จากนั้นจะได้หารือร่วมกัน เพื่อกำหนดวันและกรอบเวลา
เบื้องต้นเห็นว่า ต้องการเวลาที่จะอภิปรายอย่างน้อย 2 วัน ซึ่งเมื่อดูปฏิทินวาระของ สภาผู้แทนราษฎรแล้ว เห็นว่าเวลาที่เหมาะสม น่าจะหลังจากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 ในวาระ 2 และ 3 ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 27-28 มี.ค.โดยสามารถอภิปรายได้ในสัปดาห์ถัดไป หรือช่วง 3-4-5 เม.ย.
นายชัยธวัช กล่าวว่า จากการพูดคุยในเบื้องต้นเห็นว่า ขณะนี้รัฐบาลชุดใหม่ได้เข้ามาบริหารประเทศเป็นเวลาเกือบครึ่งปีแล้ว แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และเพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายของตนเอง
ไม่มีการขับเคลื่อนนโยบาย และการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม ปล่อยปละละเลยให้มีผู้อิทธิพล ทั้งในและนอกประเทศ ปล่อยให้ข้าราชการเรียกรับผลประโยชน์ รีดไถพี่น้องประชาชน ปล่อยให้มีการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม
ส่วนจะมีหลักฐาน หรือใบเสร็จ ที่สามารถเอาผิดกับรัฐบาลได้เลยหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ปัญหาของรัฐบาลชุดนี้ คือไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่า ส่วนที่ทำนั้นก็มีปัญหา ดังนั้นการอภิปราย มาตรา 152 ต้องยอมรับว่า แตกต่างกับมาตรา 151
เนื่องด้วยในความเป็นจริง การบริหารโดยใช้จ่ายงบประมาณ ก็ยังไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 ยังไม่ผ่าน
การใช้จ่ายงบประมาณ ที่จะนำไปสู่การทุจริตหรือคอร์รัปชัน ยังต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ แต่แน่นอนว่า ประเด็นที่อภิปราย คงไม่ใช่การอภิปรายแบบเลื่อนลอย แต่ต้องมีหลักฐาน ข้อมูล ข้อเท็จจริงเป็นรูปธรรมในการอภิปรายแน่นอน
ส่วนประเด็นหลักอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องกระบวนการยุติธรรมและนายทักษิณนั้น มีอะไรบ้าง นายชัยธวัชกล่าวว่า ต้องบอกว่าประเด็นหลักมีหลายเรื่อง เรื่องหลักนิติรัฐนิติธรรม เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง
และในหัวข้อนี้ ก็คงไม่ได้มีเพียงกรณี ของนายทักษิณอย่างเดียว แต่ประเด็นหลัก คือการเพิกเฉยต่อการดำเนินนโยบายตามที่ตัวเองได้เสนอไว้ต่อรัฐสภา รวมถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ไร้จริยธรรม ไร้ประสิทธิภาพ ไร้วุฒิภาวะ ไร้ผลงาน ที่จับต้องได้
อ่านข่าว : “ปกรณ์วุฒิ” ชี้ จะซักฟอกรัฐบาล ข้อมูลต้องจับต้องได้
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ในแต่ละหัวข้อ ก็จะมีการอภิปรายที่เป็นรูปธรรมหลายเรื่อง โดยหลังจากนี้ ทางพรรคก้าวไกลจะประสานกับทุกพรรค เพื่อรวบรวมประเด็น และจัดกลุ่มในการอภิปราย รวมถึงการจัดสรรเวลาที่เหมาะสมร่วมกัน ซึ่งคงจะเรียงตามประเด็นที่ใกล้เคียงกัน
สำหรับข้อกล่าวหาที่ว่า อาจมีการเกี๊ยะเซียะกับรัฐบาลนั้น นายชัยธวัช ยืนยันว่า คงไม่มี ตนคิดว่าเอาการกระทำเป็นข้อพิสูจน์
ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 25 คน พร้อมที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ในการอภิปรายในครั้งนี้ เพราะรัฐบาลปล่อยให้มีการทำลายกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร หรือเรื่องอื่นๆ ที่ มีความไม่เสมอภาค 2 มาตรฐาน
ทั้งนี้จะอภิปรายในประเด็นใดอย่างไรจะต้องทำงานร่วมกัน โดยนำข้อเท็จจริงมาพูดให้ประชาชนได้รับทราบว่า 6 เดือน ที่ผ่านมารัฐบาลมีปัญหาอย่างไร
ขณะที่ตัวแทนพรรคการเมืองฝ่ายค้านพรรคอื่นๆ ต่างยืนยันความพร้อมที่จะร่วมอภิปรายในครั้งนี้
อ่านข่าวอื่นๆ :
เครือข่ายฯ ชุมพร-ระนอง ยื่น 4 กมธ.ตรวจสอบ “โครงการแลนด์บริดจ์” ส่อไม่คุ้มค่า
“แพทองธาร” เยือนกัมพูชา 18-19 มี.ค.นี้ ยันไม่ใช่ตัวแทน “ทักษิณ”