‘แดงเชียงใหม่’ รอรับทักษิณกลับบ้านในรอบ 16 ปี เผยความในใจ เชื่อวิสัยทัศน์ของอดีตนายกฯ ยังมีประโยชน์แก่ประเทศ ดูได้จากนโยบาย 30 บาท ถ้าไม่มีป่านนี้ ชาวบ้านขายนารักษาตัว ฝากถึงคนที่เกลียดเป็นสิทธิ์ คงห้ามไม่ได้ ถามกลับ “ทักษิณโกงอะไร” ไม่มีใครตอบได้สักคน
จากกรณี อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับบ้านเกิดเป็นการส่วนตัว ที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 14-16 มีนาคม 2567 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวระหว่างการได้รับการพักโทษ โดยได้รับอนุญาตจากกรมราชทัณฑ์แล้ว ซึ่งเป็นการเดินทางกลับบ้านเกิดในรอบ 16 ปี ของอดีตนายกฯ การเดินทางกลับครั้งนี้ เป็นการเดินทางกลับ 3 วัน 2 คืน โดยจะเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษ ที่ อ.แม่ออน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ พบปะญาติใกล้ชิด ที่ จ.เชียงใหม่ เป็นต้น และคาดว่าจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมาก รอต้อนรับตามจุดต่างๆ ที่อดีตนายกฯ เดินไปทางเยือน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาส ได้คุยกับ มหวรรณ กะวัง อดีตแกนนำกลุ่มคนรักทักษิณ จ.เชียงใหม่ และอดีตดีเจวิทยุคนเสื้อแดง “นกเสรี” เพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงการกลับมาของอดีตนายกฯ ที่เป็นคนบ้านเดียวกันกับเขา ในรอบ 16 ปี โดยมหวรรณ ยอมรับว่า ดีใจและยินดีอย่างยิ่ง ที่อดีตนายกฯ ทักษิณ เดินทางกลับมายังบ้านเกิด ในอดีตตนเคยรวมกลุ่ม ใช้ชื่อว่า “กลุ่มคนรักทักษิณแห่งประเทศไทย” มานับ 10 ปี เราเคลื่อนไหวด้วยความบริสุทธิ์ใจ ต้องขอย้อนไปในยุคของอดีตนายกฯประเทศเดินไปสู่จุดที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ความเจริญเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยมาก่อน แต่อยู่ดีๆผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ขนาดนี้ คนเลือกเกินครึ่งประเทศ ก็ถูกรัฐประหาร ถูกรังแกจากกลุ่มคนที่พอนับหัวได้ แต่ใช้กำลังและกฎหมายมาตัดสินใจ เรารู้สึกไม่แฟร์ เจ็บปวด และไม่ใช่วิถีประชาธิปไตย
“ถามว่ากลับมาวันนี้ดีใจไหม ดีใจครับ ท่านเปรียบเป็นไอดอลเลยก็ว่าได้ เพราะคนเก่าๆมีไหวพริบแบบนี้ อายุ 75 ดูวิสัยทัศน์ของเขาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผมว่าคนรุ่นใหม่หลายคนยังสู้ไม่ได้เลย สำหรับอดีตนายกฯทักษิณ อายุไม่ใช่อุปสรรค วันนี้ท่านกลับมาแล้ว ผ่านกระบวนการที่หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการใช้ช่องว่างทางกฎหมาย หรือแม้กระทั่งเทียบกันผู้ต้องขังทางการเมืองในปัจจุบัน ผมมองว่ามันเทียบไม่ได้หรอก ดูได้จากหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลอดีตนายกฯในช่วงคุมขัง ก็ออกมาชี้แจงให้สังคมทราบอยู่ตลอด ด้วยเหตุด้วยผล ไม่ได้เลือกปฏิบัติเฉพาะท่านคนเดียวนะ ผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายๆอดีตนายกฯ ก็ได้รับสิทธิที่ีไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ไม่เป็นข่าว ผมติดตามข่าวอยู่ ถ้าจะดูพิเศษกว่าคนอื่น ก็คงเพราะว่าท่านเป็นอดีตผู้นำประเทศ ถูกทำรัฐประหาร และนานาชาติยังให้การยอมรับ ไปไหนก็มีคนต้อนรับขับสู้ นี่เหรอนักโทษ แม้จะถูกกล่าวหาว่าผิด ก็ไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดเอาจนเป็นจนตาย ดังนั้น กระบวนการที่ท่านกลับมาเนี่ย พี่มองว่าเป็นช่องทาง มากกว่า ช่องว่าง ใครที่เจอช่องทางเหมือนท่าน ก็คงใช้สิทธินี้ ไม่ต่างกัน และอดีตนายกฯ ก็ไม่ได้ไปเอาเปรียบใคร” มหวรรณ กล่าว
อดีตแกนนำเสื้อแดงเชียงใหม่ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า และผลสำเร็จหลายอย่าง ที่ยังคงดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน ก็มาจากยุคอดีตนายกฯ ทักษิณ ทั้งนั้น อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค ตนไม่ได้เป็นข้าราชการ แต่ได้อานิสงค์ด้วย เรื่องกองทุนประกันสังคมที่รัฐบาลอดีตนายกฯ มาทำให้ดีขึ้นก็เช่นกัน เอาแค่สองอย่างนี้ ถ้าไม่มีนี่ตาสี-ตาสา ชาวบ้านตาดำๆหมดไร่หมดนา จากการหาเงินรักษาพยาบาลแน่นอน สิ่งเหล่านี้คือความสง่างามของท่านที่ทำมาในอดีต และประชาชนก็ไว้วางใจให้ท่านเข้าไปบริหารประเทศ ในเวลานั้น
ส่วน 2 กระแสความเห็นของคนในสังคม ที่หากทักษิณในอนาคต ควรกลับมาเลี้ยงหลานเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง หรือ จะเป็นที่ปรึกษาให้กับ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันด้วย ตนรู้สึกอย่างไร มหวรรณ ตอบว่า ถ้าเป็นที่ปรึกษา ถ้าเขาไม่ให้ปรึกษา ก็ทำอะไรไม่ได้ ถูกต้องไหม เดี๋ยวนี้ั ถ้าเป็นที่ปรึกษา ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งเป็นทางการ มันสมองอย่างท่าน หายากมาก ตอนท่านถูกทำรัฐประหาร และยึดทรัพย์ไปหลายหมื่นล้าน ระหกระเหินอยู่ต่างแดน ท่านสร้างทรัพย์สมบัติขึ้นมาใหม่ จนเกินกว่าเงินที่ถูกยึดอีกด้วยซ้ำ ถามว่า คนไทยสักกี่คน ที่มีความรู้-ความสามารถ และ ไหวพริบ ขนาดนั้น แต่หากวันนี้ นายกฯเศรษฐา จะเชิญอดีตนายกฯ ทักษิณ มาเป็นที่ปรึกษา ไม่อยากให้เป็นข่าวหรอก อยากให้คุยกันเอง และถ้านายกฯเศรษฐา ซื้อไอเดีย และนำไปใช้หรือไม่ ก็สุดแท้แต่ ท่านกลับมาวันนี้ อายุจะ 75 แล้ว ก็คงอยากหาความสุขให้ตัวเองมากกว่า ส่วนตำแหน่งที่เป็นประเด็นทางการเมือง ไม่อยากให้รับ คนที่จะเกลียด ยังไงมันก็เกลียด คนที่ยังศรัทธาอยู่ ก็ยังมี แม้ว่าจะถูกดำเนินคดีไปหลายคดี มีทั้งยกฟ้อง และต้องกลับมาเข้ากระบวนการ และยังโชคดี ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ทำให้เบาบางลงได้ และเชื่อว่า ท่านน่าจะมีไอเดีย ในการใช้ชีวิต และอยู่กับประเทศชาติ อย่างมีประโยชน์ที่สุด
ส่วนจะฝากอะไร ถึงคนที่เคยเกลียดอดีตนายกฯ มากว่า 20 ปี รวมถึงคนที่เคยรักฝากความหวังไว้ในอดีต และกลับมาไม่ชอบในปัจจุบันหรือไม่นั้น มหวรรณ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคนเสื้อแดงและคนที่สนับสนุนอดีตนายกฯ มีกว่าครึ่งประเทศ เราเคยออกไปเคลื่อนไหว เคยเคลื่อนจากเชียงใหม่เข้ากรุงเทพฯ และมีคนต้อนรับตลอด 2 ข้างทาง ในปี 2553 เราเคยได้เสียงเด็ดขาดมากๆ ในการเลือกตั้ง 2544 และ 2548 แต่ถูกทำรัฐประหารในที่สุด จึงอยากฝากที่เคยเกลียดอดีตนายกฯว่า อย่านำพาไปสู่ที่ใช้วิธีแบบที่เคยเกิดขึ้น เพราะบ้านเมืองบอบช้ำมามากพอแล้ว ส่วนเกลียดแล้วจะให้เปลี่ยนใจมา มันก็คงจะยาก คนที่เขาฝังใจ ถูกป้อนข้อมูลอีกด้าน ว่าเขาโกงแบบนั้นแบบนี้ ตนเคยถามกลับหลายรอบกับคนที่กล่าวหาว่าทักษิณโกงว่า “เขาโกงตรงไหน” ไม่มีใครตอบได้สักคน ได้แต่ตอบว่า ก็แค่รู้ว่าเขาโกง แต่เรายอมรับความเห็นต่าง ยุคสมัยแดงเหลือง เรามีเพื่อนอีกฝ่ายเยอะ เราก็จะไม่คุยเรื่องการเมือง เมื่อถามว่า ปัจจุบันนี้ มีเพื่อนเป็นสีส้มด้วยนะ มหวรรณ ตอบกลับทันที มันก็เป็นสิทธิ์ของเขานะ แต่บางคนนี่เมื่อก่อนเวลารักและศรัทธานี่โอ้โห ปานจะแหกตูดดม แต่มาถึงเวลาปัจจุบัน ด่าเช้าด่าเย็น ซึ่งมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เราก็ทำดีที่สุด และทำให้เห็นว่า มันก็ไม่ได้เป็นเหมือนที่เขาว่า และก็ทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง สุดท้ายเขาก็จะยอมรับเอง เราเคยอยู่ภายใต้เผด็จการที่เราทำอะไรไม่ได้เลยน มากกว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ แต่วันนี้ เรากลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย แม้จะยังไม่ 100% เราก็ต้องยอมรับ นี่ก็ดีกว่าสิ่งที่เราเกลียดในยุคก่อน ตอนนี้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ก็อยากให้บริหารประเทศให้เต็มที่ และเชื่อว่ากำลังเต็มที่ และเชื่อว่า ในอนาคต อดีตนายกฯ คงได้แชร์ไอเดียกับ นายกฯ เศรษฐา และ แพทองธาร โดยเฉพาะคุณอิ๊งค์ ได้ไอเดียดีๆจากคุณพ่อ มีหรือจะไม่เอา
“สุดท้าย เราคนไทยเหมือนกัน คุยและเคารพกันด้วยเหตุด้วยผลดีกว่า ไม่จำกัดสิทธิ์ ใครจะรัก ใครจะเกลียดทักษิณ ผมไม่มีปัญหา แต่สำหรับผมยังมั่นคงด้วยเหตุด้วยผล ยังเชื่อมั่นว่า ท่านมีสติปัญญา ในการเอามาพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป และตนจะไปรอต้อนรับอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่กลับมาเชียงใหม่ อย่างแน่นอน แม้จะไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองไหนก็ตาม ตนเตรียมบางสิ่งบางอย่างไปมอบให้ เพื่อให้ท่านรู้ว่า ยังรักและศรัทธาท่านอยู่ ตั้งใจจะไป แต่ขอดูกำหนดการชัดเจนก่อน แค่ไปยืนและเรียกหาท่าน และทักทายกันก็ยังดี พร้อมกับบอกว่า ผมยังรักและศรัทธาท่านเหมือนเดิม” มหวรรณ กล่าวปิดท้าย