วันนี้ (19 มี.ค.2567) นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีประเทศญี่ปุ่น ส่งสัญญาณในการทบทวนมาตรการฟรีวีซาไทย หลังนักท่องเที่ยวลักลอบเป็นแรงงานผิดกฎหมาย หรือผีน้อยญี่ปุ่น ว่า ได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานทูตญี่ปุ่นแล้วได้อธิบายว่าต้องแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยที่ไปแล้วอยู่ตามกำหนด ซึ่งมีประมาณเกือบล้านคนต่อปี ทางญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญ และนำข้อมูลที่ กต.จะส่งให้ไปพิจารณาด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คนอยู่เกินกำหนด
เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยกับนายพิพัฒน์ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงานหรือไม่ นายจักรพงษ์ ระบุว่า กำลังคุยกันอยู่ และทราบว่ากำลังจะไปญี่ปุ่น หลังจากนี้ก็คงต้องคุยกันว่าจะมีวิธีการอย่างไร ในการช่วยเหลือแรงงานไทย ที่ทำงานที่ญี่ปุ่นจริง ๆ เพื่อที่เขาจะได้ไปอย่างถูกกฎหมาย และได้รับสวัสดิการ
ชี้ทบทวนฟรีวีซาทุก 3 ปี
ส่วนการทบทวนฟรีวีซา ที่จริงแล้วมีการพิจารณาทุก 3 ปี เหมือนกับที่เราทำฟรีวีซา ให้กับประเทศต่าง ๆ ที่ทุก ๆ 3 ปี จะต้องกลับมาพิจารณาเรื่องความคุ้มค่า และปัญหาต่าง ๆ เพื่อที่จะได้คุยกับทางประเทศนั้น ๆ ว่าจะมีการพัฒนาร่วมกันอย่างไร และมีอะไรที่ต้องจัดการบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่าทางสถานทูตไทยที่ประเทศญี่ปุ่นเคยออกประกาศเตือนแรงงานไทยที่ยังลักลอบอยู่เกินกำหนด จะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายจักรพงษ์ ระบุว่า ต้องเอาข้อมูลมานั่งดูกันว่ามีกลุ่มไหนเสี่ยงบ้าง แต่เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคล จึงต้องค่อย ๆ พิจารณาว่าจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้มากน้อยเพียงใด กรณีของประเทศญี่ปุ่น แตกต่างจากกรณีแรงงานที่ลักลอบทำงานในเกาหลี
ขณะที่ฟรีวีซาประเทศฟินแลนด์ สำหรับแรงงานไทยที่เข้าไปเก็บเบอร์รี่ นายจักรพงษ์ กล่าวว่า กรณีประเทศฟินแลนด์ไม่ใช่ฟรีวีซา แต่เป็นการให้คนไทยเข้าไปเก็บเกี่ยวเบอร์รี่ และด้วยความที่ประเทศฟินแลนด์ ไม่ได้มีเรื่องของวีซ่าแรงงานกับไทย
ดังนั้นทำให้แรงงานไทยเข้าไป โดยใช้วีซานักท่องเที่ยว ทำไม่ให้มีเรื่องสิทธิการคุ้มครองแรงงาน และมีเรื่องของการโดนหลอกเข้าไปด้วย เรื่องนี้จะต้องคุยกับรมว.แรงงานต่อว่าจะทำอย่างไร เพราะว่าการที่คนไทยเข้าไปจะต้องได้รับการคุ้มครอง และได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับแรงงานทั่วไป
อ่านข่าวอื่นๆ
“หมอชลน่าน” ยันไม่ใช่ข้อมูลรพ.สังกัด สธ.หลุด 2.2 ล้านชื่อ
ครม.สัญจร พะเยาฝนตก “พัชรวาท” บอก “ไม่มีฝุ่นแล้ว”