จากกอดเอวชื่นมื่น หลังปรากฏภาพสยบรอยร้าวปมดรามาครั้งแรก ระหว่าง “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กับ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังทั้งคู่เพิ่งตั้งโต๊ะคู่แถลงเคลียร์ใจจบปมร้าว ไม่ถึง 2 ชั่วโมง
กลายเป็นกอดคอเด้งเข้ากรุ เมื่อ “ฟ้าผ่า” เปรี้ยง ลงใจกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่ามกลางพายุฤดูร้อนที่ถล่ม กทม.เช้านี้ เมื่อมีคำสั่งตรงจากทำเนียบรัฐบาลว่า “นายกฯนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” เข้ามาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รักษาการแทน และเรียกเข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลทันที
ยังไม่ทราบเรื่อง และยังไม่เห็นหนังสือคำสั่งดังกล่าวก่อน เมื่อถามว่าเป็นผลจากการแถลงข่าวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือไม่นั้น ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า ไม่ทราบ บิ๊กต่อ ตอบคำถามสั้นๆ
อ่านข่าว สยบร้าว! “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” ตั้งโต๊ะเคลียร์ ส่งป.ป.ช.สางคดีเว็บพนัน
หากไล่เรียงเหตุการณ์หลังทั้งคู่ นั่งโต๊ะคู่เคลียร์ “รอยร้าว” ระหว่างพี่กับน้อง ปมเว็บพนันออนไลน์ ที่กลายเป็นชักศึกเข้ากรมปทุมวันต่อเนื่องมานานกว่า 5 เดือน ยิ่งสาวยิ่งเจอตอจนต้องทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ด้วยการจูงมือกันไปพบ “นายกรัฐมนตรี” ก่อนจะกลับมาแถลงข่าวชื่นมื่นเกือบ 1 ชั่วโมง
คนที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นระดับ ผบ.ตร.คุณธรรมต้องมานำ ถ้าไม่มีคุณธรรม ฟ้าดินไม่ให้มาเป็นหรอก
ส่วน “บิ๊กโจ๊ก” ยืนยันเรื่องจะไม่มีการเอาคืน ทุกคนทำตามหน้าที่ และต้องเสียสละเรื่องราวในอดีตวันนี้ใครจะผิดจะถูกต้องเซ็ตซีโร่ใหม่ และเดินหน้าทำงานและทุกอย่างต้องจบบนโต๊ะพร้อมระบุว่า
เหลือชีวิตราชการอีก 7 ปีคงไม่มีใครขัดแย้งกันจนเกษียณ ใช้วิธีการคุยทีเดียวแบบลูกผู้ชายต้องจบ อำนาจไม่ได้อยู่นาน ต้องให้อภัย จะจบกันได้ด้วยดี แต่คดีก็ต้องเป็นคดีไป
หลังเคลียร์ใจทั้ง บิ๊กต่อและบิ๊กโจ๊ก ต่างก็โผเข้ายกมือขอโทษขอโพยกัน ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พร้อมตบท้ายด้วยท่าโอบเอวสยบทุกดรามา
งานนี้ยังต้องจับตาแรงกระเพื่อมที่กรมปทุมวัน หลังมีชื่อ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ นั่งรักษาการณ์ “บิ๊กตำรวจ” แบบยาวๆ จนถึงเดือน ก.ย.นี้หรือไม่ พรุ่งนี้ (21 มี.ค.) นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.คงมีคำตอบ พร้อมทั้งลุ้นว่าอายุราชการ 194 วันที่เหลือของ “บิ๊กต่อ” จะจบสวยที่กรมปทุมวัน หรือทำเนียบรัฐบาล
อ่านข่าว ลือสะพัด “เศรษฐา” สั่งย้าย “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” ช่วยราชการสำนักนายกฯ
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันคำสั่งให้ย้ายทั้ง 2 บิ๊กตำรวจมาช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่การลงโทษ แต่เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการที่มีความเป็นกลาง ชี้ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ หากปราศจากมลทินสามารถกลับมาทำหน้าที่ได้อย่างสง่างาม โดยคาดว่าจะไม่เกิน 60 วัน
เข้าสู่กระบวนการนัดแรกในศาลรัฐธรรมนูญ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นขอให้พิจารณาสั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคตาม พ.ร.ป.ว่าพรรคการเมืองมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) ปมล้มล้างการปกครอง และมาตรา 112
วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคำร้อง แล้วมีความเห็นว่า ยังมีเอกสารบางรายการไม่ชัดเจน จึงให้ผู้ร้องส่งเอกสารฉบับที่ชัดเจนต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในกำหนดระยะเวลา 7 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ
ส่วนคดีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐ ธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคเพื่อไทย ตามคำแถลงการณ์ของนายชัยเกษม นิติสิริ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2564 เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรการ 112 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย จบไปอีกเปราะ
ส่วนคนไทยเตรียมพบกับ “โก้ เมืองเพชร” และควายยักษ์อีก 4-5 ตัว ไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และประชาสัมพันธ์ควายพันธุ์ไทยช่วง 13-14 เม.ย.นี้
อ่านข่าว “โก้ เมืองเพชร” ควายเผือกเข้าทำเนียบฯ ขอดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์
ประเด็นร้อนประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ปรีติ เจริญศิลป์ สส.นนทบุรี พรรคก้าวไกล ตั้งคำถาม “เศรษฐา” มีรถหรูหลายคัน แต่ยังให้รัฐจัดหารถในยี่ห้อเดียวกัน แต่คนละสีให้อีก ซึ่งค่าเช่ารถประจำตำแหน่งเดือนละ 136,500 บาท มากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ
แถมยังมีการตั้งงบค่าตอบแทนเหมาจ่าย แทนการจัดหารถประจำตำแหน่งอีกปีละกว่า 2 ล้านบาท จึงอยากรู้ว่างบส่วนนี้เข้ากระเป๋าใคร โดยย้ำว่าไม่ได้ต้องการเรียกร้องให้เพิ่มค่ารถให้ สส.แต่อยากให้นายกรัฐมนตรี เป็นตัวอย่างที่ดีกับข้าราชการระดับสูงทั่วประเทศ
อ่านข่าว ศาล รธน.ยังไม่รับคำร้องยุบ “พรรคก้าวไกล” ให้ กกต.ส่งเอกสารเพิ่ม ใน 7 วัน
ปิดท้ายกับทุกข์คนภาคเหนือที่ต้องจมฝุ่นพิษ PM 2.5 ในช่วงฤดูร้อนจากปัญหาการเผาพื้นที่เกษตร การเผาเก็บหาของป่า และหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน มีพายุฤดูร้อนมาช่วยบรรเทาได้สัก 2-3 วัน