วันนี้ (20 มี.ค.2567) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2567 ในวาระที่สอง มาตรา 17 งบประมาณกระทวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จำนวน 15,025 ล้านบาท
นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี สส.นครสวรรค์ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ในฐานะอนุกรรมาธิการฯ มีข้อสงสัยหน่วยงานในทส.2 หน่วยงาน คือ สำนักนโยบายแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งได้รับงบประมาณ 1,002.5 ล้านบาท เป็นงบดำเนินการ 152 ล้านบาท งบลงทุน 45 ล้านบาท งบอุดหนุน 760 ล้านบาท งบรายจ่าย 43 ล้านบาท
โดยตั้งข้อสังเกตงบประมาณ 24.61 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบเบี้ยประชุม กรรมการ อนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม คณะกรรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เนื่องจากในรายงานไม่มีรายละเอียดจำนวนครั้งในการประชุมจึงเข้าไปดูในรายงานประจำปีของหน่วยงานนี้ในปี 2565
พบว่ามีการประชุมเพื่อพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) จำนวน 725 ครั้ง และมีการประชุมรวม 230 ครั้ง หมายความว่าใช้งบประมาณเฉลี่ยในการประชุมครั้งละ 100,000 บาทต่อครั้งต่อวัน
ผู้ที่มาชี้แจงได้ทราบว่ามีค่าเบี้ยประชุมสูงถึง 2,500-10,000 บาทต่อคนต่อวัน ในอนุกรรมการฯ เบี้ยประชุมเพียง 800 บาทต่อคนต่อวัน น่าจะประหยัดได้ 50% หากใช้งบอย่างเหมาะสมในการประชุม
กังขางบสร้างพิพิธภัณฑ์สูงกว่าอาคารอื่น 4 เท่า
นายกฤษฐ์หิรัญ กล่าวอีกว่า ส่วนอีกหน่วยงานคือสำนักงานปลัด ทส.ได้รับงบ 1,682 ล้านบาท เป็นงบดำเนินงาน 133 ล้านบาท งบลงทุน 592 ล้านบาท มีการปรับลดชั้นกรรมาธิการฯ เพียง 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบระบบคอมพิวเตอร์ แต่มีโครงการหนึ่งซึ่งเป็นงบผูกพันปี 2566-70 ใช้ชื่อแผนอย่างสวยหรูว่าแผนงานพื้นฐานด้านการจัดการสร้างการเติบโต บนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ความรู้เรื่องไม้มีค่า เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเฉลิมพระเกียรติอันเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
โดยจากการชี้แจงอนุกรรมาธิการฯ แบ่งเป็น 2 โครงการเฟสแรก เป็นงานก่อ สร้างพิพิธภัณฑ์ 1,230 ล้านบาท ก่อสร้างเฉพาะอาคาร ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 21 ล้านบาท เห็นชื่อโครงการนี้จากข่าวเมื่อเดือน มิ.ย.2566 ว่ามีมูลค่าการก่อสร้าง 2,000 ล้านบาท ในพื้นที่ 2,550 ตร.ม.ประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ ตร.ม.ละ 81,000 บาท
แพงกว่าการก่อสร้างอาคารทั่วไป 4 เท่า เปรียบเทียบกับโครงการที่ใกล้เคียงกัน เป็นอาคารห้างสรรพสินค้าที่มีค่าก่อสร้าง 21,000 บาทต่อ ตร.ม. ถือว่าแพงมาก
นายกฤษฐ์หิรัญ อภิปรายต่อว่า โครงการนี้อนุมัติตั้งแต่ปี 2557 ตั้งแต่หลังการรัฐประหารใหม่ ๆ รัฐบาล คสช.ได้อนุมัติโครงการนี้ และมีมติ ครม.4 ม.ค.2565 ให้ทส. เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ จากนั้นครม.อนุมัติงบ 4,055 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้าง เป็นงบผูกผันปี 66-70 และมีความสงสัยว่าการประมูลก่อสร้างครั้งนี้โปร่งใสหรือไม่
เนื่องจากพบว่าผู้รับจ้างก่อสร้างอาคารรายนี้ รับงานก่อสร้างจากหน่วยงานรัฐจำนวนมากกว่า 1,529 โครงการหรือ 1,460 ล้านบาทใน 7 ปี แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอาจจะเป็นเพราะความสามารถของผู้บริหารโครงการ
แต่ข้อมูลที่ได้รับเพิ่มเติม เฉพาะใน กทม.มี 181 โครงการจากทั้งหมด 888 โครงการที่บริษัทนี้ได้รับไป สังเกตว่ามีความปกติกว่า 1 ใน 5 จึงฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย อีกทั้งพบว่าบริษัทนี้ไม่ได้ซื้อซองเข้าเสนองาน แต่ได้งานในช่วงปี 2562-63 จำนวนมาก
ขอให้ทบทวนปรับค่าก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ในเฟสที่ 2 เน้นการตกแต่งภายในอยากให้ใช้งบปที่เหมาะสมมากกว่านี้ และยืนยันให้ปรับลดงบ 67 มาตรา 17 ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรฯ ทั้งหมด 10% ของโครงการ
อ่านข่าว เกณฑ์ทหาร 2567 เช็กวัน รายละเอียด ขั้นตอนการตรวจเลือกทหาร
ติงแก้ฝุ่นอืด-เทงบภัยแล้งไม่ตรงจุด
ด้านนายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ทส.ไม่ให้ความสำคัญ ทำให้ปัญหาความรุนแรงขึ้น รวมถึงการเกลี่ยงบภายในหน่วยงานที่ไม่เป็นธรรม ไม่ให้งบประมาณอย่างเพียงพอกับหน่วยงานที่มีหน้าที่แก้ปัญหาภัยแล้งว่า งบกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ถูกปรับลดลงเหลือ 870 ล้านบาท ถูกตัดทิ้ง ทั้งที่ประเทศมีวิกฤติเรื่องน้ำ แต่กลับไม่ติดอาวุธให้หน่วยงาน
ขณะที่งบกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม มีความทับซ้อนกับกรมควบคุมมลพิษ มีแต่งบงานอีเวนต์เป็นตัวตั้ง ที่ไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ควรเน้นเป้าหมายบรรลุยุทธศาสตร์ในการลดก๊าซเรือนกระจกให้ชัดเจน
อ่านข่าว ไขคำตอบ “กลิ่นไหม้” คลุมกทม.อันตรายหรือไม่
กังขาเทงบกรมอุทยาน 5,600 บาท
ขณะที่นายจักรวาล ชัยวิรัตน์กูล สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ทส. เกลี่ยงบไม่สมดุล กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้งบ 5,600 ล้านบาท ทั้งที่มีรายได้จากการเก็บค่าเข้าอุทยานมากอยู่แล้ว มีรายได้ต่อปี 1,000 ล้านบาท
แต่กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ที่มีส่วนสำคัญแก้ปัญหาภัยแล้ง กลับได้รับงบประมาณไม่เพียงพอ อย่างกรมป่าไม้ มีอุปกรณ์ดับไฟป่าแค่ไม้กวาด เครื่องเป่าลม ควรได้รับงบเพิ่มเพื่อไปซื้ออุปกรณ์ดับไฟป่าที่ทันสมัย
ส่วนนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ.ชี้แจงว่า ทส. ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 แก้ไขปัญหาอยู่ตลอดเวลา แต่เรื่องฝุ่น PM2.5 เป็นเรื่องส่วนรวม ประชาชนต้องให้ความร่วมมือ ถ้าให้เป็นหน้าที่ของทส.เพียงอย่างเดียว การแก้ปัญหาจะใช้เวลานาน
หลังจาก สส. อภิปรายมาตรา 17 ครบถ้วน แล้วที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตราดังกล่าวตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก
อ่านข่าวอื่นๆ
ตะลึงพบ “ฉลามผี” สายพันธุ์ใหม่ทะเลอันดามันนอกชายฝั่งไทย
เปิดชีวิตบนปากจระเข้ “สุเมธ ทองคำม้วน” 30 ปี กับบาดแผล 500 เข็ม