หน้าแรก Thai PBS “ภูมิใจไทย” เปลี่ยน กก.บห.พรรคชุดใหม่ ชู “เจนฯใหม่ บ้านใหญ่” นำพรรค

“ภูมิใจไทย” เปลี่ยน กก.บห.พรรคชุดใหม่ ชู “เจนฯใหม่ บ้านใหญ่” นำพรรค

49
0
“ภูมิใจไทย”-เปลี่ยน-กกบห.พรรคชุดใหม่-ชู-“เจนฯใหม่-บ้านใหญ่”-นำพรรค

วันนี้ (24 มี.ค.2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นำทีมกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แถลงข่าวหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 และเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยนายอนุทิน ระบุว่าการประชุมใหญ่ครั้งนี้ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญ ของพรรคที่เห็นตรงกันว่าถึงเวลาแล้วที่พรรคภูมิใจไทยจะต้องมีการปรับและเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหาร

รวมถึงแนวทางในการดำเนินงานของพรรคให้ตอบสนองต่อความต้องการและแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน พรรคภูมิใจไทยต้องนำเทคโนโลยีด้านดิจิทัล มาใช้ติดตามการทำงานเพื่อแก้ปัญหาของประชาชน ให้รวดเร็วที่สุด

ต้องเติมความพร้อมให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องประสบปัญหาซ้ำซาก ในทุกปีต้องแก้ปัญหาก่อนที่ปัญหาจะเกิด ทำงานเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ ถ้าใช้เทคโนโลยีทันสมัย พรรคภูมิใจไทยมั่นใจว่าจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้รวดเร็วมากขึ้น

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้พรรคภูมิใจไทยมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ซึ่งได้รับการลงมติคัดเลือกจากสมาชิกพรรคภูมิใจไทย รวม 16 คน ในโอกาสที่พรรคเข้าสู่ปีที่ 16 ซึ่งหัวหน้าพรรค คือ นายอนุทิน มีรองหัวหน้าพรรค 3 คน คือ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล สส.พระนครศรีอยุธยา นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง และนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

อ่านข่าว : นายกฯ​ ตรวจพื้นที่​ “โคกหนองรังกา” คาดดึงดูดนักท่องเที่ยว 2.6 ล้านคน

นายอนุทิน กล่าวว่านายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นคนเข้าใจปัญหาของประชาชน และมีข้อได้เปรียบ คือ มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่จะคอยดูแล สนับสนุนให้ข้อเสนอแนะ เช่นเดียวกับรองเลขาธิการ 3 คน คือนายคือ นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี นายภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ สส.พิจิตร และ น.ส.พิมพฤดา ตันจรารักษ์ สส.พระนครศรีอยุธยา โดยทำงานร่วมกับตน และเลขาธิการพรรค ขณะที่ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี เป็น เหรัญญิกพรรค น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นนายทะเบียนพรรค

ส่วนกรรมการบริหารอีก 6 คน คือ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล นายชลัฐ รัชกิจประการ สส.บัญชีรายชื่อ นายธนยศ ทิมสุวรรณ สส.เลย นายจักรกฤษณ์ ทองศรี สส.บุรีรัมย์ และนายกิตติ กิตติธรกุล สส.กระบี่

นอกจากนี้นายอนุทิน ยังใช้อำนาจหัวหน้าพรรคแต่งตั้งทีมโฆษกพรรค จำนวน 3 คน โดยเป็นโฆษกพรรค 2 คน ได้แก่ น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา ส่วน น.ส.ผกามาศ เจริญพันธ์ สส.สุรินทร์ เป็น รองโฆษกพรรค

อ่านข่าว : “เศรษฐา” ขอบคุณสภา เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ​

นายอนุทิน กล่าวว่า ในปีที่ 16 ของพรรคภูมิใจไทย ได้รับความไว้วางจากประชาชนต่อเนื่อง มีบทบาททางการเมือง ทั้งการบริหาร และนิติบัญญัติ ซึ่งในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา และการเลือกตั้งทุกครั้ง พรรคฯ จะมี สส.เข้ามาทำหน้าที่เพิ่มขึ้น และค่อย ๆ เติบโตจากการทำงานหนัก และได้รับความไว้วางใจของประชาชน

การเติบโต ก็เป็นการเติบโตด้วยผลงาน ไม่ใช่โตตามกระแส จนปัจจุบันพรรคฯ มี สส.ทั้งสิ้น 71 คน จากทั่วทุกภาคของประเทศ และจะพยายามอย่างเต็มที่ ให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุด และได้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการทำงานของพรรค

ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศเจริญก้าวหน้าทุก ๆ ด้าน พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคการเมือง ที่ธำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตริย์ทรงเป็นประมุข เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นนโยบายหลัก และภารกิจของหลักของสมาชิกพรรคฯ ทุกคน และพรรคภูมิใจไทย ยังเป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในคำพูด แม้จะเป็นนโยบายที่ยาก แต่พรรคฯ ก็จะทำให้ได้ รวมถึงเป็นพรรคการเมืองของประชาชน ที่พร้อมปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของประชาชน และยุคสมัยด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ

นายอนุทิน ยังกล่าวว่า การประชุมใหญ่พรรคฯ ในวันนี้ ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ที่เห็นตรงกันว่า ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหาร และแนวทางการดำเนินงานพรรค เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่มีปัจจัยซับซ้อน ผ่านกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่มีประสบการณ์ และมีแบ็กดี ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์พรรคภูมิใจไทย แต่นโยบาย จิตวิญญาณ และค่านิยม ในการทำงานรับใช้ประชาชนของพรรคภูมิใจไทย ยังไม่เปลี่ยนแปลง และจะเพิ่มเข้มข้นมากขึ้น

อ่านข่าว : “ก้าวไกล” ส่ง “พันธุ์อาจ ชัยรัตน์” ชิงนายก อบจ.เชียงใหม่

นายอนุทินยังขอให้ประชาชน เชื่อมั่นในพลังคนรุ่นใหม่ของพรรคภูมิใจไทย ที่แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่มีคุณสมบัติพร้อมรับใช้ประชาชน ทั้งการศึกษา ความทุ่มเท ความเสียสละ ความตั้งใจ และประสบการณ์ที่ผ่านมาทำงานมาแล้ว ใกล้ชิดประชาชน ใกล้ชิดพื้นที่ รู้วิธีทางการเมือง และกลยุทธ์การเมือง เพรียบพร้อมด้วยประสบการณ์ และพร้อมสร้างระบบการเมืองของประเทศให้เข้มแข็ง ยั่งยืน ตามแนวโน้มการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลก จึงถือเป็น “เจนใหม่ บ้านใหญ่” และพร้อมพัฒนาประเทศ พร้อมรับใช้ประชาชน ด้วยความทุ่มเท เสียสละ และยั่งยืน

ส่วนโอกาสของพรรคภูมิใจไทยในการเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ เพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในอนาคตนั้น นายอนุทิน ระบุว่า พรรคเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และสมาชิกพรรคทุกคน มีสายเลือด และเป็นนักการเมืองโดยจิตวิญญาณ มีความสุขที่ได้อยู่ในพื้นที่พบปะประชน และมั่นใจในนโยบายของพรรค ซึ่งการทำงานของพรรคฯ ก็ยังเป็นตัวของตัวเอง เป็นมืออาชีพร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อผลักดันประโยชน์สูงสุดของประชาชน และให้ประชาชน เกิดความมั่นใจได้ว่า พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ ตามนโยบาย สามารถจับต้องได้ เกิดประโยชน์ ไม่เป็นสัญญาลม ๆ แล้ง ๆ และพรรคฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วผ่านการเลือกตั้งของพรรคฯ

ส่วนใหญ่คนรุ่นใหม่ที่มาทำงานพรรคครั้งนี้นับเป็นการถ่ายเลือดใหม่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่แต่เป็นการผลักวิตามิน และยังยอมรับด้วยว่า ในการปรับคณะรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ มีโอกาสเป็นรัฐมนตรี เพราะพรรคภูมิใจไทย ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อถึงเวลา จึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล

อ่านข่าว : “อนุทิน” ขนทัพ สส.บุกศรีสะเกษ ชี้สัญญาณบวกเปิดเขาพระวิหาร

ส่วนผู้อาวุโสในพรรคน้อยใจหรือไม่ ที่มีคนรุ่นใหม่มาเป็นกรรมการบริหารพรรคนั้น นายอนุทิน ระบุว่า กรรมการบริหารพรรคฯ ชุดใหม่ ถือเป็นผลผลิตของอาวุโสในพรรค ซึ่งเป็น ”เจนใหม่ บ้านใหญ่” คนรุ่นใหม่เหล่านี้ไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ เพราะผู้อาวุโส มีทั้งประสบการณ์ และบารมี แต่การบริหารงานแบบใหม่ให้ประสิทธิภาพ จะต้องเปลี่ยนแปลงในขณะที่พรรคฯ ยังแข็งแรง ไม่รอให้หมดอายุ เหมือนที่ตนได้เตือน สส.ในพรรคฯ ทุกคนว่า อย่าไปหาประชาชน เมื่อใกล้การเลือกตั้ง ดังนั้น พรรคฯ จึงต้องเร่งเปลี่ยนแปลง ในขณะที่พรรคกำลังแข็งแรง มีบทบาทในการบริหารราชการแผ่นดิน และบริหารประเทศ

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังยืนยันว่า กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ผ่านบทบาททางการเมืองมาแล้ว ไม่ใช่เด็กฝึกงาน และหลายคนได้รับการเลือกตั้ง สส. จึงถือว่า ผ่านบทพิสูจน์ที่ยาก ดังนั้น จึงสามารถทำงานได้ทันที และยอมรับว่า สักวันหนึ่งตนเอง ก็จะต้องอยู่ร่วมกับกรรมการบริหารพรรคชุดเก่า เพื่อให้คำแนะนำ และให้กำลังใจแก่คนรุ่นใหม่ พร้อมมั่นใจว่า การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ จะราบรื่น เพราะยังมีตนเองเป็นหัวหน้าพรรคฯ ที่ปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ และความเชื่อของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ด้วย

อ่านข่าว : “อนุทิน” จี้ 4 จว.ภาคเหนือ เคาะแผนงบฉุกเฉิน จว. 50 ล้าน

ด้านนายไชยชนก เลขาธิการพรรคคนใหม่ ตอบคำถามสื่อในฐานะแม่บ้านพรรคคนใหม่ มีแผน วางทีมวางฟอร์มไว้อย่างไรว่า การเปรียบเทียบตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็นแม่บ้านพรรคถือเป็นอะไรที่เหมาะสม ถามว่ายากไหมจะทำอย่างไร ตนบอกเลยว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีแม่บ้านพรรคเพียงคนเดียว มีหลายท่าน ที่ร่วมด้วยช่วยกันมาโดยตลอด มีบ้านรกและมีสิ่งที่พัฒนาแต่ถ้าทุกคนช่วยกันเก็บช่วยกันปรับปรุงงานแม่บ้านพรรคก็ไม่หนัก

ส่วนจะทำอย่างไรให้เป็นพรรคขนาดใหญ่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็เติบโตขึ้นมา ทุกครั้งท่ามกลางการทำงานที่หนักหน่วง ให้เกิดประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ ประชาชน เกิดความมั่นใจว่าภูมิใจไทยพูดแล้วทำ จับต้องได้ไม่ใช่เรื่องที่เป็นสัญญาลมๆแล้งๆ ภูมิใจไทยจะพิสูจน์ให้เห็น

อ่านข่าว : เขย่าให้แน่น “อนุทิน” ลั่นเก้าอี้ภท.ไม่หลุด-ไร้ปรับครม.

ส่วนกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค บ้านใหญ่ชิดชอบ คนที่ 2 ที่ได้นั่งตำแหน่งนายเนวิน ชิดชอบ ให้คำแนะนำอย่างไร และที่ผ่านมาคนเข้าใจว่าล็อกไว้ให้ตระกูลชิดชอบ นายไชยชนก ระบุ ปฏิเสธไม่ได้เรื่องการล็อกเก้าอี้ แต่จะมองว่าการที่ตนเป็นลูกของพ่อ หลานของปู่ มีโอกาสมีความคาดหวังโดยสมาชิกพรรค และประชาชน ในการมีตำแหน่งในพรรค ก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่การเป็นหลานปู่ หลานอา ลูกพ่อ ประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างที่เติบโต เป็นประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เรียนรู้ เข้าใจได้เร็วพอสมควรในการที่จะเตรียมตัวเองให้เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ให้มากขึ้นเรื่อย ๆ

คิดยังไงคนมองยังไงไม่ผิด แต่ไม่ได้มีความคิดที่บวกหรือลบเกี่ยวกับมัน ในความเป็นทายาทมีมุมบวกค่อนข้างเยอะ แต่ก็อยู่ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองและเป็นหน้าที่ของประชาชน และสมาชิกที่จะต้องตัดสินกับผลงาน ที่ไม่ใช่เพราะตนแต่เป็นทุกคน ที่จะทำในอนาคต

ส่วนจะมีอำนาจตัดสินใจ ในพรรคหรือไม่ นายไชยชนกหัวเราะ แต่นายอนุทิน ยืนยันว่า มีสิทธิตัดสินใจ รวมถึงทุกคนที่นั่งอยู่ เป็นกรรมการบริหารชุดใหม่ ทั้งร่วมการตัดสินใจในการทำงานพรรคภูมิใจไทย

นายไชยชนก ย้ำว่าการทำงานของพรรคภูมิใจไทยในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงตัดสินใจในวันนี้หรืออนาคตล้วนผ่านกระบวนการ การศึกษาเจอกันกับทางสมาชิก เก่าใหม่ กรรมการบริหารพรรคเก่าใหม่ ไม่ได้คิดกันเอง เราทำงานกันเป็นทีม

อ่านข่าวอื่น ๆ 

“อนุทิน” แจงงบฯ มท.เทให้การสร้างโอกาส-ความเสมอภาค 3.7 แสนล้าน 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่