หน้าแรก Thai PBS กกต.จับตา “ทักษิณ” เข้าเพื่อไทย – “เรืองไกร” ชี้หากแทรกแซงถึงขั้นยุบพรรค

กกต.จับตา “ทักษิณ” เข้าเพื่อไทย – “เรืองไกร” ชี้หากแทรกแซงถึงขั้นยุบพรรค

55
0
กกต.จับตา-“ทักษิณ”-เข้าเพื่อไทย-–-“เรืองไกร”-ชี้หากแทรกแซงถึงขั้นยุบพรรค

วันนี้ (25 มี.ค.2567) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เปิดเผยถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปพบปะกับสมาชิกพรรคเพื่อไทยวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย และมีคนสงสัยว่า สุ่มเสี่ยงมีปัญหาผิดกฎหมายใดหรือไม่ กกต.มีข้อสังเกตหรือจะติดตามอย่างไรหรือไม่ ว่า

ยังไม่ได้ดูข่าว แต่คาดว่า กกต.กทม. อาจจะไปติดตามดู พร้อมถามกลับว่าเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับอะไร ตนไม่ทราบ ซึ่งต้องขอดูกฎหมายก่อน แต่ถ้าเป็นพรรคการเมืองทุกคนคงไปได้ แต่หากไปทำอะไรที่เกินกฎหมายก็ต้องไปดูว่าไปทำอะไร หรือเป็นอะไรต้องไปดูตรงนั้นมากกว่า แต่ก็ต้องให้ข้อเท็จจริงปรากฏก่อนแล้วค่อยว่ากัน

อ่านข่าว : 26 มี.ค.”ทักษิณ” กลับเพื่อไทย ปัดร่วมบริหารงาน นายเก่ามาเยือน

“เรืองไกร” ชี้แทรกแซงพรรคการเมือง มีโทษถึงยุบพรรค

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่าจะจับตาดูกรณีที่นายทักษิณ เตรียมเดินทางไปที่ทำการพรรคเพื่อไทยเพื่อพบปะกับสมาชิกพรรควันพรุ่งนี้ ซึ่งหลังจากนายทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยก็มีการจับตาดูอยู่จากหลายฝ่าย แต่คงไม่มีประเด็นอะไรมากมายเพราะเป็นเจ้าของพรรคเก่า แต่คงเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง ดังที่เกิดขึ้นเสมอๆ เช่นตอนที่เดินทางไป จ.เชียงใหม่ แล้วนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และบุคคลอื่นๆ เดินทางไปพบ รวมถึงการเดินทางไปตัดผมเมื่อวาน (24 มี.ค.) นี้ก็เป็นประเด็นทางการเมือง แต่จะมีเรื่องอะไรหรือไม่ต้องดูข้อเท็จจริงก่อน

นายเรืองไกรเชื่อว่านายทักษิณคงไม่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการประชุมพรรคเพื่อไทย เพราะถ้าทำเช่นนั้นพรรคก็จะถูกจับตามองอีกครั้ง และสถานะของนายทักษิณไม่น่าจะเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ถ้าไปแล้วไปพูดในฐานะ ทั่วๆ ไปไม่ได้ก้าวก่าย แทรกแซงการบริหารของพรรคการเมืองที่ลูกสาวเป็นหัวหน้าพรรคก็ไม่มีปัญหา แต่ก็ต้องเป็นข่าวอยู่แล้วซึ่งลูกสาวท่านต้องระมัดระวัง

ส่วนจะมีกฎหมายข้อใดที่เปิดช่องให้ร้องเรียนได้หรือไม่นั้นนายเรืองไกรกล่าวว่า ต้องดูประเด็นข้อเท็จจริงก่อนเพราะ ตามกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 28 และ 29 ที่ระบุเกี่ยวข้องกับให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้าไปก้าวก่าย การทำงานของพรรคการเมือง ตามมาตรา 28 ที่ไปถึงข้อหายุบพรรคได้ ส่วนมาตรา 29 เป็นเรื่องเกี่ยวกับโทษบุคคลที่ไปแทรกแซง แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีข้อเท็จจริงไปถึงขนาดนั้น

นายเรืองไกร ยังกล่าวถึงการร้องเรียนในอดีตหลายครั้ง กรณีนายวิฑูรย์ นามบุตร และนายเกรียง กัลตินันท์ ที่มีการใช้โทรศัพท์หรือ Skype ซึ่ง กกต. เองมองว่าไม่มีข้อเท็จจริง ไม่มีน้ำหนัก ดังนั้นจึงต้องมีข้อเท็จจริงก่อน จะไปมองว่าท่านไปไหนไม่ได้เลยก็คงไม่ใช่ สามารถไปมาหาสู่กันได้ แต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรครวมถึง กรรมการบริหารพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย ก็ต้องระมัดระวัง เพราะสมัยก่อนเป็นการโทรศัพท์หรือ Skype เข้ามาก็ทำกันเงียบๆ ไม่กระโตกกระตาก ซึ่งส่วนตัวคงติดตามดูว่ามีข้อเท็จจริง ขนาดไหนแต่เชื่อว่านายทักษิณจะระมัดระวังตัว

อ่านข่าวอื่นๆ : 

“เสรี” ประเดิมอภิปรายรัฐบาล จวกแก้ระเบียบให้คนไม่ติดคุก-จี้เลิกแจกเงินดิจิทัล

“บิ๊กโจ๊ก” ยกเลิกลาพักร้อนไปอังกฤษ ขอลุยแก้ที่ดินเกาะหลีเป๊ะ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่