วันนี้ (27 มี.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 2/2567 ว่า ที่ประชุมได้รับทราบข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ที่ได้เสนอความเป็นไปได้ของแหล่งเงินที่จะนำมาใช้โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นอกเหนือจากการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท
ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ร่วมกันพิจารณา เพื่อหาข้อสรุปของแหล่งเงิน และนำมาเสนอให้บอร์ดชุดใหญ่พิจารณาอีกครั้งในวันที่ 10 เม.ย.นี้
นอกจากนี้ยังระบุว่า ในการประชุมเห็นว่า ควรพิจารณาทางเลือกแหล่งเงินที่จะใช้ในโครงการ และมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินโครงการไปพิจารณาจัดทำรายละเอียดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และเป็นไปตามข้อพึงระวัง หรือความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับมา
ยืนยันว่าจะดำเนินการโครงการ ด้วยความซื่อสัตย์ และสุจริต รอบคอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ ประชาชนโดยรวม จนรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด
อ่านข่าว จับ รอง ผอ.โรงเรียน หัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติด ลูกค้า ขรก.เพียบ
รอฟังข่าวดี 10 เม.ย.
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้รับทราบถึงสถานการณ์เศรษฐกิจมีปัญหาและมีความจำเป็นต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากมีการเติบโตต่ำของ GDP ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีการเจริญเติบโตสูงกว่าประเทศไทย
พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ สรุปหลักเกณฑ์ร้านค้าและสินค้า และมอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และบอร์ดรัฐบาลดิจิทัล (คณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล) สรุปการพัฒนาระบบและการจัดทำในลักษณะเปิด หรือ Open loop เพื่อให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจกระเป๋าเงินเข้าร่วมโครงการ
อีกทั้งมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติวางกรอบการตรวจสอบวินิจฉัย ร้องทุกข์ กล่าวโทษและการเรียกเงินคืน โดยให้ทุกหน่วยงานรายงานที่ประชุมฯ วันที่ 10 เม.ย.นี้ และคาดจะได้ข้อสรุปทั้งหมด และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนเม.ย.นี้
นายเศรษฐา ยืนยันถึงกรอบเวลาตามที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ได้แถลง โดยในไตรมาส 3 จะทำการลงทะเบียนร้านค้าและประชาชน และไตรมาส 4 เงินจะถึงมือประชาชน ซึ่งในที่ประชุมวันนี้ทุกภาคส่วนเห็นด้วย ต่างเห็นด้วยในขั้นตอนทั้งหมด ทั้งนี้ขอให้ทุกคนรอฟังข่าวดีในวันที่ 10 เม.ย.นี้
อ่านข่าวอื่นๆ
ชาวสวนระยองกังวล “น้ำแล้ง” กระทบผลผลิตทุเรียนลด 10%