วันนี้ (31 มี.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำหนดการเดิมวันพรุ่งนี้ (1 เม.ย.2567) ทีมทนายความจาก มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และศูนย์นิติธรรมสมานฉันท์จังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาทนายความ จะเดินทางไปศาลจังหวัดนราธิวาส
เพื่อยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 9 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของประชาชนจำนวน 85 คน ในระหว่างการขนย้าย หลังถูกจับกุมในการสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547
แต่เนื่องจากชาวบ้านหลายคนยังไม่พร้อม บางคนยังอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านจึงเลื่อนการยื่นฟ้องออกไปก่อน
ทั้งนี้การฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ 9 คน ทีมทนายความตั้งข้อหาว่า มีการหน่วงเหนี่ยวกักขัง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 และมาตรา 310 การฆ่าผู้อื่นและกระทำในลักษณะที่โหดร้าย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และ 289 (5) และยังเป็นเจ้าพนักงานที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อผู้อื่น เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ผู้เสียหายและญาติผู้ตายส่วนหนึ่ง ที่ได้ร่วมกันเป็นโจทก์ และมอบหมายให้ทีมทนายความทำคดีมีความตั้งใจมุ่งมั่นว่า การฟ้องร้องดำเนินคดีครั้งนี้ กระทำเพื่อจะแสวงหาความยุติธรรมให้กับผู้ตาย พวกเขาไม่ได้หวังผลเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ
ก่อนหน้านี้ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ติดตามความคืบหน้าของการดำเนินคดีอันควรมี เนื่องมาจากการสลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ ดังกล่าว และคณะกรรมาธิการฯได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้วยการเรียกเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงแล้ว
ปรากฏจากข้อมูลที่มีการชี้แจงต่อกรรมาธิการว่า ในสำนวนคดีไต่สวนการตาย พนักงานสอบสวนได้สรุปว่า ไม่รู้ตัวผู้กระทำความผิด และไม่ทราบถึงสถานะ และความมีอยู่ของสำนวนคดี
ข้อเท็จจริงนี้ทำให้เห็นว่า เส้นทางการดำเนินคดีอาญาที่พึงริเริ่มโดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้เกิดขึ้น ในขณะที่อายุความของการเป็นคดีอาญา กำลังจะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้เหตุการณ์ตากใบ จะผ่านมาแล้วเกือบ 20 ปี แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญ มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และด้วยวิธีการที่ทารุณโหดร้าย
แม้ญาติผู้เสียชีวิต จะได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลไปแล้ว แต่ผลพวงของเหตุการณ์ ยังคงเป็นที่รับรู้กันทั่วไป ทั้งเครือญาติครอบครัวที่สูญเสีย และประชาคมที่ติดตามกรณีนี้ ที่ต่างต้องการความยุติธรรม แต่ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนอย่างมากแล้วว่า กระบวนการทางคดีอาญาไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ได้
เพื่อจะหาตัวผู้กระทำความผิด ให้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี เพื่อให้มีการค้นหาความจริงและพฤติกรรมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อให้มีการลงโทษผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการเยียวยาความรู้สึก ของครอบครัวและผู้เกี่ยวข้อง
มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ร่วมกับมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และศูนย์นิติธรรมสมานฉันท์จังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาทนายความ ได้ร่วมกันรับมอบหมาย จากผู้เสียหายและญาติผู้เสียชีวิตบางส่วน ให้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีอาญา กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์สลายการชุมนุมและการขนย้ายดังกล่าว
ทั้งนี้ครอบครัวผู้เสียหายและทีมทนายความเชื่อว่า การทำความจริงให้กระจ่างและสร้างความยุติธรรมโดยอาศัยกระบวนการทางศาลเช่นว่านี้ จะส่งผลด้านดีอย่างมากต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีความขัดแย้งยืดเยื้อมายาวนานถึง 20 ปี
รายงาน : ติชิลา พุทธสาระพันธุ์ ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคใต้
(คลิปย้อนหลัง ออกอากาศเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2566)